เกาะกระแส
00 กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำลังเดินหน้าไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะยังอยู่ในขั้นตอนของการรับฟังข้อเสนอ แต่ก็ถือว่าได้เห็นทิศทางความเป็นไปได้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ อย่างน้อยก็ได้เห็นผลการประชุมของคณะกรรมาธิการยกร่างรธน.ที่เปิดเผยโดย สุจิต บุญบงการ ในฐานที่เป็นประธานอนุกรรมาธิการพิจารณาการจัดทำ รธน.คณะที่ 3 ระบุว่าที่ประชุมกมธ.ได้เห็นด้วยกับข้อเสนอของอนุกรรมาธิการฯในเรื่องการมีสองสภา คือ สส.และ สว.โดยการเลือกตั้ง สส.จะเป็นแบบแบ่งเขตและ บัญชีรายชื่อ โดยใช้อัตรา สส.1 คนต่อประชากร 2 แสนคน แต่ที่น่าสนใจก็คือ การพิจารณาตามข้อกำหนดของ รธน.ชั่วคราวปี 57 ในมาตรา 35(4) ที่ห้ามคนที่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกม.เกี่ยวกับคดีทุจริต หรือเคยเกี่ยวข้องกับการทุจริตเลือกตั้ง ห้ามเข้าสู่สนามการเมืองย่างเด็ดขาด แม้ว่าประธานอนุกรรมการฯจะออกตัวว่าเป็นเพียงข้อเสนอเบื้องต้นเท่านั้นยังไม่ตกผลึก แต่ในเมื่อกำหนดในรธน.ชั่วคราวนำทางเอาไว้แบบนี้มันก็เลี่ยงไม่ออก เว้นเสียแต่ว่าจะมีการแก้ไข รธน.ฉบับชั่วคราวดังกล่าวเสียก่อน
00 ประเด็นนี้แหละที่พอเห็นแววตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะสร้างความตึงเครียดเสี่ยงต่อความวุ่นวาย จากพวกนักการเมือง"เขี้ยวลากดิน"ที่ต้องออกมาขัดขวางทุกวิถีทาง เพราะข้อกำหนดแบบนี้เท่ากับเป็นการตัดทางทำมาหากิน ตัดทางเข้าสู่อำนาจ ลองคิดดูหากเป็นไปตามนี้จะมีนักการเมืองนับร้อยคนที่ถูกตัดสิทธิ์ เท่าที่เห็นก็มี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่โดนปปช.ชี้มูลคดีจำนำข้าว ทักษิณ ชินวัตร จากคดีทุจริตถูกยึดทรัพย์ โดนคดีทุจริตเลือกตั้งจนถูกยุบพรรคไทยรักไทย ซึ่งรวมถึงพวกบ้านเลขที่ 111 และบ้านเลขที่ 109 ลองหลับตานึกภาพเอาเองว่าจะมีรายการป่วนหรือไม่ เพียงแค่เริ่มก็ออกมาดักคอกันแล้ว เช่นคำพูดของ สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ออกมาเตือนกันตั้งแต่ไก่โห่ว่าอย่าเขียนรธน.เพื่อ"แก้แค้นกัน"
00 ไม่ได้เหนือความคาดหมายกับการที่อัยการสูงสุดยังสั่งไม่ฟ้อง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว อ้างว่าหลักฐานยังไม่สมบูรณ์ จึงต้องรอถกกับ ปปช.อีกครั้ง แต่ยังไม่กำหนดเวลาแน่ชัดว่าจะเป็นวันไหน อย่างไรก็ดีได้รับการยืนยันกลับมาแบบทันควันจาก ปปช.วิชา มหาคุณ ที่ย้ำว่าจะไม่มีการสอบสวนพยานหรือค้นหาหลักฐานใหม่ แต่มีแนวโน้มที่จะหารือกับอัยการสูงสุดอีกครั้ง เพื่อหาข้อสรุปสุดท้ายจริงๆ คาดว่าจะเป็นต้นปีหน้า !!