xs
xsm
sm
md
lg

สภากลาโหมขอ ปชช.ใส่เสื้อเหลืองร่วมงาน 5 ธันวาฯ เตรียมจัดโครงการเป็นของขวัญปีใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โฆษกกลาโหมแถลงผลประชุมสภากลาโหม ให้ทุกหน่วยหนุนงานเฉลิมฯ ขอประชาชนใส่เสื้อเหลืองร่วม พร้อมจัดอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ ตั้ง กก.สภาทหารผ่านศึกเพิ่ม 3 นาย ปรับสิทธิประโยชน์ อส.ทพ. เพิ่มบำเหน็จรายเดือน ปรับเงินรายวันเป็น 200 บาท เผย รมว.กลาโหมให้เหล่าทัพติดตามสถานการณ์ปฏิรูป ให้หนุนงาน สปช.แบ่ง 3 กลุ่มจัดโครงการเป็นของขวัญปีใหม่ ปชช. 28 พ.ย. ถก กก.ชายแดน ไทย-ลาว

วันนี้ (26 พ.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม พ.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภากลาโหมครั้งที่ 9/2557 ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหมเป็นประธานว่า พล.อ.ประวิตรได้เน้นย้ำในที่ประชุมให้ทุกหน่วยสนับสนุนการจัดงานเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุครบรอบ 87 พรรษา 5 ธันวาคม 2557 กระทรวงกลาโหมจะดำเนินการจัดงานพร้อมกับส่วนของหน่วยขึ้นตรงจึงเชิญชวนให้ข้าราชการ ครอบครัว และประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมตามนโยบายรัฐบาลเพื่อถวายความจงรักภักดี และร่วมกันแต่งกายในชุดสีเหลืองโดยพร้อมเพรียงกัน

ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมยังให้ความสำคัญกับการจัดกรรมเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้เสนอให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีบรรจุเป็นกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ในภาพรวมของรัฐบาล จำนวน 4 กิจกรรม คือ 1. โครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ ในช่วง ธ.ค. 57 ของข้าราชการสังกัดกระทรวงกลาโหมทั่วประเทศ จำนวน 258 นายในพื้นที่ส่วนกลาง โดยเรียนเชิญ รมว.กลาโหมเป็นประธานในพิธีขอขมาลาอุปสมบทของข้าราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) และเหล่าทัพ จำนวน 176 นาย ในวันที่ 1 ธ.ค. เวลา 06.30 น. ที่ศาลาว่าการกลาโหม หลังจากนั้นจะแยกย้ายไปประกอบพิธีบรรพชาอุปสมบท ในเวลา 10.30 ณ วัดนาคปรก เขตภาษีเจริญ และวัดพิชยญาติการาม เขตคลองสาน กทม.

พ.อ.คงชีพกล่าวต่อว่า 2. โครงการแพทย์ทหารห่วงใยใส่ใจสุขภาพประชาชน ถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่งเป็นการจัดหาชุดยาสามัญประจำบ้านจำนวน 19,528 ชุด เพื่อส่งมอบให้หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของ บก.ทท. และเหล่าทัพ นำไปตรวจรักษาและให้บริการประชาชนในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่ตามแนวชายแดน 3. การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวร่วมกับทุกกระทรวงและหน่วยงานต่างๆระหว่างวันที่ 30 พ.ย.ถึงวันที่ 6 ธ.ค. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจ พระอัจฉริยภาพ และพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งการจัดแสดงโครงการตามพระราชดำริและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

4. การจัดกิจกรรมของทหารรักษาพระองค์ เฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาในวันที่ 2 ธ.ค. เวลา 15.30 น. โดยจัดกำลังทหารรักษาพระองค์ จำนวน 12 กองพัน และกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ จำนวน 1 กองพัน พร้อมเชิญธงชัยเฉลิมพล กำหนดเส้นทางเดินจากหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนผ่านพระบรมมหาราชวัง เข้าถนนราชดำเนินใน สิ้นสุดที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง รวมระยะทางประมาณ 900 เมตร

พ.อ.คงชีพกล่าวต่อว่า ที่ประชุมสภากลาโหมมีมติแต่งตั้งกรรมการสภาทหารผ่านศึกเพื่อทดแทนกรรมการที่เกษียณอายุราชการ จำนวน 3 คน ได้แก่ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.พลเทพ โหมดสุวรรณ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.ร.อ.สุพจน์ สุดประเสริฐ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไป

พ.อ.คงชีพกล่าวต่อว่า ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ของอาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) และอนุมัติแนวทางแก้ไขร่างกฎกระทรวง กำหนดระยะเวลาการทำหน้าที่ เงินเดือน และค่าตอบแทนอื่น สิทธิประโยชน์ ระเบียบและวินัยของบุคคลเข้าทำหน้าที่ทหารเป็นการชั่วคราว (ฉบับที่...) พ.ศ... โดยการกำหนดสิทธิประโยชน์ของอาสาสมัครทหารพราน ที่พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการตามที่ กห.กำหนด เพื่อให้เหมาะสมกับลักษณะการปฏิบัติงาน และไม่เกิดความเหลื่อมล้ำกับบุคลากรภาครัฐอื่นที่มีหน้าที่รับผิดชอบในลักษณะเดียวกัน จึงปรับปรุงวิธีการคำนวณเงินช่วยเหลือ และกำหนดให้มีเงินช่วยเหลือรายเดือนให้กับบุคลากรดังกล่าว ให้มีมาตรฐานใกล้เคียงกับข้าราชการหรือลูกจ้างที่ปฏิบัติงานราชการต่อเนื่อง

พ.อ.คงชีพกล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้พิจารณาปรับค่าเบี้ยเลี้ยงสนาม จากเดิม วันละ120 บาท เป็นวันละ 200 บาทต่อคน กำหนดเงินช่วยเหลือรายเดือน หรือบำเหน็จรายเดือน เพิ่มเติมจากบำเหน็จปกติที่มีอยู่เดิม เพื่อเป็นทางเลือกให้กับอาสาสมัครทหารพรานที่รับราชการครบกำหนดตามเกณฑ์ ที่กระทรวงกลาโหมกำหนด ทั้งนี้อาสาสมัครทหารพรานในปัจจุบันมีจำนวน 23,227 นาย เป็นอาสาสมัครทหารพรานหญิง 869 นาย และอาสาสมัครทหารพรานชาย จำนวน 22,358 นาย ซึ่งปัจจุบันถือเป็นกำลังประจำถิ่นที่สำคัญในการปฏิบัติงานความมั่นคงในพื้นที่เสี่ยงภัยทั่วประเทศ รวมทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประชุมตระหนักและเห็นความความจำเป็นที่ต้องปรับปรุงสิทธิประโยชน์ของอาสาสมัครทหารพราน เพื่อยกระดับค่าตอบแทนของบุคลากรดังกล่าวให้เหมาะสมกับภาวะค่าครองชีพในปัจจุบัน และเทียบได้กับลูกจ้างของส่วนราชการ โดยเรื่องดังกล่าวจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป

พ.อ.คงชีพกล่าวต่อว่า กระทรวงกลาโหมได้กำหนดจัดทำโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชนในภาพรวมของกระทรวงกลาโหมตามบัญชาของนายกรัฐมนตรี โดยการดำเนินงานและความรับผิดชอบขอหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ แบ่งเป็น 3 กลุ่มงาน จะดำเนินการทั้งในช่วงเทศกาลปีใหม่ และตลอดปี 2558 ดังนี้ 1. กลุ่มงานสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จำนวน 19 แผนงานหรือโครงการ อาทิ การเพิ่มมาตรการของด่านตรวจ จุดตรวจ จุดสกัดในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังป้องกันชายแดน และการก่อสร้างและปรับปรุงถนนที่ชำรุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น การจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้างและรถโดยสารขนาดเล็ก (รถตู้) ในพื้นที่ กทม. โครงการ “คืนคนดีสู่สังคม” ในศูนย์วิวัฒน์พลเมืองของกองทัพบก การจัดตั้งศูนย์ประสานการปฏิบัติเพื่อดูแลประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งทะเล และจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวทางทะเล

พ.อ.คงชีพกล่าวต่อว่า 2. กลุ่มงานช่วยเหลือประชาชนและพัฒนาอาชีพจำนวน 22 แผนงานหรือโครงการ เช่น งานก่อสร้างเส้นทางคมนาคมในพื้นที่ชนบท งานจัดหาน้ำกินน้ำใช้ การเปิดศูนย์การเรียนรู้ในหน่วยทหาร การมอบผ้าห่มกันหนาวการส่งเสริมอาชีพประชาชนโดยการสร้างสถานที่ตั้งกลุ่มจัดหาการฝึกอบรมให้ความรู้ด้านวิชาชีพ การจัดตั้งหมู่บ้านตัวอย่างตามรอยเท้าพ่อ 30 หมู่บ้าน การจัดชุดบริการทางการแพทย์เคลื่อนที่เข้าพื้นที่ชนบทและห่างไกล และการจัดกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์พื้นที่สาธารณะ 3.กลุ่มงานการให้บริการด้านต่างๆ จำนวน 9 แผนงานหรือโครงการ อาทิ การตั้งจุดพักรถและให้บริการประชาชน และการเปิดแหล่งท่องเที่ยวหรือพิพิธภัณฑ์ของทหารโดยไม่คิดค่าบริการ และการจัดแสดงดนตรีเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับประชาชนในห่วงเทศกาลปีใหม่

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายของการประชุม พล.อ.ประวิตรได้เน้นย้ำกับหน่วยขึ้นตรงกลาโหม และเหล่าทัพให้มีความพร้อมในการปฏิรูปและตระหนักถึงความสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ของทหาร เตรียมการช่วยเหลือประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ขอให้ติดตามสถานการณ์ รัฐบาลตั้งใจเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินเพื่อลดความขัดแย้ง กองทัพต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาลดความขัดแย้งของคนในชาติ ผลักดันให้เกิดการปฏิรูป สนับสนุนงานของสภาปฏิรูปแห่งชาติเพื่อให้เกิดความพร้อมในการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไป ไทย-ลาว ครั้งที่ 21 พล.ท.แสงนวน ไชยะลาด รมว.กระทรวงป้องกันประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายลาวและคณะ เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกระทรวงกลาโหม ระหว่างวันที่ 27-28 พ.ย. เพื่อเป็นประธานร่วมกับ พล.อ.ประวิตร ในการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดน (กชท.) ไทย-ลาว ครั้งที่ 21 มีกำหนดการดังนี้ ในวันที่ 27 พ.ย. ที่ศาลาว่าการกลาโหม เวลา 13.20 น. โดยมีพิธีตรวจแถวทหารกองเกียรติยศผสมสามเหล่าทัพ ณ ลานอเนกประสงค์ เวลา 14.00 น. เยี่ยมคำนับ พล.อ.ประวิตร และในวันศุกร์ที่ 28 พ.ย. ณ โรงแรมแชงกรี-ลา เวลา 09.15 น.พิธีเปิด-ปิดอย่างเป็นทางการ และพิธีลงนามในบันทึกการประชุม












กำลังโหลดความคิดเห็น