รมต.สำนักนายกฯ แจงผลประชุมวิปรัฐ ชงร่าง พ.ร.บ.ภาษีมรดก เข้า สนช.พร้อมเรียก ป.ป.ช.แจง ปมเพิ่มอำนาจตัวเอง คาด 1 เดือน กฤษฎีกาส่ง พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะกลับเข้า ครม. เผย “ประยุทธ์” สั่ง สปช.-สถาบันพระปกเกล้า เปิดช่องให้ นศ.แสดงออก หวังลดแรงเสียดทาน รับมีความเคลื่อนไหวเป็นระยะ แต่ยังเอาอยู่ ฝ่ายมั่นคงไม่ประมาท
วันนี้ (24 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หรือ วิปรัฐบาล ครั้งที่ 3 ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมวิปรัฐบาลว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีมรดก พ.ศ.... และประมวลรัษฎากรการรับการให้ เสนอเข้าสู่การพิจารณาของ สนช. อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมวิปรัฐบาลมีข้อสังเกตถึงเรื่องความพร้อมของกรมสรรพากร และมาตรการป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษี รวมถึงเมื่อกฎหมายออกมาแล้วจะต้องไม่กระทบถึงผู้ที่มีรายได้ปานกลางและผู้ที่มีรายได้น้อย โดยรายละเอียดบางอย่างอาจต้องไปพิจารณาในขั้นตอนของการแปรญัญติต่อไป
นายสุวพันธุ์กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งตามกฎหมาย ป.ป.ช.สามารถเสนอให้สนช.พิจารณาได้เอง แต่วิปรัฐบาลได้เชิญ ป.ป.ช.มาอธิบายถึงเหตุผล สาระสำคัญ และความจำเป็นในการเสนอกฎหมายนี้ให้กับสนช. โดยได้ตั้งข้อสังเกตใน 2 ประเด็น คือ 1. เรื่องการเพิ่มอำนาจ และ 2. เรื่องอนุวัติให้เป็นไปตามความตกลงระหว่างประเทศ ขณะที่ ป.ป.ช.ชี้แจงว่ามีความจำเป็นต้องเพิ่มอำนาจหากต้องการให้การป้องกันและปราบปรามทุจรติคอร์รัปชันได้ผล อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเองมีนโยบายเรื่องการป้องกันและปราบรามการทุจริต แต่ขณะเดียวกันก็ได้คำนึงถึงเรื่องการกระทบต่อสิทธิเสรีภาพต่างๆ ด้วย จึงเป็นเรื่องที่ สนช.ต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบในเรื่องของอำนาจที่เพิ่มมากขึ้น โดยวันที่ 25 พ.ย.จะมีการประชุมวิป สนช.ซึ่งจะต้องติดตามดู
ประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าเรื่องร่าง พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.... ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หากไม่มีการปรับแก้สาระสำคัญมากนักคิดว่าภายในระยะเวลา 1 เดือนน่าจะส่งกลับมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้ง
นายสุวพันธุ์ ในฐานะกำกับดูแลสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวทางการเมืองช่วงนี้ว่า หน่วยข่าวได้ประเมินและทำรายงานล่วงหน้ามาแล้วว่าการเคลื่อนไหวจะมีเพิ่มมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งกิจกรรมต่างๆ ถือว่าเป็นที่คาดหมายอยู่แล้ว บางส่วนทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ และบางส่วนทำด้วยความซ่อนเร้น แต่รัฐบาลจะหาทางดำเนินการไป โดยขณะนี้นายกรัฐมนตรีต้องการเปิดเวทีให้กับนักศึกษา จึงได้มอบให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และสถาบันพระปกเกล้าไปพิจารณาเปิดเวทีการพูดคุย การแสดงความคิดเห็นของนักศึกษาให้เขาได้ใช้พลัง ความกล้า ความรู้ ซึ่งสถาบันพระปกเกล้ามีรูปแบบในการทำเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว อีก 2-3 วันน่าจะเห็นรูปแบบของเวทีดังกล่าว แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องผ่อนคลายด้วยการยกเลิกกฎอัยการศึก เพราะสปช.ทำภายใต้กฎหมายพิเศษอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่หน่วยข่าวประเมินว่าจะมีการเคลื่อนไหวเป็นระยะอยู่ในวิสัยทัศน์ที่รัฐบาลควบคุมได้หรือไม่ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า เหตุการณ์ทุกอย่างปกติเรียบร้อยดี ไม่มีอะไร คนทำงานความมั่นไม่ประมาท หน่วยข่าวทำงานเต็มที่ ไม่มีอะไรน่าห่วง ถ้ามีอะไรจะรายงานให้รัฐบาลรับทราบ รัฐบาลก็มีมาตรการที่จะใช้ โดยขณะนี้รัฐบาลต้องการให้เกิดการพูดคุยและทำความเข้าใจ ส่วนกิจกรรมที่กลุ่มต่างๆ ทำกันอยู่นั้นจะต้องมีความเหมาะสม โดยสังคมจะเป็นผู้ตัดสินเองว่ากิจกรรมที่ทำกันอยู่มีความเหมาะสมหรือไม่
