xs
xsm
sm
md
lg

เห็นชอบใช้สำนวน กกต.พิจารณาแจกเหลือง-แดง ใช้ระบบไต่สวน-สองศาลฟันโกงเลือกตั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กกต. ถกร่วมศาลยุติธรรม เห็นร่วมใช้สำนวน กกต. เป็นหลักพิจารณาแจกใบเหลือง - แดง เตรียมปรับระเบียบสืบสวนใช้รูปแบบองค์คณะตามระบบไต่สวน ใช้ระบบ 2 ศาล พร้อมรวมความผิดเลือกตั้งฟ้องเป็นคดีเดียว

วันนี้ (18 ธ.ค.) นายดุษฎี พรสุขสวัสดิ์ รองเลขาธิการด้านสืบสวนและวินัย สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงภายหลังการประชุมร่วมระหว่างสำนักงาน กกต. กับศาลยุติธรรม เพื่อจัดทำคู่มือสืบสวนสอบสวนคดีเลือกตั้ง ว่า วัตถุประสงค์ของการประชุมเพื่อนำข้อเสนอแนะไปพัฒนางานสืบสวนสอบสวนและการดำเนินคดีการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพ ให้การเลือกตั้งได้คนดีเข้ามาทำงาน

โดยมีกรอบการประชุมคือ 1. ระบบงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงาน กกต. ที่สำนักงาน กกต. เสนอขอให้สำนวนการสืบสวนของคณะกรรมการ กกต. เป็นหลักในการพิจารณาคดีเลือกตั้งในชั้นศาล ที่ประชุมเห็นว่าสามารถใช้สำนวนของคณะกรรมการ กกต. เป็นหลักได้เหมือนคดีของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่ กกต. ต้องไปปรับปรุงตามระเบียบการสืบสวนสอบสวนให้เป็นสากล เช่น การสืบสวนสอบสวนควรทำในรูปแบบขององค์คณะตามระบบไต่สวน พัฒนาการสอบสวนโดยการสอบพยานให้มีการบันทึกภาพและเสียง การให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริง และให้มีทนายความหรือที่ปรึกษากฎหมายมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือแก้ต่างคดีในชั้นสอบสวนด้วย

ส่วนประเด็นเรื่องอำนาจในการออกหมายเรียก หมายจับ หมายค้น ที่ประชุมเห็นควรให้ปรับปรุงให้ออกกฎหมายหมายให้คณะกรรมการ กกต. มีอำนาจมอบให้ผู้ที่ทำหน้าที่สืบสวนสอบสวน มีอำนาจออกหมายเรียกพยานแทน กกต. สำหรับหมายจับ หมายค้น เห็นว่าเป็นอำนาจของศาล อย่างไรก็ตาม ควรแก้ไขให้พนักงานผู้ทำหน้าที่สืบสวนสอบสวนเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

2. กรณีดุลพินิจของศาลในการพิจารณาคดี ที่ประชุมเห็นว่าการพิจารณาคดีเป็นดุลยพินิจของผู้พิพากษาซึ่งเป็นไปตามหลักความอิสระของศาลและเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้อย่างแท้จริง แต่การดำเนินคดีเลือกตั้งควรให้เป็นระบบ 2 ชั้นศาล กล่าวคือให้เริ่มคดีที่ศาลอุทธรณ์และสามารถอุทธรณ์ในประเด็นข้อกฎหมายไปยังศาลฎีกาได้

3. การดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งซึ่งมีเรื่องที่เกี่ยวพันกัน เช่น เรื่องการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง การสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ การเรียกค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ เรียกสิทธิประโยชน์ต่างๆ คืน เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง ค่าตอบแทน และการดำเนินคดีอาญา เป็นต้น ที่ประชุมเสนอความเห็นว่าเพื่อให้การดำเนินการกับผู้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ควรปรับปรุงกฎหมายให้มีการดำเนินการกับผู้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเป็นคดีเดียว

จากปัจจุบันที่การดำเนินการกับผู้กระทำการฝ่าฝืนดังกล่าว มีการแยกดำเนินการเป็นหลายคดี ทำให้ต้องดำเนินกระบวนซ้ำซ้อน กล่าวคือ มีการดำเนินคดีให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง สั่งเลือกตั้งใหม่ คดีเรียกค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ คดีเรียกค่าตอบแทนคืนกรณีพ้นสมาชิกภาพ คดีอาญา ซึ่งหากสามารถดำเนินการเป็นคดีเดียวกันได้ดังเช่น คดีอาญาของนักการเมืองที่ได้มีการดำเนินคดีอาญากับคดีแพ่งไปในคราวเดียวกัน โดยใช้ระบบ 2 ชั้นศาล คือเริ่มดำเนินคดีในศาลอุทธรณ์และสามารถอุทธรณ์ข้อกฎหมายต่อศาลฎีกาได้

ส่วนประเด็นอื่นๆ นายบุญส่ง มีความเห็นว่ากรณีที่ศาลรับคำร้องของ กกต. ไว้พิจารณาและผู้ถูกร้องต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น ไม่ควรให้รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล รองนายกเทศมนตรี รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ปฏิบัติหน้าที่แทน แต่ควรให้เป็นหน้าที่ของปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้รักษาการ ซึ่งสำนักงาน กกต. จะนำข้อสรุปและข้อสังเกตจากการประชุมไปใช้ปรับปรุงแก้ไขระเบียบและแนวทางในการสืบสวนสอบสวนต่อไป สำหรับประเด็นที่เป็นข้อกฎหมายจะพิจารณาเสนอต่อผู้มีอำนาจต่อไป

นายดุษฎี กล่าวว่า การหารือครั้งนี้เป็นความพยายามที่จะปรับปรุงระเบียบและวิธีการสืบสวนสอบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งโดยจะต้องเร่งดำเนินการจัดทำเพื่อให้สอดคล้องกับตัวกฎหมายใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะหาก กกต. ไม่รีบดำเนินเพื่อรองรับไว้ หากมีการเลือกตั้งก็จะไม่มีเครื่องมือในการสืบสวนสอบสวน เชื่อว่าหากมีการปรับปรุงข้อกฎหมายเพื่อลดข้อจำกัดและอุปสรรรคต่างๆ จะทำให้ศาลเห็นตรงกับความเห็นของ กกต. และจะลดการยกคำร้อง


กำลังโหลดความคิดเห็น