xs
xsm
sm
md
lg

ปฏิวัติซ้อน-ปฏิวัติซ้ำ แค่คำพูดก็หวาดผวาสะเทือนทั้งบาง !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ผ่าประเด็นร้อน

ไม่น่าเชื่อว่าแค่คำพูดคำเตือนของ “ทหารแก่” คนหนึ่งอย่าง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่บอกว่าให้ระวังจะเกิดการปฏิวัติซ้อนขึ้นมาในปีหน้า อันมีสาเหตุมาจากหลายสาเหตุที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ปัญหายังไม่ตก โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจที่รุมเร้า ทั้งภายนอกและภายในประดังเข้ามา

กลายเป็นคำพูดของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่คราวนี้กลับทำให้หลายคนต้องเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ และพิจารณาถึงความเป็นไปได้กันอย่างพร้อมเพรียง อย่างที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นมาก่อน อาจเป็นเพราะสถานการณ์ที่เป็นอยู่เริ่มไม่เป็นไปตามที่คาดหมายเอาไว้ มันก็เป็นไปได้ที่อาจจะเกิดเหตุตามเสียงเตือนดังกล่าว นั่นคือ “ตอนเข้ามาได้ดอกไม้ แต่ตอนขาไปได้ก้อนอิฐ”

อย่างไรก็ดี คำพูดดังกล่าวของ อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็ได้รับการตอบโต้กลับมาอย่างทันควันจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ไม่มีทางเกิดการปฏิวัติซ้อนขึ้นมาอย่างแน่นอน และย้ำว่าหากตัวเขาไม่ทำก็ไม่ทางที่ใครจะทำได้ และกล่าวในทำนองว่าเป็นคำพูดของคนที่อายุมากคนหนึ่งที่ห่วงบ้านเมืองเท่านั้น ความหมาย ก็คือ “ไม่ให้ราคา” ขณะเดียวกัน บรรดาคนในกองทัพต่างก็ออกมายืนยันในแบบเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก น้องชายของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นต้น

มาถึงตอนนี้แม้จะยังไม่อาจสรุปได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะเกิดการปฏิวัติซ้อน ปฏิวัติซ้ำหรือเปล่า แต่หากพิจารณาจากความตื่นตัวถือว่าน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง อย่างน้อยก็ได้เห็นถึงความผิดปกติภายในตลาดหุ้นที่ไวต่อการรับรู้ข้อมูลที่อ่อนไหวมากที่สุด ปรากฏว่าหลังจากมีคำเตือนดังกล่าวออกมาทำให้เกิดการเทขายออกมาจนดัชนีร่วงลงมาอย่างต่อเนื่อง สองวันตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม เว้นวันหยุดวันที่ 10 ธันวาคม จนมาถึงวันที่ 11 ธันวาคม ที่เปิดทำการก็ยังร่วงลงมาอีกรวมแล้วสองวันเกือบ 50 จุด แม้ว่าจะมีการอ้างว่าเป็นเพราะได้รับผลกระทบจากต่างประเทศ ร่วงตามทิศทางเทขายในภูมิภาคก็ตาม แต่ล่าสุดผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เช่น สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ เกศรา มัญธุลี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก็ตบเท้าเข้ารายงานเหตุการณ์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมหมาย ภาษี อย่างเร่งด่วน โดยยืนยันว่าไม่น่าเป็นห่วง

อย่างไรก็ดี หากตัดเอาเรื่องที่ว่าจะเกิดหรือไม่เกิดการปฏิวัติซ้อน ปฏิวัติซ้ำออกไป แล้วมาพิจารณาจากสถานการณ์ตามความเป็นจริง ทั้งเรื่องวิกฤตรัฐธรรมนูญ ที่กำลังเข้าสู่การถกเถียงในประเด็นสำคัญ เช่น การเสนอให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีโดยตรง อาจจะสร้างความขัดแย้งบานปลายขึ้นมาได้หากยังเดินหน้าผลักดันกันต่อไป โดยเฉพาะมีความอ่อนไหวเรื่องการก้าวล่วงพระราชอำนาจ

แต่เรื่องดังกล่าวยังไม่น่ากลัวเท่ากับเรื่องปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจที่หลายฝ่ายเริ่มกังวลว่าในปีหน้าจะยังหนักหน่วงอันเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกยังไม่คลี่คลาย มิหนำซ้ำยังมีแนวโน้มรุนแรงกว่าเดิมจากปัญหา “สงครามเย็น” ที่หวนกลับมาอีกรอบระหว่าง สหรัฐอเมริกา กับรัสเซีย จากต้นตอวิกฤตในยูเครน และเชื่อมโยงไปถึงวิกฤตด้านพลังงานน้ำมัน ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยที่ยังต้องพึ่งพาตลาดแบบนี้อยู่มาก การท่องเที่ยวที่ต้องกระทบตามไปด้วย สรุปก็คือปัญหาย่อมกระทบถึงไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะราคาสินค้าเกษตรที่มองดูแนวโน้มแล้วในปีหน้ายังถือว่าสาหัส นั่นก็ถือว่าเป็น “ข่าวร้าย”

ดังนั้น แม้ว่าการปฏิวัติซ้อน ปฏิวัตซ้ำตามรูปการณ์ และโครงสร้างอำนาจในปัจจุบันอาจทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวค่อนข้างยากอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืนยัน นั่นคือหากเขาไม่ทำเสียอย่างมันก็ไม่มีทางเกิดขึ้น แต่สิ่งที่ต้องจับตาและเตรียมรับมือก็คือปัญหาเศรษฐกิจในปีหน้า พิจารณาจากปัจจัยรอบด้านทั้งภายในและภายนอกแล้วยังน่าเป็นห่วง วางใจไม่ได้เลย !!
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
กำลังโหลดความคิดเห็น