แก๊งเพื่อไทยปากกล้า “สุรพงษ์” กระทืบ “หม่อมอุ๋ย” แก้ปัญหายางพาราตกต่ำไม่ตรงจุด ใช้เงินพันเดียวฟาดหัวไม่ช่วยอะไร แนะลาออก ยุส่ง “ประยุทธ์” โชว์ฝีมือ ส่วนแนวคิดเลือกนายกฯ โดยตรง แนะลอกรัฐธรรมนูญอังกฤษไปเลย ไม่ต้องอาย ด้าน “สมคิด” โวยยกเลิก ส.ส.ปาร์ตีลิสต์ไม่เห็นด้วย โอดเขียนรอพวกเดียวกันเข้ามาเป็น เตือนไม่ใช่เป็นของ สปช. หรือ สนช. ตอกย้ำไทยไม่ใช่อเมริกา ไม่เอา นายกฯ - ครม. เลือกตั้งโดยตรง
วันนี้ (8 ธ.ค.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่เกษตรชาวสวนยางนัดเคลื่อนไหวใหญ่ทั่วประเทศกดดันรัฐบาล ในวันที่ 9 ธ.ค. นี้ สืบเนื่องจากปัญหาวิกฤตราคายางพาราตกต่ำ ว่า รัฐบาลต้องโทษตัวเองที่แก้ปัญหาไม่ถูกจุด ให้เงินไร่ละพันบาท ไม่ช่วยอะไร ซ้ำยังได้ไม่ครบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลต้องรีบออกมาชี้แจงโดยด่วน มิฉะนั้น สถานการณ์อาจจะวุ่นวายได้ เนื่องจากขณะนี้มีการประกาศกฎอัยการศึกอยู่ ตนเกรงว่าชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่จะพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย ตนอยากถามไปถึง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ที่ดูแลรับผิดชอบว่า ทำอะไรอยู่ ถ้าไม่มีความสามารถแก้ปัญหาก็ออกมาบอกตรงๆ อย่าไปสร้างความหวังให้ชาวบ้าน
“ม.ร.ว.ปรีดียาธร ควรพิจารณาตัวเองให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน คงถึงเวลาที่ท่านนายกฯจะต้องโชว์ฝีมือ เพราะท่านบอกว่ารู้ทุกเรื่อง” นายสุรพงษ์ กล่าว
นายสุรพงษ์ ยังได้กล่าวถึงการเสนอความเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดให้นายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้งโดยตรงด้วยว่า ส่วนตัวอยากแนะนำให้ไปลอกรัฐธรรมนูญจากประเทศอังกฤษมาให้หมดเลย เพราะระบบของเขาเหมือนของเราทุกอย่าง อย่าไปเอาของประเทศเยอรมนี เพราะไม่เหมือนกัน ไม่ต้องมาพูดแล้วว่าจะเอารัฐธรรนูญอันนั้นผสมอันนี้ ประเทศชาติไม่ใช่หนูตะเภาให้ทดลอง
“ไม่ต้องร่างรัฐธรรมนูญให้เสียเวลาดีกว่า ไปลอกของประเทศอังกฤษเลย ไม่ต้องอาย เอามาทั้งเรื่องกฎหมาย การป้องกันทุจริต ซึ่งของเขาปัญหาทุจริตไม่มาก และประชาชนของเขาก็อยู่กันได้ภายใต้กติกาที่เขียนขึ้นมา เพราะประชาชนเขาไม่ดูถูกกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา ฐานะ จึงอยากให้คนไทยใจกว้างกว่านี้” นายสุรพงษ์ ระบุ
ด้าน นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข้อเสนอที่จะให้มีการลดจำนวน ส.ส. ลงเหลือ 350 คน และยกเลิก ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ ว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะระบบบัญชีรายชื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถ แต่ไม่ถนัดการทำพื้นที่หาเสียงได้มีโอกาสมาทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร ขณะที่ในส่วนของจำนวน ส.ส. ควรคำนึงถึงหลักความเป็นจริงในการทำงานกับประชาชน สำหรับ ส.ว. ควรมีที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ไม่ใช่เขียนรัฐธรรมนูญรอพวกเดียวกันเข้ามาเป็น และจำนวนไม่ควรเกิน 150 คน
“วันนี้สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มี 250 คน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มี 220 คน รวมเป็น 470 คน ถามว่าหน้าที่ของท่านทำอะไรบ้าง มากมายขนาดไหน แล้วทำไม ส.ส. ต้อง 350 คน ช่วยตอบคำถามให้ทีรัฐธรรมนูญนั้นร่างไม่ยากหากคิดเป็นระบบประชาธิปไตยจริงๆ ที่มันยากนั้น เพราะร่างแบบไหนจะกีดกันคนอีกกลุ่มให้อยู่หมัด ขอฝากเรื่องนี้ไว้อีกประเด็นหนึ่ง รัฐธรรมนูญมิใช่ของ สปช. หรือ สนช. แต่เป็นของคนไทยทั้ง 65 ล้านคน ที่สำคัญคนร่างอย่าก่อปัญหาใหม่” นายสมคิด กล่าว
สำหรับการเลือกนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยตรง นายสมคิด กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิง เพราะเราไม่ใช่ประเทศสหรัฐอเมริกา คณะบริหารกับนิติบัญญัติแยกกันโดยเด็ดขาด นั่นเป็นระบบของประธานาธิบดี ต่างคนต่างเดิน ซึ่งหากเป็นแบบนั้น นายกรัฐมนตรีจะฟังสภาหรือไม่ เพราะเขาอ้างว่ามาจากประชาชนเหมือนกัน
“ระบบนี้ไม่เหมาะกับบ้านเราเลย หากนายกรัฐมนตรีไม่ฟังเสียงสมาชิกสภาที่มาจากประชาชน เพราะไม่ใช่พวกเดียวกัน อย่างนี้ก็จะตีรวนกันตลอด อาทิ การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลไม่ต้องเป็นอันทำงานกันพอดี” นายสมคิด ระบุ