“ประยุทธ์” หวังคนไทยรู้รักสามัคคีถวายในหลวง หลังพระอาการดีขึ้น ชมสื่อสร้างสรรค์เสนอข่าวลูกกตัญญู - มอเตอร์ไซค์รับจ้าง เก็บเงินคืนชาวต่างชาติ ระบุดูแล้วหายเหนื่อย โวความเชื่อมั่นต่างประเทศเริ่มกลับมา พอใจตัวเลขนักท่องเที่ยว เน้นพัฒนาขีดความสามารถแข่งขันของไทย แนะช่วยกันทำผลผลิตการเกษตรให้เกิดนวัตกรรมใหม่ โอดให้รัฐอุดหนุนอย่างเดียวไม่ไหว เผยลงนาม MOU รถไฟกับจีน ดันศูนย์กลางภูมิภาค วอนคนมีเหตุมีผลแทนฟังข่าวลือ ชื่มชม “ขุนพลช้างศึก” หลังทำผลงานดีชิงแชมป์อาเซียน อวยพรปีใหม่ล่วงหน้า ขอคนไทยมีความสุข อย่ากินเหล้ากันเยอะ
วันนี้ (19 ธ.ค.) เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ช่วงหนึ่งว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น พสกนิกรชาวไทยได้ยินดีพร้อมใจกันทำความดีถวายในหลวงฯ เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมายุครบ 87 พรรษา และในสัปดาห์นี้ชาวไทยทั้งประเทศก็ได้รับทราบข่าวดีอีกครั้ง เมื่อสำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 12 ว่า พระอาการทั่วไปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวดีขึ้น เสวยได้มากขึ้น ทรงบรรทมได้ดี และทรงมีพระวรกายแข็งแรงขึ้น ในโอกาสนี้ ผมขอเชิญชวนปวงชนชาวไทย ร่วมกันปฏิบัติตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลตลอดทั้งปี เพราะจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความยั่งยืนของอนาคตของประเทศเราในอนาคตด้วย
“ผมมั่นใจว่าการรู้รักสามัคคีของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า จะเป็นการถวายพระพรและเป็นการเสริมสร้างกำลังพระทัยแด่พระองค์ท่านให้หายจากอาการประชวรโดยลำดับ” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ขอขอบคุณสื่อทุกภาคส่วนทั้งสื่อวิทยุ โทรทัศน์ และ Social Media ที่นำเสนอในลักษณะสร้างสรรค์ สร้างกำลังใจให้แก่กัน แล้วก็สร้างการรับรู้ให้กับต่างประเทศด้วยในสิ่งที่ดีๆ ของไทย โดยนำเสนอข่าวลูกกตัญญู ด.ช.ศุภณัฐ ศรียอด หรือ น้องพร อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนวัดราชบพิธ ด.ญ.กนกวรรณ สุวรรณ หรือ น้องจ๊ะจ๋า อายุ 12 ปี โรงเรียนบ้านคลองขุด จ.สตูล และ ด.ญ.รุจิรา อุบลครุธ อายุ 9 ปี โรงเรียนทุ่งกลมตันหมัน จ.ชลบุรี ที่ช่วยกวาดถนนแบ่งเบาภาระบุพการีกวาดถนน แม้ในช่วงแรกจะรู้สึกอายเพื่อนเพราะถูกเพื่อนๆ ล้อเลียนอยู่บ้าง แต่ก็ใช้ความเพียรพยายาม อดทน อดกลั้น เพราะถือว่าเป็นอาชีพที่สุจริต การทำความดีเป็นสิ่งที่ไม่น่าอาย เช่นเดียวกับ น.ส.สุนิดา อาลีนะ ดูแลพ่อซึ่งเคยรับราชการทหารในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และถูกคนร้ายซุ่มยิงจนขณะนี้พิการเดินไม่ได้ วันไหนที่ต้องไปเรียน ก็จะเตรียมอาหารบรรจุถุงใส่รถสามล้อนะครับ และพาพ่อไปที่มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ด้วย ช่วงพักเที่ยงจะลงมาป้อนข้าวป้อนน้ำให้พ่อ โดยไม่นึกท้อหรืออายเพื่อนๆ เพราะถือว่าคุณพ่อเป็นวีรบุรุษ รวมไปถึงเรื่องความซื่อสัตย์ ของนายโกศล ใคลคลาย อายุ 48 ปี คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ได้นำเอกสารสำคัญ พร้อมเงินสดจำนวนหนึ่งไปคืน นายทาเลีย อูลาร์ฟ ยูเฟอร์ อายุ 44 ปี ชาวนอร์เวย์ นักปั่นจักรยานรอบโลก แม้จะเป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก แต่ก็ทำให้แขกผู้มาเยือนประเทศของเรารู้สึกประทับใจและซาบซึ้งถึงจิตใจที่ดีงามของคนไทย ที่มีความจริงใจและพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่น
“ผมติดตามมาตลอด เวลาเหนื่อยๆ เครียดๆ พอได้เห็นข่าวเหล่านี้จะรู้สึกมีแรงบันดาลใจเพิ่ม เหมือนเป็นการเติมพลัง ทำให้เราเห็นว่าสังคมไทยมีเยาวชนและคนดีๆ ที่น่ายกย่อง แล้วก็เป็นความหวังของชาติ อยากให้ทุกคนเอามาเป็นตัวอย่าง” นายกฯกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยว่า มีหลายอย่างด้วยกันทั้งการเพิ่มมูลค่าของผลิตผลทางการเกษตร การจัดตั้งโรงงานที่ใช้วัตถุดิบในประเทศ จะต้องทำให้มากขึ้น ตอนนี้รัฐบาลเร่งรัดเรื่องนี้อยู่ โดยในปีนี้จะมีโรงงานยางมาเพิ่มอีก 2 โรง ซึ่งช่วงนี้ต้องประชาสัมพันธ์ให้มากในการจัดตั้งโรงงานต่างๆ ในเรื่องของการส่งเสริมการลงทุน คาดว่าน่าจะถึง 8 แสนล้านบาทในปี 2557 ตนคิดว่าวันนี้เราได้ความเชื่อมั่นกลับมาพอสมควร การท่องเที่ยวก็ดีขึ้นก็ยอดนักท่องเที่ยวราว 23 ล้านคน อาจจะลงลงไปปีที่ผ่านมาเล็กน้อย นอกจากนี้การขับเคลื่อนทุกอย่างให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลนั้นจำเป็นต้องปราศจากการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญต้องดำเนินงานมาทั้งการบริหารในเรื่องของการจัดระเบียบ ในเรื่องของกระบวนการยุติธรรมด้วยให้ความเป็นธรรมทุกภาคส่วน โดยรัฐบาลกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ เพื่อเป็นการบูรณาการการแก้ไขปัญหา
ในเรื่องการของแข่งขันด้านผลิตผลทางการเกษตรของไทยกับต่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าของเราไม่แพ้ประเทศไหน หลายประเทศชอบผลไม้ไทยมาก แต่มีปัญหาในเรื่องของการตลาด เรื่องข้อตกลงทางการค้า และเรื่องมาตรฐานเกณฑ์ปลอดภัย วันนี้มีหลายประเทศระงับการขนส่งสินค้า ผลิตผลทางการเกษตร ผลไม้ อาหารทะเลต่างๆของเรา เราก็ต้องปรับปรุงคุณภาพมาตรฐานของเราให้ได้รับการยอมรับ นอกจากนี้แต่ละประเทศก็มีเอกลักษณ์ประจำตัว มีข้อได้เปรียบเสียเปรียบแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นเราต้องแสวงหาจุดเด่นของเราแล้วพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ เป็นที่ต้องการของตลาด ยกตัวอย่างข้าวหอมมะลิของไทยที่เคยได้รับการชื่นชมว่าเป็นข้าวที่ดีที่สุดในโลก วันนี้หลายประเทศพยายามที่จะปลูกข้าวหอมมะลิขึ้นมาแข่งขันกับเรา ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านก็มีการพัฒนามาตามลำดับจนทัดเทียม หรือเกือบทัดเทียมได้หมดแล้ว เราต้องเร่งพัฒนา หาความแตกต่าง ทำจุดเด่นให้เป็นจุดเด่นมากขึ้น ยกระดับคุณภาพสินค้าให้คงความโดดเด่น
สำหรับการแก้ไขปัญหาราคายางพารานั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ยางสามารถพัฒนาหลายรูปแบบ ประเด็นสำคัญของราคายางที่มีแต่ตกลงไปเรื่อยๆ ทุกปี เพราะการแข่งขันสูง วันนี้หลายประเทศปลูกได้หมดแล้ว จึงต้องคิดถึงนวัตกรรมใหม่ๆ คิดไปถึงว่า ยางรถยนต์ขนาดใหญ่ แล้วก็ยางเครื่องบิน วันนี้ก็บริษัทที่มาเขารับว่าจะพัฒนาภายในปีครึ่งให้ได้ หรืออย่างอื่น เช่น ทำพรมปูพื้น แผ่นปูรองพื้นสนามกีฬา เพื่อที่จะได้ยกระดับราคายาง
“ถ้าให้รัฐบาลอุดหนุนราคาอย่างเดียว คงไปไม่ไหวจริงๆ ผมอยากให้แทบตาย แต่ว่าไม่ไหวจริงๆ เพราะไม่มีสตางค์แล้วนะ ก็คงต้องอดทนกันไปนิดหนึ่ง ผมรู้ว่าเดือดร้อน เห็นใจ ไม่ได้หลอกลวงพี่น้องเลย ทุกคน มีหลายพวกด้วยกัน ทั้งข้าว ทั้งยาง ทั้งมัน หลายๆ อย่าง ผลิตผลการเกษตรที่ค่อนข้างจะมีปัญหา ถ้าเราช่วยอย่างหนึ่งอีกอย่างหนึ่งเดือดร้อนจะทำอย่างไร” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
นายกฯกล่าวต่อว่า ในเรื่องของการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ AEC ก้าวหน้าไปมาก เวลา 6 เดือนที่ผ่านมา 3 เดือนก็เอามาทบทวนแก้ปัญหาอะไรต่างๆ ที่เร่งด่วน อีก 3 เดือนก็ไปเยี่ยมเยือนรอบบ้านเขาบ้าง ไปประเทศไกลๆ ประเทศมหาอำนาจบ้าง ทั้งนี้ เพื่อจะเตรียมความพร้อมในเรื่องของการเป็นผู้นำของภูมิภาคอาเซียน โดยในห้วง 2 วันนี้เป็นวาระสำคัญประเทศไทย เราเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือ GMS Summit ครั้งที่ 5 ซึ่งเป็นความร่วมมือของประเทศอาเซียนภาคพื้นดินตอนบน โดยมีผู้นำจาก 6 ประเทศ ได้แก่ จีน เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา เวียดนาม และไทย ร่วมการประชุมกันที่กรุงเทพฯ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและเสริมสร้างขีดความสามารถทางเศรษฐกิจ และการพัฒนากฎระเบียบให้เกิดความเชื่อมโยงกันในภูมิภาคระหว่าง โดยการพัฒนาการเชื่อมโยงเส้นทางต่างๆต้องต่อกันให้ได้ รัฐบาลนี้ร่างไว้แล้ว ทั้งทางรถไฟ ทางถนน ทางน้ำ ก็เตรียมแผนไว้ จะได้คุยกัน ทั้งนี้ ได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ความร่วมมือ ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ 1. การค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทยกับจีน และ 2. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟความเร็วปานกลางของประเทศไทย 2 เส้นทาง คือ หนองคาย - แก่งคอย - มาบตาพุด และแก่งคอย - กรุงเทพฯ ที่เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาลในการยกระดับบทบาทของประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยง (Connectivity) กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับจีนและอินเดีย
พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงโครงการคืนความสุขให้เธอ...เยาวชน ซึ่งจัดขึ้นยโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้แนวคิดวิทยาศาสตร์ นำชาติยั่งยืน โดยตนได้ไปเปิดงาน ที่ท้องฟ้าจำลอง แต่ก็ยังมีกิจกรรมในจุดอื่นอีก 16 แห่ง เพื่อจะกระตุ้นความสนใจสร้างแรงบันดาลให้คนอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ เป็นคนมีเหตุมีผล
“เวลามีข่าวลือนั่นนี่ แล้วมาถามผม ผมตอบไม่ได้ ต้องเป็นวิทยาศาสตร์ นั่นเขาเรียกไสยศาสตร์หรือเปล่าไม่รู้ เมื่อวานมีคนถามผมเรื่องโชคลาง ซึ่งเป็นความนับถือของแต่ละคน ผมก็ไม่ไปลบหลู่ใคร ผมก็เชื่อมั่นว่า สำคัญต้องมีสติ ทำความดีไว้แล้วกันคุ้มครองทุกอย่าง พระเจ้าก็ไหว้ซะบ้าง ศาสนาไหนก็นับถือกันไป วันนี้สื่อเทคโนโลยีเร็ว โซเชียลมีเดียเร็ว เพราะฉะนั้นต้องมีสติอย่าเชื่อกันไปโดยไม่มีเหตุมีผล ทำให้เกิดผลเสียเกิดตื่นตระหนก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯกล่าวต่อว่า เรื่องคำขวัญวัรเด็กประจำปี 2558 ที่ได้ให้ไว้ว่า “ความรู้...ต้องมาคู่กับคุณธรรม” จะนำพาไปสู่อนาคต เพราะคนเป็นคนดีมีคุณธรรม รู้อะไรดีไม่ดี รู้อะไรโกงไม่โกง จะได้ไปด้วยกัน ทุกโรงเรียนทุกสถานศึกษาต้องดูแลนักเรียนให้ดี เหมือนรัฐบาลที่ทำอะไรก็เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพราะฉะนั้นครู สถานศึกษา กระทรวงศึกษาฯก็ต้องเอานักเรียนนักศึกษาเป็นศูนย์กลาง ความผูกพันธ์ก็เกิดขึ้น การปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียนก็ดี เหมือนพ่อแม่คนที่ 2 ฝากทุกคนให้ช่วยกันในการเสริมสร้างหน้าที่พลเมืองที่ดี สิทธิและหน้าที่ด้วยไปคู่กัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ ทางภาคเหนือและภาคอีสานกำลังยังประสบภัยแล้งและภัยหนาว พวกหนึ่งแล้งแล้วก็หนาว อีกพวกหนึ่งกำลังไปเที่ยวสวยงาม ขัดแย้งกัน ประเทศไทย เพราะมีความแตกต่างมีความเหลื่อมล้ำ ทำอย่างไรจะดูแลคนเหล่านี้ ไปเที่ยวเอาเสื้อหนาวหรือเสื้อผ้าเก่าๆที่ไม่ได้ใช้ติดไปด้วยมอบให้แก่คนเหล่านั้น นี่เรียกน้ำใจคนไทย หากคนที่นั่นนั่งสั่นงันงกอยู่ข้างทาง แต่คนไปเที่ยวถ่ายรูปสนุกสนาน มันดูขัดแย้งกัน วันนี้ต้องเผื่อแผ่กัน อีกอันคือเรื่องน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก หลายจังหวัดเดือดร้อนอยู่ ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลช่วยเหลือ ให้มีการป้องกัน และแก้ไขฟื้นฟูให้ได้โดยเร็ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของของขวัญปีใหม่ที่รัฐบาลจะมอบให้ ถือเป็นวัฒนธรรมไทยที่ปีใหม่ก็มีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้กัน รัฐบาลก็ไม่มีอะไรจะให้ นอกจากสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืน เป็นเรื่องอนาคตที่ต้องทำในขณะนี้อยู่ การปฏิรูปเป็นของขวัญที่ยั่งยืน ราคาผลิตผลการเกษตรจะขึ้นอย่างไร โดยการสร้างโรงงานอะไรขึ้นมา นั่นคือของขวัญที่ราจะมอบอย่างยั่งยืน แต่วันนี้ของขวัญที่ให้ปีใหม่จริงๆ ก็ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอย ซื้อของราคาถูกลง บางอย่างลดถึง 80% ตามที่กระทรวงพาณิชย์จัดมา ก็ต้องขอบคุณห้างร้านต่างๆให้การช่วยเหลือ เสียสละยอมลดกำไร ก็ขอให้เจริญๆ พวกไหนที่เอาเปรียบคน ตนว่าอยู่ได้ไม่นาน อย่าไปอุดหนุน เมื่อบ้านเมืองมีปัญหา รัฐบาลขอร้องก็ช่วยกันบ้าง
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวชื่มชมทีมฟุตบอลทีมชาติไทยที่กำลังแข่งขันในรายการเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ หรือฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนด้วยว่า ตนได้มีโอกาสดูผ่านทางทีวี เล่นดีทั้งคู่ ต้องขอขอบคุณขุนพลช้างศึก นักฟุตบอล โค้ช ผู้จัดการทีม ที่ได้สร้างความสุขให้กับคนไทย ที่สำคัญการรักษากติกา อะไรนิดๆหน่อยๆก็ให้อภัยกัน เป็นพี่น้องกัน เพื่อนบ้านกัน ไม่ถึงขนาดไปตบตีกัน อยากฝากให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ไปตรวจสอบด้วยหากมีความรุนแรงกิดขึ้นนอกสนาม หรือการขว้างขวดน้ำต่างๆ เพราะกระทบภาพลักษณ์ของประเทศ ทั้งนี้มองว่าสิ่งที่ดีคือเรามีไทยพรีเมียร์ลีก ทำให้เราได้คัดเลือกนักกีฬามาแล้วได้รวมทีมชาติไทย พัฒนาไปมาก
“นักฟุตบอลไปไหนก็ถูกคาดหวัง แต่อย่าไปตื่นเต้น เป็นเรื่องที่เป็นกำลังใจ อย่าไปกดดันตัวเอง ต้องมีสติ ขอบคุณทีมขุนพลช้างศึก ก็เป็นนักกีฬาทั้งทีมที่เป็นคนไทย แล้วก็กีฬาอื่นๆด้วย ที่ผ่านมาก็มีชื่อเสียง คว้าชัยชนะมามากมาย” นายกฯระบุ
ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนชาวไทยทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันสร้างประเทศไทยให้เป็นประเทศที่ร่มเย็นน่าอยู่มั่นคงแข็งแรงอย่างยั่งยืนในทุกมิติต่อไป ทุกคนต้องเตรียมความพร้อมที่จะเผชิญกับสถานการณ์ในวันข้างหน้า วันหน้าจะเกิดอะไรขึ้นไม่รู้ ถ้าเราแข็งแรง ก็จะผ่านไปได้
“ขอให้มีความสุขในปีใหม่ ทุกคนปลอดภัย เดินทางด้วยความสุข คนขับรถระมัดระวังอย่าดื่มสุรา การรื่นเริงต่างๆ ก็ดื่มสุราแต่น้อย ถ้าใครรู้ว่ามีหน้าที่อะไรก็ต้องระมัดระวัง อย่าให้มันเกินไปจนท่านควบคุมตัวเองไม่ได้ มันบานปลายมาเดือดร้อน ทะเลาะเบาะแว้ง สู้กัน ฆ่ากัน เสียดายชีวิต เกิดมาพ่อแม่เลี้ยงมาตั้งกี่ปี หมดเงินหมดทองไปเท่าไรไม่รู้ มาตายด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ขับรถตายเพราะเมาสุรา หรือตีกัน คนเราต้องหมั่นทำความดีนะ ไหว้พระไหว้เจ้า เคารพศาสนา ดูแลทุกคน เป็นกุศล จะได้มีชีวิตที่ยืนยาว แล้วก็เป็นสุข ดูแลคนอื่นเขาด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในที่สุด
คำต่อคำ : รายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” วันที่ 19 ธันวาคม 2557
สวัสดีครับพี่น้องประชาชนที่รักทุกคน ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น พสกนิกรชาวไทยได้ยินดีพร้อมใจกันทำความดีถวายในหลวง เนื่องในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมายุครบ 87 พรรษา และในสัปดาห์นี้ชาวไทยทั้งประเทศก็ได้รับทราบข่าวดีอีกครั้ง เมื่อสำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 12 ว่าพระอาการโดยทั่วไปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงดีขึ้น เสวยได้มากขึ้น ทรงบรรทมได้ดี และทรงมีพระวรกายแข็งแรงขึ้น ผมก็มั่นใจว่าการรู้รักสามัคคีของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าจะเป็นการถวายพระพร และเป็นการเสริมสร้างกำลังพระทัยแด่พระองค์ท่าน ให้หายจากพระอาการประชวรโดยลำดับ
ในโอกาสนี้ ผมขอเชิญชวนปวงชนชาวไทยร่วมกันปฏิบัติตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลตลอดทั้งปี เพราะจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความยั่งยืนของอนาคตของประเทศเราในอนาคตด้วย
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้นก็ขอขอบคุณสื่อทุกภาคส่วนที่ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งที่ดีๆ ให้กับคนไทยได้รับรู้รับทราบ ก็ขอความร่วมมืออีกครั้ง สื่อทุกแขนงในการนำเสนอข้อมูลสู่สายตาประชาชน เพื่อสร้างความรับรู้นั้นขอให้เป็นในลักษณะสร้างสรรค์ สร้างกำลังใจให้แก่กัน และสร้างการรับรู้ให้กับต่างประเทศด้วยในสิ่งที่ดีๆ ของไทย เพื่อสนับสนุนให้ทุกคนทำความดีด้วย เช่นที่ผ่านมานั้นผมได้เห็น และขอชื่นชมสื่อต่างๆ ทั้งสื่อวิทยุ โทรทัศน์ และ Social Media ที่นำเสนอข่าวของลูกกตัญญู ด.ช.ศุภณัฐ ศรียอด หรือ น้องพร อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนวัดราชบพิธ ที่ช่วยมารดากวาดถนนหลังเลิกเรียนมาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา แม้ในช่วงแรกจะรู้สึกอายเพื่อนถูกเพื่อนๆ ล้อเลียนอยู่บ้าง แต่น้องพรก็ใช้ความเพียรพยายาม อดทน อดกลั้น เพราะถือว่าเป็นอาชีพที่สุจริต การทำความดีนั้นไม่ใช่สิ่งที่น่าละอาย และเป็นหน้าที่ของลูกทุกคนที่ต้องตอบแทนบุญคุณบุพการี
ในเรื่องดีๆ อีกก็คือเรื่องของความซื่อสัตย์ของ นายโกศล ใคลคลาย อายุ 48 ปี คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ในย่านซีกิมหยง เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้นำเอกสารสำคัญ พร้อมเงินสดจำนวนหนึ่งไปคืน นายทาเลีย อูลาร์ฟ ยูเฟอร์ อายุ 44 ปี ชาวนอร์เวย์ นักปั่นจักรยานรอบโลก ถึงแม้จะเป็นจำนวนเงินที่ไม่มากนัก แต่ก็ทำให้แขกผู้มาเยือนประเทศของเรารู้สึกประทับใจและซาบซึ้งถึงจิตใจที่ดีงามของคนไทย ที่มีความจริงใจและพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นครับ
หลายข่าวก็มีมาเรื่อยๆ นะครับ ไม่ว่าจะที่ผ่านมาหรือว่าในปัจจุบัน ผมอาจจะเสนอได้ไม่หมดนะครับ เรื่องความกตัญญูอีกเรื่องหนึ่งก็คือ นักศึกษาหญิง น.ส.สุนิดา อาลีนะ ดูแลพ่อซึ่งเคยรับราชการทหารในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และถูกคนร้ายซุ่มยิงจนขณะนี้พิการเดินไม่ได้ วันไหนที่ต้องไปเรียน ก็จะเตรียมอาหารบรรจุถุงใส่รถสามล้อนะครับ และพาพ่อไปที่มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ด้วย ช่วงพักเที่ยงจะลงมาป้อนข้าวป้อนน้ำให้พ่อ โดยไม่นึกท้อหรืออายเพื่อนๆ คุณพ่อเป็นวีรบุรุษนะครับ
ผมติดตามมาตลอด เวลาเหนื่อยๆ เครียดๆ ก็เห็นข่าวเหล่านี้ก็มีแรงบันดาลใจเพิ่ม เหมือนเป็นการเติมพลังให้เราเห็นว่า สังคมไทยมีเยาวชนดีๆที่น่ายกย่อง และเป็นความหวังของชาติ ก็สอดคล้องกับค่านิยมไทยที่กล่าวไปแล้ว ก็อยากให้ทุกคนนำมาเป็นตัวอย่าง มีอีกมากมาย ฉะนั้นการให้ข้อมูลข่าวสารด้านลบแต่เพียงด้านเดียวอาจจะทำให้ มาบดบังคุณธรรมความดี ความเพียรพยายามของพี่น้องชาวไทยอีกหลายๆ คน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย เขามีจิตใจที่ซื่อสัตย์ แล้วก็คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติมากกว่าความเห็นส่วนตัวที่จะอยากได้อยากดีกับข้าวของของคนอื่น ผมคิดว่าน่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี ก็อยากให้ทุกท่านไม่ว่าจะเป็นเด็กนักเรียน พ่อค้าแม่ค้า คนขับรถแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์ พนักงานบริการ นักธุรกิจ และสื่อต่างๆ ต่างต้องตระหนักว่าทุกคนมีหน้าที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งไว้แล้วทุกคนทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดก็จะมีส่วนสามารถปรับภาพลักษณ์ในประเทศของเราในสายตาต่างประเทศได้จากการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการยิ้ม การแสดงน้ำใจ ความซื่อสัตย์ รักษากฎระเบียบ ความสะอาด บ้านเมืองเหล่านี้ หรือเป็นการนำเสนอสิ่งดีๆ ของบ้านเรา ความงดงาม ความเป็นบ้านเมืองที่วัฒนธรรมอันเก่าแก่ มีสถาบันพระมหากษัตริย์ มีโบราณสถานที่งดงาม เราก็ต้องช่วยกัน ช่วยกันทำให้ทุกคนในประเทศนั้นมีความสุข มีรายได้ ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง นี่เป็นสิ่งสำคัญ แล้วก็จะทำให้ชาวต่างชาติมาเยือนมากๆ มันก็เกิดรายได้กับกลุ่มของเราด้วย ทุกธุรกิจ การบริการมันจะเพิ่มขึ้น รายได้ก็มากขึ้น นี่คือสิ่งที่ผมอยากให้มันเกิดขึ้น
ในเรื่องของความประทับใจของชาวต่างชาตินั้น ประเทศไทยมีมากมาย ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนต้องช่วยกัน ช่วยกันเปลี่ยนทัศนคติ ลบภาพของประเทศไทยในสิ่งที่ไม่ดีหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งความขัดแย้ง ความวุ่นวาย ความไม่เป็นระเบียบ ไม่มีเสถียรภาพ ออกจากความทรงจำของชาวต่างชาติ ภาพเหล่านี้มันเกิดแล้วมันลบยาก แต่ผมคิดว่าถ้าเราทำ ช่วยกันทุกคนภายในชาติ ผมมั่นใจว่าเราทำได้นะ
นอกจากการปลูกฝังค่านิยมที่ดีแล้ว การสร้างสรรค์บุคลากรที่มีคุณภาพและคุณธรรมแล้ว การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในด้านอื่นๆ เป็นเรื่องสำคัญ เป็นอนาคตข้างหน้าของเรา ในเรื่องของการเชื่อมโยงระหว่างประเทศ ที่เรียกว่า Connectivity หลายๆ ด้าน ทั้งทางบก ทางทะเล เศรษฐกิจต่างๆ จะต้องเดินหน้าไปด้วยความยั่งยืน ในฐานะเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้านและประชาคมโลกอื่นๆ มันจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำพาประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย ให้มีบทบาทและอำนาจในการต่อรอง พัฒนาประเทศต่อไปได้ ในรูปแบบของ ทั้งประเทศไทยเอง และอาเซียนด้วย
ในเรื่องของการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันนั้นมีหลายอย่างด้วยกัน ทั้งการเพิ่มมูลค่าของผลิตผลทางการเกษตร การจัดตั้งโรงงานที่มันใช้วัตถุดิบในประเทศจะต้องทำให้มากขึ้น ตอนนี้รัฐบาลเร่งรัดในเรื่องนี้อยู่ ก็ทราบว่าในปีนี้จะมีโรงงานยางมาเพิ่มอีก 2 โรง ที่ทางด้านตะวันออก และที่มาอีกหลายบริษัทกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะมาเพิ่มอีกหรือไม่ ผมคิดว่าช่วงนี้ต้องประชาสัมพันธ์ให้มากนะครับในการจัดตั้งโรงงานต่างๆ
ในเรื่องของบีโอไอวันนี้เราสนับสนุนไปแล้ว คาดว่า น่าจะถึง 8 แสนล้าน ในปี 2557 ที่เราอนุมัติตามมาๆ ตามกฎกติกาใหม่ เพื่อจะสอดคล้องความต้องการของเรา ผมคิดว่าวันนี้เราได้ความเชื่อมั่นกลับมาพอสมควร การท่องเที่ยวก็ดีขึ้น ประมาณสัก 23 ล้าน ก็น้อยลงไปนิดหน่อยจากปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นสิ่งที่ดี จากพวกเราทุกคนช่วยกัน แล้วบ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยมีเสถียรภาพ ปลอดภัยขึ้น สวยงานนะครับวันนี้ ผมคิดว่าบ้านเราสวยงาม โดยเฉพาะเดือนนี้เป็นเดือนมหามงคลด้วยนะครับ สวยไปทุกที่เลย ขอบคุณทุกคนนะครับ ถ้ารักษาไว้ได้อย่างนี้ตลอดไปก็ดี
อีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องนอกจากการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันแล้ว เรื่องการขับเคลื่อนทุกอย่างให้มีประสิทธิภาพ มีประสิทธิผลนั้นจำเป็นต้องปราศจากการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญมันต้องดำเนินการมาทั้งในเรื่องของการบริหาร ในเรื่องของการจัดระเบียบ ในเรื่องของกระบวนการยุติธรรมด้วย ให้ความเป็นธรรมทุกภาคส่วน วันนี้เราได้ขับเคลื่อนในเรื่องนี้ให้มันชัดเจนขึ้น รัฐบาลกับ คสช.ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ เพื่อเป็นการบูรณาการ วันนี้มันอาจจะทำจากหลายส่วนด้วยกัน ทั้งต้นทาง กลางทาง ปลายทางเหล่านี้ จะมีกรรมการทุกภาคส่วน คงไม่ใช่เฉพาะราชการ ก็มีส่วนของภาคเอกชนมาด้วย คงไม่ใช่ไปชี้เป็นชี้ตายกับใครได้ เพียงแต่ว่าไปติดตามเรื่องนี้ว่าเอาอย่างไง จะไปเข้ากระบวนการยุติธรรมได้ที่ไหน เริ่มต้นหรือยัง หรือทำไปแล้ว จะได้เกิดความชัดเจนขึ้นนะครับ ช่วยๆ กันดูแลร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนต่างๆ พร้อมที่จะขับเคลื่อนให้ได้โดยเร็วนะครับ ที่ผ่านมาทำได้ดีพอสมควรแล้วในปัจจุบันนะครับ ก็ช่วยกันดูแลนะครับ ทุกมิติ การป้องกัน ปราบปราม หากประเทศเรานั้นสามารถกำจัดเรื่องนี้ได้จากสังคมไทย ผมคิดว่าจะพัฒนาไปได้อีกไกล งบประมาณจะใช้ได้เต็มที่ ประชาชนก็มีความสุขมีความมั่งคั่งขึ้น
วันนี้ต้องขับเคลื่อนด้วยงบประมาณของรัฐ ให้เกิดความลื่นไหลของเศรษฐกิจภายในประเทศได้ จะเกิดความอย่างยั่งยืนในอนาคต พร้อมกับสร้างความเข้มแข็งของภาคเศรษฐกิจนะครับ โรงงานเกษตรต่างๆ เกษตรอุตสาหกรรมให้พ่อแม่พี่น้องได้เข้ามามีโอกาสขายสินค้าในราคาของตัวเอง ราคาที่ตัวเองกำหนดเพราะลองดูนะครับ
ปัญหาของเราคือเรื่องของการผลิตอย่างเดียว แล้วก็ไม่รู้จะไปขายยังไง ไปพึ่งพาภาคเอกชนมากๆ ก็คงไม่ได้ สั่งการไปแล้วนะครับ ให้จัดตลาดที่จะเป็นตลาดขายตรงนะครับจากพี่น้องเกษตรกร เดิมอาจจะมีอยู่แล้ว เราจะส่งเสริมให้มากขึ้นนะครับให้กระจายไปทุกพื้นที่ ต่อไปเราอาจจะมี ไปซื้อของถ้าซื้อปลาดีๆ ไปตลาดนี้ ตลาดโน้น จะได้มีทางเลือกหลายทางไงครับ ในส่วนของส่งออกก็ว่ากันไป ในส่วนของขายปลีกก็กำหนดราคากันเอง ดูซิว่าจะขายได้ไหมราคานี้ที่พี่น้องต้องการ ถ้าไม่ได้ก็ต้องลดราคาลง จะได้รับรู้รับทราบว่าเป็นยังไงในกลไกการค้าขาย
ไม่งั้นะพี่น้องเกษตรกรก็ขายส่งอย่างเดียว ตัวเองก็ไม่ได้ผลประโยชน์อย่างเต็มที่ ลองดูนะครับ นี่สั่งการไปแล้ว ให้ความสนใจด้วย สั่งการไปกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตร กำลังดำเนินการอยู่นะครับ ก็ไปเติมของเดิมที่มีอยู่แล้วให้เข้มแข็งขึ้น ก็ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแล เรื่องการทุจริตในเรื่องของการส่งเสริมคนรายได้น้อยให้มีรายได้ แต่ขณะเดียวกันต้องเคารพกฎหมายด้วย กติกาสังคมมันมีอยู่ อย่างไรก็ตามไม่อยากให้ใครเดือดร้อนทั้งสิ้น
ในเรื่องของการแข่งขันระหว่างผลิตผลทางการเกษตรของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านนั้น หรือประเทศอื่นๆ นั้น ผมเชื่อว่าของเราไม่แพ้ประเทศไหน นะครับ วันนี้ผมได้รับข่าวดีมา ประเทศอินเดีย เขาส่งข่าวมาว่าคนอินเดียชอบผลไม้ไทยมากที่สุด อร่อย ฟอมหวาน หลายๆประเทศ แต่มันมีปัญหาเรื่องของการตลาด ในเรื่องข้อตกลงของการค้า ต้องเริ่มการเจรจา เราต้องปรับปรุงเรื่องเหล่านี้ แล้วก็เริ่มการเจรจาให้ทันเวลา แล้วก็เริ่มเปิดตลาดได้ ผลไม้ก็มีปัญหาอยู่นิดหนึ่ง การขนส่ง อะไรก็ลำบาก แล้วก็เรื่องมาตรฐาน เกณฑ์ปลอดภัย อะไรต่างๆ เหล่านี้ มันมีเยอะแยะ วันนี้ก็มีหลายประเทศที่มีการระงับการขนส่งสินค้า ผลิตผลทางการเกษตร ผลไม้ อาหารทะเลต่างๆ เราต้องดูกติกาว่าวันนี้เราอาจจะไม่สามารถกำหนดกติกาโลกได้ แต่เราก็ต้องปรับปรุงคุณภาพของเรา มาตรฐานของเรา ให้ได้รับการยอมรับ ผมคิดว่าด้วยพื้นฐานของเรา ดีกว่าอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราจะกำกับดูแล ควบคุมอย่างไร การส่งออก การนำเข้า จะมีสัดส่วนที่ทัดเทียมกันอย่างไร ผมบอกแล้วว่าเราต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่มีงบประมาณในการพัฒนาประเทศ และอาเซียน นี่ก็หารือกันอยู่ในอาเซียนด้วยกัน
แต่ละประเทศนั้นเขามีเอกลักษณ์ประจำตัว มีข้อได้เปรียบ เสียเปรียบ แตกต่างกันไป ถ้าประเทศใหญ่ก็กติกาเยอะหน่อย ประเทศเล็ก ก็โอเค พอพูดคุยกันได้ เพราะฉะนั้นเราต้องแสวงหาจุดเด่นของเรา แล้วก็พัฒนาให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ เป็นที่ต้องการของตลาด
วันนี้ทราบกันอยู่แล้วว่าค่าแรงประเทศไทยนั้นค่อนข้างสูง เรามองว่าในประเทศไทยค่าแรง 300 วันนี้มันถูก ถ้าเทียบประเทศเพื่อนบ้านแล้ว เรายังสูงกว่าเขา เพราะฉะนั้นผมคิดว่าถ้าเราลดต้นทุน พัฒนาคุณภาพ และพัฒนาสินค้าของเราให้มีเอกลักษณ์ เป็นที่ต้องการ เราก็สามารถจะเพิ่มราคาไปได้มากขึ้น แต่ถ้าสินค้าประเภทเดียวกัน ไม่มีความแตกต่าง แล้วต้นทุนการผลิตเราสูง มันก็ขายใครไม่ได้ มันขายไม่ได้เราก็จะเพิ่มอัตราค่าแรงต่างๆ มันก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องร่วมมือกัน ทั้งภาคแรงงาน ภาคการผลิตต่างๆ พ่อค้าคนกลาง อะไรก็แล้วแต่ แล้วก็ราชการ หน่วยงานของรัฐ ก็ต้องให้การสนับสนุน ยกตัวอย่างเช่น ข้าวหอมมะลิของไทย เคยได้รับการชื่นชมว่าเป็นข้าวที่ดีที่สุดในโลก วันนี้หลายประเทศพยายามที่จะปลูกข้าวหอมมะลิขึ้นมาแข่งขันกับเรา ประเทศเพื่อนบ้านก็มีการพัฒนามาตามลำดับ จนทัดเทียม หรือเกือบทัดเทียมได้หมดแล้ว การผลิตที่มีต้นทุนที่ถูกกว่า นี่เป็นประเด็นสำคัญ ทุกอย่างเลย ถ้าต้นทุนมันถูก เมื่อบวกราคาสินค้าไปแล้วมันก็ต้องถูกกว่าของเรา เพราะฉะนั้นเราจะแข่งขันได้นั้น ก็ต้องเร่งพัฒนา หาความแตกต่าง ทำจุดเด่นให้เป็นจุดเด่นมากขึ้น ให้มีการ ให้ผู้บริโภคเขาเลือกสินค้าที่มีคุณภาพดี เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะต้องแข่งก็คือ การยกระดับคุณภาพสินค้า หรือคุณภาพของเราให้คงความโดดเด่นให้ได้ เป็นเอกลักษณ์ มีกลิ่นหอม หุงขึ้นหม้อ อะไรก็แล้วแต่ แล้วก็มีประโยชน์ทางสุขภาพ เหล่านี้ต้องพัฒนา ต้องประชาสัมพันธ์ ให้เขาสนใจ เรียนรู้ แล้วมันจะเพิ่มราคาเหล่านี้ได้เอง ถ้าเรากำหนดเอง จะขายเองเท่านั้น เท่านี้ มันเป็นไปไม่ได้ แล้วก็เป็นปัญหากับประเทศในเรื่องงบประมาณในอนาคต ถ้าเราต้อง subsidize กันไปเรื่อยๆ
เหมือนกัน ต้นทุนการผลิตเป็นสิ่งสำคัญ พัฒนาพันธุ์ แม้กระทั่งข้าว และยางด้วย ผมเป็นห่วงพี่น้อง ทุกอย่างนะ เพราะว่าประเทศไทยมันก็มีปัญหาเรื่องระบบชลประทานด้วย ปริมาณน้ำฝนมันก็ไม่แน่นอนในปัจจุบัน วันนี้ก็ต้องไปแก้ว่า เก็บให้ได้ ทำยังไงลดต้นทุน ค่าปุ๋ยเป็นอย่างไร เดี๋ยวเราจะผลิตปุ๋ยเองได้ไหม มันเคยทำมาแล้ว และล้มเหลว ต้องทำให้ได้ความยั่งยืน ต้องดูว่าเรามีอะไรอยู่บ้างที่จะมาเป็นวัตถุดิบ และจะทำต่อไปให้สำเร็จในอนาคต
การผลิตข้าวปลอดสารพิษ ผมคิดว่าเป็นประเด็นสำคัญนะครับ ข้าวปลอดสารพิษ ส่งออกเมืองนอกนิยมมากราคาสูง และขายตามตลาดที่มีระดับสูงขึ้นไป ก็ต้องแยกประเภทตลาด ถ้ามันชัดเจนขึ้น ถ้าเหมารวมไปอย่างนี้มันไม่รู้ ไม่รู้จะไปขายที่ไหน ได้ราคาอย่างไร ถ้าเราผลิตข้าวคุณภาพดีไปขายในตลาดสูงพรีเมียม มันก็จะแพง มันจะถัวเฉลี่ยทำให้ข้าวอื่นๆ ยกระดับตามขึ้นมาด้วยเรื่องราคา เพราะฉะนั้นต้องลดต้นทุนให้ได้ แล้วใช้พื้นที่ในการปลูกให้มากขึ้น วันนั้นผมเห็นเกษตรกรมารับการอบรมของจากศูนย์การอบรมทางการเกษตร เรื่องเกษตรสมัยใหม่อะไรทำนองนี้ ก็ออกข่าวมาว่าใส่ปุ๋ยมาผิดมาเป็น 10 กว่าปีแล้ว 20 ปีแล้ว ใส่ปุ๋ยข้าวนี่ เคยใส่ปุ๋ยที่มีสัดส่วน เอ็น-พี-เค ก็ผิดสูตรมาตลอด ทำให้ข้าวได้รับเพียง 300 ถัง วันนี้พอได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ไป ก็ไปใส่ปุ๋ยให้ถูกได้ข้าวมา 450 ถัง ดีใจแทบตาย นี่คือสิ่งที่ต้องช่วยเหลือเขา การเกษตรสมัยใหม่จะทำอย่างไร เรื่องต้นทุน เรื่องค่าแรง ค่ารถไถ ผมก็คิดทุกวันว่า ทำอย่างไรมันจะเป็นไปได้ไหม มีของ อบต. อบจ.ที่จะช่วยเป็นพื้นที่ได้ไหม รวมนา 5 ไร่ 10 ไร่ มารวมเป็นแปลงใหญ่ และเช่าให้ราคาถูกลง เพราะว่าถ้ามารับจ้างไถในพื้นที่เล็กๆ มันก็ไม่คุ้มของเขา เขาก็ต้องขึ้นราคา ถ้าอย่างนี้ทำเป็นแปลงได้ไหม รวมเป็นแปลงใหญ่มา นี่มันต้องช่วยกัน ทุกคนต้องคิดแบบที่ผมคิด มันจะถูกจะผิด ผมคิดว่าน่าจะดี วันนี้เห็นบทเรียนมาหลายๆ พื้นที่แล้ว และหลายอย่างหลายพื้นที่เห็นปลูกข้าวก็ดีขึ้น
วันนี้เรากลับมาสนใจพวกนี้ดีกว่า และก็เอาภูมิปัญญาชาวบ้านมาดูว่า คันนาจะทำอะไร เมื่อปลูกข้าวไม่ได้ ทำนาปรังไม่ได้ ทำอะไร ผมเห็นบางพื้นที่เขาปลูกถั่วใช้เวลาสั้น ใช้น้ำน้อย แล้วถึงเวลาไถกลบไป เอาถั่วไปขาย และไถเถามันลงไปดินก็ดี มันก็เป็นปุ๋ย ในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมักลองดูว่า จะทำได้ไหม จุลินทรีย์ชีวภาพ ร่วมกับผักตบชวามีเยอะแยะไปหมด เอาขึ้นมากองๆ ไว้ และก็เป็นปุ๋ยวันหน้า ใบไม้อะไรต่างๆ ใช้ได้หมด เขามีคำแนะนำอยู่แล้วทางการเกษตรว่า ปุ๋ยหมักจะทำอย่างไร อินทรีย์ แต่มันจะช้าหน่อย เหนื่อยหน่อย แต่มันลดไปตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมเราจะต้องเอากำไรไปให้เขา และสร้างสารพิษ สร้างยา ยาฆ่าแมลงอีก เยอะแยะไปหมด กินเข้าไปก็อันตราย ฝากด้วยแล้วกันในกระทรวงเกษตรฯ กรมวิทยาการเกษตรต่างๆ ก็มีการคิดแมลงกำจัด การกำจัดโรค กำจัดอะไรที่มันมีผลต่อผลผลิต ก็เคยมีอยู่ ผมอยากให้เร่งรัดเรื่องนี้ออกมาให้ได้เพื่อจะลดการใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงในการกำจัดศัตรูพืช วัตถุเหล่านี้ที่เราจะมาทำปุ๋ยทำยาฆ่าแมลงของเราเองหาได้ทั่วไป ผมจำได้ว่าต้นสะเดาก็ทำได้ แต่มันเหนื่อยไง เพราะฉะนั้นซื้อเอามันง่ายกว่า พอง่ายกว่าต้นทุนมันก็สูง มันต้องช่วยกัน ทุกคนก็อาจต้องกลับมาเหนื่อยจนกว่าราคามันจะดีขึ้น ท่านก็อาจมีขึ้นใช้จ่ายมากขึ้น ครอบครัวก็ดีขึ้น ไม่ไปสร้างหนี้สิน หนี้ครอบครัว หนี้ครัวเรือนมากขึ้นก็อันตราย มันทำให้ประเทศชาติเดินหน้าไม่ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นต้องช่วยกัน อีกอันก็ผัก ผมพูดไปหลายครั้งแล้วว่าผักหาทานยากมาก ผักปลอดสารพิษ ถ้าเราทำมาแล้วส่งให้เป็นเรื่องเป็นราว แล้วเปิดตลาดพืชผักการเกษตรโดยตรงนี่ ชาวบ้านมาขายเอง กำหนดราคาเอง แล้วคนไปซื้อพอใจก็ซื้อราคานี้ เพราะมันสดนะ ถ้าไม่พอใจก็ขอลดราคา เป็นเรื่องของเกษตรกรตกลงกัน ผมว่าน่าจะดีนะ อย่าไปขายตัดราคากันเองก็แล้วกัน เราจะได้มีตลาดหลายๆ พื้นที่เพิ่มขึ้นมาเหมือนที่เรามี แต่ต้องกระจายไปหลายๆพื้นที่จะได้ไม่ต้องเดินทางไปไกลไปซื้อ ขับรถไปนานมาก ไม่ควรเกินครึ่งชั่วโมง ชั่วโมงหนึ่งที่จะไปซื้อของที่อร่อยอย่างนี้นะ คนก็ไปเที่ยวด้วย ครอบครัวก็มีการปฏิสัมพันธ์ พาลูกพาอะไรต่างๆ ไป ก็ขอให้ปลอดภัยแล้วกัน ขับรถขับลานะครับ
ในเรื่องของการปลูกข้าวหอมมะลิโลก วันนี้ก็เห็นในหนังสือพิมพ์บทความจากคอลัมนิสต์ ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ได้กล่าวถึงโครงการพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิโลก ก็ให้ความรู้กับพี่น้องชาวนาในเรื่องของการปลูกข้าวคุณภาพ ว่าทำอย่างไรไม่ให้ข้าวกลายพันธุ์ การควบคุมแปลงเพาะปลูก และการจัดการผลิตผล โดยไม่มีการทำสัญญาบังคับการขายแต่อย่างใดนะครับ
ขอบคุณนะครับ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ก็มีสิ่งดีๆหลายอย่างในสื่อนะครับ ก็ขอให้นำสิ่งเหล่านี้มาเสนอเป็นข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วย หลายๆ เล่ม นะครับ หลายๆคอลัมน์ หลายๆ สื่อ ที่มีเรื่องของเศรษฐกิจที่ดีๆ มีการทำอะไรต่างๆ ของรัฐบาลในสิ่งที่ใหม่ๆ ก็ดีกว่าไปเสนอข่าวสังคมแต่เพียงอย่างเดียว ผมไม่ได้ต่อต้านนะ ก็เสนอไป แต่ต้องเอาสิ่งดีๆ มาให้คนรับรู้ว่า ทำอย่างนี้ แล้วจะดี อย่างนี้ๆ สร้างความเข้าใจสิครับ อะไรที่เป็นปัญหา เป็นข้อติดขัดอะไรต่างๆ ก็บอกมา รัฐบาลก็พร้อมที่จะดูแล ผมก็ดูแลแก้ไขตลอดเพียงแต่ว่ามันยากเหมือนกัน ใช้เวลาสั้นๆ ไม่ได้นะ ก็ขอว่าต้องให้เวลากันนะครับ ท่านก็ต้องปรับตัวเอง เรารัฐบาลก็จะแก้ไข สนับสนุน ภาคเอกชนก็ต้องเข้ามาช่วย การดำเนินธุรกิจต่างๆ ก็ต้องลดราคาลง อะไรลง เพื่อให้พี่น้องประชาชนคนไทยอยู่ได้ เราต้องดูแลคนของเรานะครับ คนไทยต้องรักกันนะ อย่าเอากำไรกันมากเลย ตอนนี้ทุกคนก็เดือดร้อน
วันนี้ยางของเราสามารถพัฒนาหลายรูปแบบนะครับ เรียนไปแล้วว่า ประเด็นสำคัญของราคายาง ถ้าเราขายยางมีแต่ตกลงไปเรื่อยๆ ทุกปีๆ เพราะแข่งกันเยอะ รอบบ้านก็มีเขาก็ปลูกกันได้ ใครคิดว่าปลูกไม่ได้ วันนี้ปลูกได้หมดแล้ว แล้วก็ไปลงทุนในหลายประเทศนะครับ ที่มีพื้นที่อยู่เยอะ ไปปลูกทางโน้น ราคาถูกกว่า ต้นทุนต่อกิโลฯ ถูกกว่า เพราะฉะนั้นราคาเขาก็กำไรเยอะ ของเราพอต้นทุนสูง พอราคาต่ำกว่าต้นทุนก็ลำบากแล้ว เพราะฉะนั้นเราต้องเอามาทำนวัตกรรม คิดไปถึงว่า ยางรถยนต์ขนาดใหญ่ แล้วก็ยางเครื่องบิน วันนี้ก็บริษัทที่มาเขารับว่าจะพัฒนาภายในปีครึ่งให้ได้ โดยเร็ว โรงงานเหล่านี้ หลายๆ ประเทศสนใจนะ เอามาทำอื่นๆ อีก เช่นวันนี้ทำพรมปูพื้น วันก่อน สถาบันวิจัยของกระทรวงวิทยาศาสตร์ ก็เอามาให้ดู เป็นการเอายางมาทำเพื่อจะทำแผ่นปูรองพื้นสนามกีฬา ที่มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะไปสั่งซื้อมา มีปัญหาหมด ทำเองดีกว่า ผมสั่งการไปแล้ว ให้เอาอันนี้ผลิตออกมา แล้วก็ไปทำพื้นสนามฟุตซอลท์ สนามกีฬา หรือปูทางเดินอะไรต่างๆ ให้มันรวดเร็วขึ้น วันนี้ก็กำลังคุยกับบริษัทที่เป็นคนทำอยู่ เอายางของเรา โดยรับซื้อจากพี่น้องมา แล้วเข้าสู่กระบวนการผลิตให้ได้ จะได้ยกราคายาง
ผมถึงเรียนพี่น้องชาวนาว่า เราคิดทุกอย่าง ถ้า Subsidize เดียวไปไม่ไหวจริงๆ ผมอยากให้แทบตาย แต่ว่าไม่ไหวจริงๆ เพราะไม่มีสตางค์แล้วนะ ให้ได้เท่าไร ก็คงต้องอดทนกันไปนิดหนึ่งก่อนผมมรู้ว่าเดือดร้อน เห็นใจ ไม่ได้หลอกลวงพี่น้องเลย ทุกคน มีหลายพวกด้วยกันนะ ทั้งข้าว ทั้งยาง ทั้งมัน หลายๆ อย่าง ผลิตผลการเกษตรที่ค่อนข้างจะมีปัญหานะ อ้อย น้ำตาล อะไรอย่างนี้เยอะแยะ พันกันไปหมด ถ้าเราช่วยอย่างหนึ่งอีกอย่างหนึ่เดือดร้อนทำไง นี่ก็ไม่มีสตางค์ให้เขาแล้ว ต้องสร้างความเข้มแข็งให้ได้และก็สร้างความยั่งยืน วันนี้มันควรจะเกิดมาหลายปีแล้ว โรงงานขนาดนี้ วันนี้เรามียางขนาดนี้ แล้วเราก็ขายไปเรื่อยๆ ทุกปีๆ ขาดทุนมันตลอด พี่น้องก็ต้องมาเดินขบวนเสียเวลาเสียโอกาส บั่นท่อนจิตใจด้วย รัฐบาลเจ็บปวดกว่าท่านอีกเยอะแยะ เพราะเราอยากทำ ตั้งใจทุกอย่าง แต่มันติดขัดเรื่องปัญหาหลายๆ อย่าง กฎหมายก็กองทุนสวนยางต้องแก้กันหมด นี้คือสิ่งที่เราทำ ทำง่ายๆ จ่ายเงินง่าย แต่ปัญหาข้างหลังเยอะแยะไม่รู้จะทำไง ก็เห็นใจซึ่งกันและกัน โครงการพร้อมจะให้การสนับสนุนทุกโครงการที่เป็นสินค้าของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการตลาด ตลาดชุมชนผมเรียนไปแล้วเมื่อสักครู่ เป็นตลาดชุมชน ตลาดเกษตรกรที่ค้าขายโดยตรงได้บ้าง หรือทั้งหมด อะไรก็แล้วแต่ไปทำกันมา ผู้ผลิตผู้ขายสามารถพบปะกันได้ ส่งเสริมทักษะการขายให้ได้ พี่น้องได้เข้าใจ วันนี้เราขาดความเข้าใจในทุกมิติ ทุกประเด็นเลย ที่ผ่านมาไม่รู้รัฐบาลจะต้องทำอะไร ชาวบ้านก็ไม่รู้ ชาวบ้านเดือดร้อนยังไง รัฐบาลก็แก้ปัญหา อาจไม่ยั่งยืน เราวันนี้เราจะต้องแก้อย่างยั่งยืน แต่ต้องอดทน แก้ง่ายๆ มันแป๊ปเดียว แต่ไม่รู้จะเอาเงินจากไหนให้อีกแล้ว เศรษฐกิจมันตกต่ำ รายได้ประเทศมันน้อยลง ทำอย่างอื่นก็ไม่ได้ ลงทุนก็ไม่ได้ และอนาคตจะอยู่กันยังไง ก็ขอให้เข้าใจว่า 3 เดือนที่เข้ามาในนามรัฐบาล เราไม่ได้นิ่งนอนใจเลย หลายอย่างต้องสะสางปัญหาที่มันหมักหมมมานาน ซับซ้อน กฎหมาย พันธสัญญา ต่างประเทศก็เข้ามามีส่วนในการกำหนดมาตรฐาน กำหนดราคามาก สิ่งบางอย่าง เช่น การส่งออก ในเรื่องของผลิตภัณฑ์บางประเภท มีขั้นตอนตั้ง 8-9 ขั้นตอน ต้องผ่านมาตรฐานระดับหนึ่งไปก่อน ทำเสร็จ พอส่งหนึ่งจะส่งหนึ่งอ้าวมี 2 อีก มี 2 มี 3 มี 4 มี 5 มี 6 มี 7 มี 8 เขาเรียกว่ามาตรการทางการค้าไง แล้วเราเป็นประเทศเล็กๆ ลำบาก แต่เราก็ทำของเราให้ดี ใครก็อยากได้ แย่งกันด้วยซ้ำไป พี่น้องเกษตรกรก็ต้องเข้มแข็ง และก็เรียนรู้ อย่าไปทำตามธรรมชาติอีกต่อไป ต้องศึกษาด้วย ทุกเรื่อง
วันนั้น ที่ผมเคยคุยไว้แล้ว เรื่องความร่วมมือทุกมิติ ทั้งการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ การลงทุน สังคม วัฒนธรรม กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นพันธมิตรดั้งเดิม และใหม่ๆ ด้วย วันนี้ที่เราแบ่งทั้งอาเซียน ทั้งประชาคมโลกอื่นๆ ทั้งประเทศหมู่เกาะ และประเทศในตะวันออกกลาง ขณะนี้รัฐบาลได้จัดกลุ่มเหล่านี้ไว้แล้วว่าเราจะตกลงกันอย่างไร ค้าขายกันอย่างไร ให้เกิดความทัดเทียมกัน อย่างน้อยเราก็เพิ่มคู่ค้าให้มากขึ้น มันจะได้มีตลาด อย่าไปปล่อยให้มันเป็นตลาดขาประจำอย่างเดิม วันนี้ต้องพัฒนา แล้วก็การพัฒนาสินค้าให้เป็นระดับพรีเมียม มีแบรนด์ มีอะไรต่างๆ สำคัญทั้งนั้นนะ เหล่านี้จะทำให้ประชาชนมีความมั่งคั่งขึ้นในอนาคต วันนี้มันยังไม่ได้ ก็ไม่ได้ ก็ต้องใช้เวลา ก็จะให้เร็วที่สุด
ในห้วงวันที่ 11-12 ธันวาคม ได้มีโอกาสไปเยือนสาธารณรัฐเกาหลี ก็มีการประชุม 4 เวทีด้วยกัน สิ่งที่เป็นประเด็นก็คือ เป็นการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ 9 ประเทศในอาเซียนก็ไปประชุมที่โน่น ก็ไปทุกประเทศ โดยรวมแล้วก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในเรื่องของการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อาเซียนกับเกาหลี เพราะว่าเขาเข้ามาช่วยเหลือ สนับสนุนหลายโครงการด้วยกัน เป็นประเทศที่มีสถานภาพทางเศรษฐกิจดี ดีมาก ในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นก็ต้องมาช่วยกันหาความร่วมมือ แสวงหาความร่วมมือร่วมกัน ทั้งการตลาด การผลิตต่างๆ แลกเปลี่ยนสินค้า เชื่อมโยงอะไรต่างๆ เหล่านี้เป็นความท้าทาย ว่าเราทำอย่างไรจะให้เกิดความมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะฉะนั้นในอาเซียนอะไรต่างๆ ก็ต้องเชื่อมต่อกันให้ได้ ยุทธศาสตร์จะต้องต่อกัน มันจะได้ต่อไปประเทศอื่นได้ที่มีความเข้มแข็ง มันก็เป็นความท้าทาย เราอย่ามองว่าวันนี้มีวิกฤต ราคาสินค้าตก อันนี้ก็ไม่ดี นั่นก็ไม่ดี ถ้ามองเรื่องไม่ดีมันก็ท้อแท้นะ ผมว่า มองอนาคตดีกว่าว่าจะทำกันอย่างไร ทำยังไงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะฉะนั้นเราก็ตกลงกับเกาหลีว่าเราจะร่วมมือระหว่างอาเซียนกับเกาหลี ไม่ใช่เฉพาะไทยอย่างเดียวนะ ในส่วนของไทยก็คือไทยกับเกาหลี ในส่วนของอาเซียนกับเกาหลี มันก็เป็นภาพรวม จะทำยังไงให้มันไม่มีปัญหาระหว่างกัน มันจะมีการค้าขายที่ทัดเทียมกันได้ไหม บางเรื่องแลกเปลี่ยนกันได้ไหม เพิ่มขึ้นได้ไหม ส่วนใหญ่เราจะน้อยกว่าหมดนะ อย่างที่บอกแล้ว ถ้าเข้มแข็งพอ เราก็จะต่อรองได้มากกับทุกประเทศ ในการร่วมรับรองแถลงการณ์การประชุมสุดยอดอาเซียน ในโอกาสครบรอบ ปีนี้เป็นสมัยพิเศษครบรอบ 25 ปี คุยกันเรืองวิสัยทัศน์ในอนาคตของหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ในเรื่องของการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ นำมาซึ่งความสุข มันก็ความหมายชัดเจนอยู่แล้ว แต่ละประเทศเขาไว้วางใจ ไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน เศรษฐกิจการค้าก็จะเกิดขึ้น มีเสถียรภาพยั่งยืน
ประชาชนมีความสุข มั่งคั่งอะไรทำนองนี้ เพราะฉะนั้นกำหนดทิศทางไป 6 ด้านที่จะร่วมมือกันในอนาคต ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคงเพื่อสันติภาพของภูมิภาค เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องสังคมและวัฒนธรรมเพื่อความสุขร่วมกัน ความเชื่อมโยงในอาเซียนในหลายมิติ การแก้ไขปัญหาในภูมิภาคระหว่างประเทศที่มีความขัดแย้งกันอยู่บ้าง น้อยมากในวันนี้ และการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลไกความร่วมมืออาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ในเรื่องของการประชุมสุดยอดภาคธุรกิจอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ก็มีหลายบริษัทมาฟัง ผมได้รับโอกาสให้เป็นผู้บรรยายพิเศษในหัวข้อ “แนวโน้มเศรษฐกิจโลกและบทบาทของเอเชีย” ก็ได้ใช้โอกาสนี้ได้พูดกับเขาถึงบทบาทสำคัญของภาคเอกชนในการผลักดันให้เอเชีย - แปซิฟิกเป็นศูนย์กลางแห่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคและของโลก โดยภาครัฐและภาคเอกชนต้องร่วมกัน ทั้งเราทั้งเขาต้องร่วมมือกันให้ได้ 2 ช่องทาง รัฐต้องสนับสนุนเต็มที่ ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในสาขาที่ตนเองมีศักยภาพ เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน วันนี้ที่เราคุยกันก็คือ ประเทศไทยเราต้องการ เทคโนโลยีและการผลิตนวัตกรรม พลังงาน และเกษตรกรรมที่แปรรูป ได้แสดงให้ประเทศสมาชิก หรือภาคเอกชนต่างๆ ของสาธารณรัฐเกาหลี ได้เห็นถึงความพร้อมของประเทศไทย และให้มีการส่งเสริมการลงทุนให้มากขึ้น
ในส่วนในวันนี้นั้น ได้ขอร้องนักธุรกิจเกาหลีใต้ และอาเซียนทุกประเทศให้มีความร่วมมือกันให้มากขึ้นในมิติการค้าขายเหล่านี้ และช่วยในเรื่องของราคาสินค้าทางการเกษตร การแปรรูปต่างๆ ให้มันมีมูลค่าสูงขึ้น ประชาชนจะได้มีความสุข พี่น้องเกษตรกรจะได้มีความสุขยิ้มซะที ผมเห็นเหนื่อยกันมามากทั้งชีวิตแล้ว เราจะได้ช่วยเพิ่มศักยภาพของเราด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี วันนี้เรากำลังเร่งรัดตรงนี้อยู่ เรื่องของกองทุน
เรื่องของการเข้าถึงในเรื่องของการปรับปรุงคุณภาพต่างๆ กำลังเร่งรัดอยู่ทั้งหมด อีกเรื่องคือเรื่องของเศรษฐกิจดิจิตอล ในเรื่องของ ไอทีต่างๆ เกาหลีมีความก้าวหน้ามากนะครับ ถ้าทุกคนไปจะเห็นว่า เขาทำได้รวดเร็วมาก เราคงไม่น้อยหน้าเขา เพียงแต่ต้องสนับสนุนกันให้ตรง ถ้าเราทำทุกอย่างๆ กันพร้อมไปหมด มันไปไม่ได้ รัฐไม่มีเงินไปลงทุนให้ เอกชนไม่เข้มแข็งพอ และเราก็ได้สินค้าที่สู้เขาไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราต้องเลือกว่า ธุรกิจใดๆ ที่จะเป็นรายได้ของประเทศ อะไรที่จะมีเงินมาขับเคลื่อน อะไรที่ประชาชนจะใช้ของได้ราคาสินค้าที่มันควบคุมได้ ราคาถูก เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมาคิดในภาพรวมทั้งหมดเลย วันนี้เราได้บอกเขาว่า เราเปิดเขตเศรษฐกิจชายแดนขึ้นมาอีกในปีนี้ 5-6 แห่ง และปีหน้าอีก 7 แห่ง เพราะฉะนั้นเขาก็สนใจ เพราะว่ามันเป็นการเชื่อมต่อ Conectivity กับประชาคมอื่นๆ ด้วย และจะเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจในประเทศ ถ้าเราทำได้มันจะดี เรื่องวาระของชาติเราก็บอกเขาไป เรามีในเรื่องของการกำจัดขยะ แปรสภาพขยะให้เป็นพลังงานเหล่านี้ ปรับสัดส่วนพลังงานเราอย่างไร เพื่อให้สะท้อนต้นทุน วันนี้ทุกคนก็โอเค เขาก็เห็นเราทำได้ เขาก็ทำกัน ในบางประเทศเขาทำกันหมดลแว บางประเทศเขาก็ดูไทยอยู่เหมือนกันว่าทำได้ไหม
การแปรสภาพขยะแล้วให้ขยะมีมูลค่านี่สำคัญ พี่น้องอย่ารังเกียจเลยขยะ หลายประเทศเขารวยกันไปเยอะแล้วจากขยะ แต่ปัญหาของเราคือจะทำอย่างไรให้มีที่ทิ้งขยะที่มันแยกแต่ละประเภท ต่อไปธุรกิจในการกำจัดขยะเหล่านี้อาจจะมีคนมารับไปก็ได้ วันนี้ก็มีอยู่บ้างแล้ว แต่ไม่ทั่วถึงนะ เขาก็จะมาประมูล มาเลือกซื้อขยะในแต่ละกล่อง แต่ละกล่อง ก็เป็นรายได้อีกนะ แล้วที่เหลือจาการคัดแยกเหล่านี้ ก็จะไปถึงพี่น้องคนอื่นๆ อีกมันเป็นธุรกิจที่ต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นต้องทำนะ จะให้ไปรวมอยู่ที่ใครคนใดคนหนึ่งมากมายจนเกินไปไม่ได้ แล้วก็ถ้าทำได้ นอกจากการแยกขยะแล้ว การทำธุรกิจขยะได้แล้ว การขนย้ายก็เป็นงานอีกงานหนึ่ง การให้บริการขนขยะ ต่อไปอาจจะให้เอกชนมาทำได้ไหม และขนแยกไป วันนี้เวลาเช้ามาขนขยะที่เน่าเสียหรือใช้ไม่ได้ เศษอาหารเศษอะไร เผื่อจะไปใช้ประโยชน์อะไรได้อีก แต่ขนเวลาเช้าจะได้ไม่สกปรก วัสดุอื่นที่มีราคาก็มาเก็บตอนสายหน่อย แต่ต้องมีเอกชนมาร่วมหรือเปล่าไม่รู้นะ เพราะว่าทาง กทม. มหาดไทย อบท.ท้องถิ่น ก็คงลำบากที่จะใช้เงินงบประมาณรัฐลองไปหาดูสิ ผมว่าทุกอย่างต้องใช้ Outsource มาลงทุน มาร่วมกัน แล้วให้ประโยชน์ไป แต่ข้อสำคัญประเทศชาติจะได้อะไร เป็นธรรมแล้วกัน แล้วประชาชนมีส่วนร่วม เหล่านี้ถ้าไม่คิดอย่างนี้นะ อะไรก็ไม่ได้ อะไรก็ไม่ได้ แล้วจะเกิดธุรกิจอะไรเกิดขึ้นมา แล้วประชาชนจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ ต้องทำทุกอย่างให้เป็นประโยชน์นะครับ
ในเรื่องนี้ในส่วนของไทย - เกาหลี ก็ร่วมกันทั้งหมด ตกลงว่าจะร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ก็อย่างที่บอกเราต้องเอาส่วนดีๆ ไปคู่กับเขา เราพร้อมอะไรบ้าง และรับปากต่างคนต่างดูแลธุรกิจทั้งสองฝ่ายกันอย่างเต็มที่
ก็อย่างที่บอกแล้ว เราต้องเอาส่วนดีๆ ไปสู้เขา ว่าเราพร้อมอะไรบ้าง แล้วก็รับปากกันต่างคนต่างดูแลธุรกิจทั้งสองฝ่ายเต็มที่ เราดูแลของเขา เขาดูแลของเรา วันนี้เราก็ตกลงกันว่าจะตั้งคณะทำงานดูแลเป็นพิเศษ ในฐานะที่มีความใกล้ชิดกัน ทุกประเทศนะเราพร้อมที่จะมีคณะทำงานดูแลเป็นพิเศษในการที่จะกระชับความสัมพันธ์ ในการที่จะเชื่อมต่อ ในการที่จะค้าขายร่วมกัน มันต้องมาคุยกันแล้ว นานๆ คุยทีไม่ได้ ไปเยี่ยมทีแล้วคุยที ไม่เกิด เพราะฉะนั้นกลไกของรัฐต้องมีการประสานงาน ทั้งฝ่ายต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ มีการประชุมร่วมกัน เราต้องวางยุทธศาสตร์ตรงนี้ให้แต่ละกระทรวงสามารถไปคุยกับเขาได้ว่าเราจะเดินหน้ายังไง วันนี้เขาถามกลับมา ที่ผ่านมาตอบเขาไม่ได้ วันนี้ผมตอบได้หมดว่าเราจะเดินหน้าประเทศยังไง เป็นประเทศด้านการเกษตร แต่เป็นเกษตรอุตสาหกรรม พร้อมกับมีการพัฒนาอุตสาหกรรมหนัก หรือกลาง หรืออะไรที่ไม่มีมลพิษ เพราะว่าถ้าไม่มีอุตสาหกรรมเลย รายได้ประเทศจะน้อย เราต้องหาดูว่าจะทำอะไร ก็น่าจะทำที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร ใช่ไหม ทำให้เป็นอุตสาหกรรม แล้วขายได้เยอะๆ มีคุณภาพ ราคาสูง ต้องพัฒนาเครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือ เพราะฉะนั้นมันก็ต้องไปแก้กติกาของบีโอไอ ของบีโอไอก็ไม่ต้องกังวลนะ ถึงแม้จะแก้ไขสิทธิประโยชน์ไปแล้ว ก็ให้เลือกได้นะ ให้เวลาในการเปลี่ยนผ่าน ผมสั่งการไปแล้วล่ะ ในส่วนของบีโอไอ ในกติกาใหม่ ใครจะเลือกแบบนี้ แบบนั้น ก็อาจจะมีเวลาให้ระยะหนึ่งเป็นระยะส่งผ่าน อย่ากังวล เดี๋ยวเขาไม่มาลงทุนจะเดือดร้อน เพราะฉะนั้นก็ให้เลือกไประยะหนึ่ง ร้านใหม่ก็ปรับปรุงไปได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ก็เยียวยาให้ความเป็นธรรมกับคนเขาด้วย ผู้ลงทุนก็ต้องเคารพกติกาด้วยเหมือนกัน เชิญนะครับ ทุกประเทศ มาได้เลย
ก็จะเร่งกระชับความสัมพันธ์กับเกาหลี ที่ไปมา ทุกด้าน เราก็จะให้ทางรองนายกฯ ทางรัฐมนตรีต่างประเทศ หรือว่าสถานทูต ติดต่อประสานงานตลอดเวลา และในส่วนของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ก็ยินดีทุกเรื่องเหมือนกัน ผลไม้ไทยเคยเข้าเกาหลีได้ 7 ชนิด ผลไม้เกาหลีเข้าไทย 20 ชนิด ทำยังไงมันจะทัดเทียมกันได้ไหม ท่านก็รับไปแล้วว่าจะไปหาทางดู ผมถึงบอกว่ามันยากนะ
การนำเข้าไก่สดแช่แข็งของไทยวันนี้ เคยยกเลิกกันไว้ เคยห้ามไว้ เนื่องจากโรคซาร์ส โรคไข้หวัดนก ที่ผ่านมา วันนี้มันเลิกไปตั้งนานแล้ว ก็ยังเข้าไม่ได้อยู่เลย ผมก็เรียนท่านว่า ขอให้ช่วยเราตรงนี้เถอะ แล้วเขาจะให้เราช่วยอะไร เราก็จะช่วยเขา เรื่องการลงทุน เรื่องการบริหารจัดการน้ำ ผมก็บอกว่าเรายินดีนะ ยินดีทุกอย่าง ที่เคยทำกันไว้สมัยรัฐบาลก่อนๆ ก็มาคุยกัน มาประมูล อะไรต่างๆ เราก็จะดูแลให้ ทุกเรื่อง พร้อม
ในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานก็มีหลายเรื่อง ระบบราง ระบบรถไฟความเร็วสูง ประเทศเกาหลีใต้ และหลายๆ ประเทศก็มีศักยภาพ ทุกคนก็สนใจหมด เดี๋ยวก็มาว่ากัน ก็ต้องหาทางร่วมมือระหว่างกันให้ได้มากที่สุด ภาคเอกชนก็ดีใจ เข้าใจ เช่น ฮุนได ซัมซุง ล็อตเต้ ฮันวา พอสโก ซิลลา เควอเตอร์ และฮานา เข้าร่วม หลายๆ เรื่องก็ได้ชี้แจงนโยบายรัฐบาลไทยจะดูแลอย่างไรให้เท่าเทียม
เกาหลีใต้ลงทุนในไทยมูลค่า 8.9 หมื่นล้านบาท แต่ก็ยังน่าจะมีมูลค่าในการลงทุนมากขึ้นกว่านี้อีกมาก โอกาสยังมีอีกเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนอุตสาหกรรม เทคโนโลยีขั้นสูง อุตสาหกรรมยานยนต์ การลงทุนมาตรฐาน เรื่องมาตรการของบีโอไอก็ปรับให้ ให้ทันสมัย เพื่อจะได้สร้างแรงจูงใจ แล้วก็มีการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ให้มากขึ้น เรื่องเอสเอ็มอีก็คุยกับเขาเหมือนกัน เอสเอ็มอีนี่คุยกันทั้งโลกนะ วันนี้ต้องดูแล ประเทศไทยมีเป็นล้านๆ แห่ง ทำยังไง เป็นเศรษฐกิจของในระดับพื้นล่างด้วย ในการจ้างแรงงาน และในการรับซื้อผลผลิต นำไปสู่การส่งออก นำเข้า อะไรก็แล้วแต่ อันนี้ไปเกื้ออันนี้ ผลิตออกมา แล้วก็เป็นวัสดุต้นทุนของกิจการอีกกิจการหนึ่ง อันนี้ทุกคนต้องเข้าใจนะว่า ไม่ใช่ว่าอันนี้ขายไปแล้ว หรืออันนี้ทำไมถึงภาษีน้อย ทำไมถึงต้นทุนน้อย น้อยเพราะนี่ต้องไปผลิตอย่างอื่น ถ้าผลิตในประเทศไทย ภาษีตรงนี้ ในเมื่อเขาเสียตรงนี้ไปแล้ว แล้วเดี๋ยวเขาต้องมาเสียตรงนี้อีกรอบหนึ่ง ถ้าเราเก็บตรงนี้สูง มันก็ไปตรงนี้ไม่ได้ มันต้องเข้าใจตรงนี้นะ
ในเรื่องของการเตรียมการมีความพร้อมของเราในการเข้าสู่เออีซี ผมคิดว่าเราก็ก้าวหน้าไปมากนะ ใช้เวลา 6 เดือนที่ผ่านมา 3 เดือนก็มาทบทวนแก้ปัญหาอะไรต่างๆ ที่เร่งด่วน กฎหมาย ข้อตกลงต่างๆ ต้องทำให้ได้นะแล้วไป อีก 3 เดือน ตอนนี้ก็ไปเยี่ยมเยือนรอบบ้านเขาบ้างไปประเทศไกลๆ ประเทศมหาอำนาจบ้าง ทั้งนี้เพื่อจะเตรียมความพร้อมในเรื่องของการ เป็นทั้งผู้นำ ผมไม่อยากจะใช้คำว่าผู้นำ แสดงบทบาทของอาเซียนนะ ของผู้นำอาเซียนดีกว่า ทุกคนเป็นผู้นำหมด ผู้นำอาเซียนไงนะ เราก็เป็นผู้นำของเรา
อีกอันที่ผมทราบจากอินเดีย เขาสนใจประเทศไทย นอกจากเป็นเรื่องผลไม้แล้ว ยังเรื่องจัดงานแต่งงานในประเทศไทย ชอบประเทศไทย จัดการแต่งงานได้สวยงาม วัฒนธรรมประเพณีก็ไม่ต่างกันมากนัก สร้างงานทั้งหมด เดี๋ยวเชิญมาจัดงานแต่งงานที่ประเทศไทยเยอะๆ อาจจะเป็นเที่ยวบินพิเศษไหม ปีนี้ หน้านี้ อากาศเย็น แต่งกันที่ไหนสวย วิวทิวทัศน์ดี ผมว่ามันต้องไปแบบนั้นแล้วนะ ต้องคิดหาช่องทางโอกาส ไม่ใช่เหมือนเดิม ใครอยากมาก็มา ไม่ได้ หรือมีช่วงบินพิเศษ มีรางวัล ลดราคาอะไรก็แล้วแต่ ทั้งท่องเที่ยว จัดงานแต่งงาน หมอ พยาบาล เปิดการรักษาโรคนั้นโรคนี้ ราคาที่ลดกว่าปกติ เรามีชื่อเสียงอยู่แล้วไง ที่ผ่านมาก็ราคาแพง เวลาต่างประเทศมา ก็ลดให้เขาสักหน่อย เขาก็จะมาเยอะขึ้น ถ้าเยอะมากๆก็จัดวาระเอาเที่ยวบินไป เยอะแยะ ว่างๆ ไปทำมา
สัปดาห์ที่ผ่านมาเรื่อง การประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน+3 สมัยพิเศษ ผมก็ได้เชิญ ประเทศในอาเซียนมาประชุมในประเทศไทย ก็มากันหมด ทุกคนให้ความสนใจ เราก็เอาประสบการณ์ที่มีกับ โรคซาร์ส กับ ไข้หวัดนกมาเป็นแนวทาง ทุกคนให้ความสนใจ และที่ผ่านมาก็ได้รับความชื่นชม จาก UN ด้วยว่าเราสามารถจะนำในเรื่องนี้ได้ ก็เป็นเรื่องที่ดี เดี๋ยวประเทศอื่นเขามีอะไรดีๆ เขาก็เชิญเราไป เราก็ไปกับเขา นี่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือ และโชคดีที่โรคนี้ยังมาไม่ถึงไทย แต่เราต้องมีมาตรการป้องกัน มีตั้ง 5 มาตรการ เดี๋ยวคงทราบกันอยู่แล้ว ทุกคนต้องเฝ้าระวัง ทุกคนต้องเรียนรู้ ว่ามันอันตรายอย่างไร จะป้องกันตัวเองอย่างไร ตื่นตัว แต่ไม่ตื่นตระหนกนะ ไม่ใช่ใครเขาบอกอะไรมา ก็ตื่นตระหนดไปหมดทุกเรื่อง ใช่หรือไม่ใช่ จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ ไม่เคยเช็กอะไรหรอก พอเห็นโซเชียลมีเดียเขียนมาก็ตกใจ หุ้นตก อะไรทำนองนี้ คนไทยต้องหนักแน่น อย่าไปตื่นตัว หรือตื่นตระหนก ตื่นตัวได้ แต่อย่าตื่นตระหนกแล้วกัน ตระหนักรู้ มีสติ มีการเฝ้าระวัง ช่วยกันดูแล เตือนภัยล่วงหน้า รัฐบาลก็เต็มที่ สั่งการกระทรวงสาธารณสุข หมอ พยาบาล เตรียมความพร้อมหมด หลายโรงพยาบาล 20 กว่าโรงพยาบาล ตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามานะ ซื้อเครื่องไม้เครื่องมือไป 200 - 300 ล้าน เพื่อรองรับการระบาดของ อีโบลา หรือโรคร้ายแรงอื่นๆในอนาคตด้วย มันมีการพัฒนา เราพัฒนา เชื่อโรคก็พัฒนา โรคก็มากขึ้น เพราะงั้น ต้องแข็งแรงนะ ออกกำลังกาย กินอาหารให้มีคุณภาพ กินข้าวไทย แข็งแรง อย่ากินมาก กินมากอาจจะแป้งมากไป แต่บางประเภทเลือกที่กินแล้วไม่อ้วน เยอะแยะไปแต่มีพลังงาน
ในห้วงนี้วันที่ 19 - 20 เป็นวาระสำคัญประเทศไทย เราเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 5 GMS Summit เป็นความร่วมมือของประเทศอาเซียนภาคพื้นดินตอนบน มีผู้นำจาก 6 ประเทศมานะครับ จีน พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และไทย ร่วมประชุมกันที่กรุงเทพฯ นะครับ
วัตถุประสงค์ของการประชุมนี้ก็ส่งเสริมความร่วมมือ เสริมสร้างขีดความ สามารถทางเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ อาชีพ รายได้ ทุกเรื่องนะ ความเหลื่อมล้ำ พัฒนากฎระเบียบให้เกิดความเชื่อมโยงกันในภูมิภาค จะร่วมมือกันอย่างไรระหว่างประเทศสมาชิกที่จะครอบคลุมเนื้อที่ 2.6 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งรวมมีประชากรรวมกัน 326 ล้าน ไม่น้อยนะ เพราะฉะนั้นเป็นโครงการระดับอนุภูมิภาค ถ้าเรารวมกันได้ตรงนี้มันจะเข้มแข็ง อาเซียนจะเข้มแข็งด้วย จะพูดคุยในเรื่องของคมนาคม พลังงาน โทรคมนาคม สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การค้า เกษตรกรรม การลงทุนภาคเอกชน และพัฒนาเขตเมือง เราก็มีหลายเรื่องที่พูดคุยกับเขา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ การพัฒนาการเชื่อมโยงเส้นทางต่างๆ มันต้องต่อกันให้ได้ วันนี้ผมร่าง รัฐบาลนี้ร่างไว้แล้ว ร่างไว้หมดแล้ว ทั้งทางรถไฟ ทางถนน ทางน้ำ ก็เตรียมแผนไว้จะได้คุยกัน และมันจะได้ต่อกันได้ ถ้าเราไม่เริ่ม เขาเริ่มมา เราต้องย้ายไปต่อรางเขา ผมว่าไม่ทันการ เราต้องเชิงรุก และเรามีความพร้อมอยู่พอสมควร มากพอสมควร
อีกเรื่องหนึ่งมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ ที่เรียกว่า เอ็มโอยู ความร่วมมือระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน 2 ฉบับ เรื่องสินค้าการเกษตรไทย-จีน และเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟความเร็วปานกลางประเทศไทย 2 เส้นทาง หนองคาย - แก่งคอย - มาบตาพุด และ แก่งคอย - กรุงเทพฯ ในยุทธศาสตร์ 58-65 ก็เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาล ที่จะยกระดับของเราให้เป็น HUB ในการเชื่อมโยง Connectivity ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับจีนและอินเดีย เราต้องมีการเตรียมพร้อม และเตรียมการตั้งแต่วันนี้นะครับ เพื่อวางรากฐานการพัฒนาประเทศในระยะยาว ก็ทำกันมาตลอด ตั้งนานแล้วก็ไม่เกิดสักที วันนี้เราทำให้เกิดขึ้นได้ อย่าหาว่าไปเอาคนโน้นมา ก็ไปดูซิว่า มันมีอะไรมันใหม่ตั้งหลายอย่าง ผมก็ไม่ได้ว่า จะต้องไปทำอะไรที่มันวิลิศมาหรากว่าเดิม เพียงแต่ว่าจัดระเบียบมันให้ได้ และไม่ให้มีการทุจริต เป็นความร่วมมือในรัฐบาลต่อรัฐบาลที่มันตรวจสอบได้ ทำนองนี้ ไม่ให้ประเทศเสียโอกาส แค่นั้น หลายๆ อย่างก็ปรับหมด วันนี้ก็ต้องเข้าใจ
อีกอันหนึ่งก็คือในเรื่องของการให้จัดมีการประชุมระดับเยาวชน ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงครั้งที่ 2 GMS Youth Forum คู่ขนานไปกับครั้งนี่เลยนะครับ ให้คนรุ่นใหม่มีส่วนร่วม เขาจะได้เข้าใจ และก็เกิดประชาคมพลวัตไง การที่จะต้องแปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว วันนี้ เขาเรียกว่าเป็น พลวัต ทำอย่างไรมันถึงจะต่อเนื่อง พัฒนาต่อเนื่อง คนต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ ความรู้ความเข้าใจต้องช่วยกันหาแนวทาง ทำอย่างไรถึงจะเชื่อมโยงได้ และสังคมพลวัตที่ว่า แต่ละประเทศจะเป็นอย่างไร จะโยงกันอย่างไรให้ได้ ให้ไปด้วยกันให้ได้ไม่แตกแยกกันไม่ได้อีกแล้ว ทั้งอาเซียน ทั้งในไทยด้วย ในหลายๆ ประเทศ เขาก็เห็นร่วมกันหมดเลย เวลาผมคุยกับผู้นำ เขาบอกไม่ได้ มันต้องรักต้องสามัคคีกัน ไม่อย่างนั้นอาเซียนไปไม่ได้แน่นอน และเราก็จะเสียเปรียบประเทศอื่นๆ ใหญ่ๆ เขานะ
วันนี้ก็จะได้มีโอกาสต้อนรับเขาทั้งเยาวชน 5 ประเทศ ผู้นำ 5 ประเทศ เขามาทุกประเทศนะครับ เป็นเกียรติกับประเทศไทยด้วย ขอให้เป็นเจ้าบ้านที่ดี ช่วยกันต้อนรับหน่อย ทำบ้านเมืองสะอาด ก็พักโรงแรมใกล้เส้นทางธุรกิจประกอบการเยอะแยะๆ รถอาจจะติดบ้างอะไรบ้าง เพราะเราต้องมีการ รปภ. ขอโทษด้วย แต่มันเป็นหน้าตาของเรา เวลาผมไปเขาก็รับแบบนี้แหละ เวลาเขามาก็ต้องรับเหมือนกันให้เกียรติซึ่งกันและกัน ขอให้อดทนนิดหนึ่งวันครึ่งเอง มันก็ติดบางเวลามีขบวนบ้างอะไรบ้างขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ แต่ทำเพื่อประเทศชาติของเรา เขาได้มาเห็นบ้านเมืองเราว่าสงบแบบนี้ เรียบร้อยแบบนี้ เขาจะได้กล้าที่จะมาลงทุน มาท่องเที่ยวเรามากขึ้น
อีกอันที่เป็นเรื่องสำคัญนะครับ ต้องสร้างเสถียรภาพกระชับความร่วมด้วยให้การศึกษา วันนั้นกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กศน. ได้จัดโครงการ “คืนความสุขให้เธอ...เยาวชน” ภายใต้แนวคิด “วิทยาศาสตร์ นำชาติยั่งยืน”
วันนั้นผมก็ได้ไปเปิดช่วงที่จะให้นักเรียนต่างๆ มาดู มาศึกษาที่ท้องฟ้าจำลองนะ ทีเอกมัย กรุงเทพฯ ดูแล้วก็ยังโอเคนะ แล้วผมก็ทราบว่ามีทั้งหมดตั้ง 16 แห่ง ในประเทศไทยตอนนี้ ไม่ได้มีที่เดียว นอกนั้นก็มีหอดูดาวอีกหลายที่ ภาคเหนือก็ดอยอินทนนท์ไง วันนี้โคราชก็มี อะไรก็มี มีอีกหลายที่ เพราะฉะนั้นมีทั้ง 2 อย่าง 10 กว่าแห่งแล้ว ทั้งหอดูดาว ทั้งท้องฟ้าจำลอง มีหลายที่ ผมก็บอกให้ความสำคัญเรื่องนี้ ถ้าจำเป็นก็ต้องทำเพิ่มเติมก็ว่ามา ก็ต้องประหยัดก่อนแล้วกันในขณะนี้เพื่อจะกระตุ้นความสนใจ สร้างแรงบันดาลในให้คนอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ อยากให้ไปขึ้นอวกาศ
วันนั้นไปเจอคนไทยอยู่คนหนึ่งนะ ผู้หญิงด้วย เขาบอกเขาอยากขึ้นไป วันนี้ได้รับการคัดเลือกแล้วนะ กำลังเตรียมร่างกายอยู่ รอเวลาอยู่ น่าชื่นในนะเด็กๆ จบการศึกษาทางด้านนี้มาด้วย ให้ความสนใจ แล้วพร้อมที่จะไปกับเขารอเวลาขึ้นไป ต้องคิดแบบนี้นะ ว่าเราจะมีนักวิทยาศาสตร์มากขึ้นได้อย่างไร จะมีคนกล้าอย่างนี้ได้อย่างไร ไปแสดงให้โลกเขาเห็นว่าคนไทยก็เก่งเหมือนกันนะ ต้องผลิตให้ได้เยอะๆ นะนักวิทยาศาสตร์ จะได้วิจัยพัฒนาได้ โลกนี้เจริญด้วยวิทยาศาสตร์ ไม่ได้เจริญด้วยอย่างอื่น อย่างอื่นเป็นการสร้างสังคมให้ได้ เป็นการเกื้อหนุน เกื้อกูล สร้างธุรกิจต่อเนื่องกัน แต่วิทยาศาสตร์จะนำหน้า เรื่องของความทันสมัย วันนี้ก็หลายอย่างขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์เป็นหลัก
ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ ทางภาคเหนือภาคอีสานก็กำลังประสบภัยแล้ง และภัยหนาว ซึ่งห้วงหนึ่งแล้ง และหนาว อีกห้วงหนึ่งกำลังไปเที่ยว สวยงาม มันขัดแย้งกัน ประเทศไทย เพราะมันมีความแตกต่าง ความเหลื่อมล้ำ ทำอย่างไรจะดูแลคนเหล่านี้ ไปเที่ยว เอาเสื้อหนาว เอาเสื้อผ้าเก่าๆ ที่ไม่ได้ใช้แล้วยังมีอยู่ ไปให้เขา ติดท้ายรถไปได้มั้ย เนี่ย น้ำใจคนไทย นี่ไป นี่ก็นั่งตัวสั่นงันงกอยู่ข้างทาง หนาวไป นี่ก็เที่ยว ถ่ายรูป มันขัดแย้งไง แต่ผมไม่ว่าท่านหรอก บางทีท่านนึกไม่ถึง ที่บ้านกลับมาของเต็มบ้านเลย ขนไปเถอะครับ ผมก็ส่งไปแจกเยอะเลย ไม่ได้ใช้ บางอย่างก็เล็กไปบ้าง อะไรไปบ้าง ก็แจกเขาไป วันนี้ต้องเผื่อแผ่
อีกอันหนึ่ง เรื่องน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก หลายจังหวัดเดือดร้อนนะ วันนี้ผมได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลช่วยเหลือ ภาคใต้นี่น้ำท่วมเร็ว ลงเร็ว แต่ก็เดือดร้อนนะ วันนี้ประกาศพื้นที่หลายพื้นที่ ก็ให้กระทรวงมหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทหาร ตำรวจ พลเรือน ช่วยกัน คนที่ไม่ท่วมก็ไปช่วยเขาด้วย ช่วยแรง ช่วยอะไรต่างๆ ออกแรงด้วย พี่น้องกันทั้งนั้น
ขอให้ช่วยกันตามนโยบายรัฐบาล ให้มีการป้องกันและแก้ไขฟื้นฟูให้ได้โดยเร็ว แล้วก็ขอความร่วมมือในการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ เหล่านั้น ซึ่งมันอาจจะมากขึ้นกว่านี้อีกก็ได้ วันหน้ามันจะเกิดภัยพิบัติอะไรอีกก็ไม่รู้นะ ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะโลกมันเปลี่ยน สภาพภูมิอากาศ Climate change มันทำให้เกิดปัญหาเยอะ ขอความร่วมมือทุกคนนะครับ ช่วยกันดูแลพี่น้องห่างไกลด้วย คนไทยทั้งนั้น
สำหรับของขวัญปีใหม่ที่รัฐบาลและกระทรวงจะมอบให้ ก็ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ เหมือนกับของขวัญอื่นๆ นะครับ เพราะเราเป็นคนไทย แล้วก็เป็นวัฒนธรรมไทย ปีใหม่ก็มีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้กัน รัฐบาลก็ไม่มีอะไรจะให้ นอกจากสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืน นั่นเป็นเรื่องอนาคตที่ต้องทำในขณะนี้อยู่ การปฏิรูป คือ ของขวัญที่ยั่งยืน ราคาผลิตผลทางการเกษตรจะขึ้นได้อย่างไร สร้างโรงงานอะไรขึ้นมา คือ ของขวัญที่เราจะมอบอย่างยั่งยืน แต่วันนี้ของขวัญที่ให้ปีใหม่จริงๆ คือ ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอย ซื้อของราคาถูกลง บางข่าวผมเห็นในข่าวตั้ง 80 เปอร์เซ็นต์ กระทรวงพาณิชย์จัดมา ขอบคุณห้างร้านต่างๆ ให้การช่วยเหลือ ก็หลายๆ บริษัทขอให้เจริญๆ พวกที่เสียสละ พวกที่ยอมลดกำไรให้เจริญๆ พวกไหนที่เอาเปรียบคนส่วนมากอยู่ได้ไม่นาน อย่าไปอุดหนุน เพราะฉะนั้นเมื่อบ้านเมืองมีปัญหา รัฐบาลขอร้องก็ช่วยกันหน่อย ผมเป็นกังวลเรื่องนี้ ถ้าไม่รักกันไม่ช่วยกัน ยิ่งเดือดร้อนยิ่งขึ้นราคามันจะได้ไง เป็นคนไทยหรือเปล่า ต้องช่วยกัน จะว่าผมแรงก็แรง เรื่องแบบนี้ไม่ได้ ต้องเห็นใจคนลำบาก เพราะฉะนั้นเศรษฐกิจมีปัญหา เราทุกคนๆ ไทยก็ต้องมีส่วนร่วมกัน ทั้งภาคธุรกิจ ภาคเอกชนสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจได้ เงินทองก็ไม่ได้ไปไหนให้พี่น้องคนไทยทั้งสิ้น ท่านเอาแต่ข้างเดียวแล้วใช้หมดหรือเปล่าไม่รู้เลย ช่วยกันดูแลด้วย จะได้มีความสุขด้วยกันไง ประเทศชาติก็มั่นคง ประชาชนก็มั่งคั่งในทุกระดับ
อีกอันหนึ่งต้องขอบคุณนักฟุตบอลขุนพลช้างศึก ผมมีโอกาสดูในทีวีทีมชาติไทย ขอบคุณทั้งโค้ช ผู้จัดการต่างๆ สร้างความสุขให้กับคนไทย และก็เล่นดีทั้งคู่ จริงๆ แล้วเล่นดีทั้งคู่ และก็รักษากติกา มันมีหลายเรื่องก็ให้อภัยซึ่งกันและกัน พี่น้องกัน เพื่อนบ้านกัน ขอให้ประชาชนชาวไทยทุกคนได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างประเทศไทยให้เป็นประเทศที่ร่มเย็น น่าอยู่ มั่นคง แข็งแรง อย่างยั่งยืนในทุกมิติต่อไปด้วย และทุกคนต้องเตรียมความพร้อมที่จะเผชิญจากสถานการณ์ในวันข้างหน้า ซึ่งมีหลายอย่างด้วยกัน ทั้งภัยคุกคามรูปแบบเก่าและรูปแบบใหม่ ภัยที่เกิดขึ้นจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง โรคระบาด เราต้องเตรียมความพร้อม วันหน้าจะเกิดอะไรขึ้นไม่รู้ ถ้าเราแข็งแรง ครอบครัวเข้มแข็ง ประเทศเข้มแข็งทุกอย่างมันก็จะไปได้หมด เพราะฉะนั้นจิตใจเราต้องเข้มแข็ง ก็ช่วยกันแล้วกัน ขอบพระคุณนะครับ สวัสดีครับ