xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” วอนชาวอีสานอย่ารำคาญคืนวันศุกร์ - หยันกลุ่มต้านรัฐประหารมีแต่เด็กๆ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ขอนแก่น - นายกฯ ไปโครงการหนองใหญ่ อ.กระนวน ทหารสกรีนเข้ม ตำรวจประกบมวลชนแดง แต่กองเชียร์มีแต่ข้าราชการท้องถิ่น วอนอย่ารำคาญจ้อคืนวันศุกร์ ปัดมาภาคอีสานเพราะเรื่องการเมือง ลั่นไม่ได้ทำงานเพื่อตัวเอง ขอร่วมมือให้กำลังใจ อย่าคิดเป็นรัฐบาลทหารเพราะออกจากราชการแล้ว ไฟเขียวสร้างประตูระบายน้ำสามจุด ก่อนจ้อสื่อบอกมีความสุข ไม่ท้อถูกป่วน หยันกลุ่มต้านมีแต่เด็กๆ เน้นสร้างความเข้าใจ

วันนี้ (19 พ.ย.) ที่โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองใหญ่ ต.น้ำอ้อม อ.กระนวน จ.ขอนแก่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองใหญ่ ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำภาค 4 ดำเนินการขุดลอกให้ประชาชนได้ใช้น้ำ เพราะที่ผ่านมาแหล่งน้ำนี้มีสภาพตื้นเขินและไม่เพียงพอต่อการอุปโภค - บริโภค โดยมี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ ประชาชนให้การต้อนรับ

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวกับข้าราชการและประชาชน ว่า วันนี้เราไม่ได้มาทำกิจกรรมอย่างอื่นนอกจากมาดูแลประชาชนที่อาศัยบริเวณนี้ และใช้แหล่งน้ำนี้ในชีวิตประจำวัน รัฐบาลจะดูแลแหล่งน้ำให้เกิดความเขื่อมโยงและยั่งยืนในอนาคต โดยวันนี้มีการจัดการระบบน้ำใหม่ให้เหมาะสมคือใช้เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคไม่ให้ขาดแคลนและเชื่อมโยงกับการเกษตร เรามาแก้ไขปัญหากับประชาชนด้วยความจริงใจ เราเข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้ได้โดยเร็ว เราไม่มุ่งหวังให้ข้าราชการตำรวจ ทหารเดือดร้อน ซึ่งในอนาคตเราจะอยู่เพียงแค่หมู่บ้านจังหวัดไม่ได้ เราต้องมีการเชื่อมโยงในกลุ่มจังหวัดไปยังเขตเศรษฐกิจชายแดน ประเทศเพื่อนบ้านและประชาคมโลกต่อไป ส่วนที่มีการขอทำประตู 3 จุดรัฐบาลอนุมัติให้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยากให้เข้าใจรัฐบาล ตนอยากสื่อสารทุกเรื่อง ที่พูดทุกวันศุกร์นั้นอย่างเพิ่งรำคาญ ตนยังรำคาญตัวเองว่าไม่รู้จะพูดอะไร เดี๋ยวไปขัดใจพี่น้อง ตอนตนไปต่างประเทศก็ได้บอกกับต่างชาติไปว่า ประเทศเราไม่ได้ทะเลาะกันแล้ว ซึ่งต่างชาติก็ทนเห็นไม่ได้ที่ประเทศเรามีการประท้วง อยากขอร้องให้เราหันกลับมาดูแลกัน ส่วนตัวเองก็เข้ามาดูแลประเทศแค่ช่วงเวลาหนึ่งเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า

“จะเห็นว่า วันนี้ที่ผมมาภาคอีสานก่อนไม่ใช่ด้วยเหตุผลทางการเมือง ผมมาเพราะประชาชนมีปัญหาเดือดร้อนมากกว่าที่อื่น และมีประชากรเยอะกว่า มีน้ำแล้งเยอะกว่า ผมก็ต้องมาเยี่ยมท่านก็เท่านั้นเอง ทุกวันนี้ผมทุ่มเททำงานเพื่อพวกเรา ไม่ใช่เพื่อพวกผม และต่างฝ่ายต่างต้องเป็นกำลังใจให้กัน ใครเห็นต่างผมไม่ว่า แต่อย่าทำให้เกิดความวุ่นวาย เพราะจะทำให้ปฏิรูปประเทศไม่ได้ ส่วนเรื่องการปฏิรูปองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นผมยังไม่ได้เข้าไปยุ่งเลย ล้วนแต่ลือกันไปเอง เพราะพวกท่านดูแลประชาชนกันอยู่แล้ว ดังนั้นขอความร่วมมือกับเราในช่วง 1 ปีนี้ได้หรือไม่ สัญหาได้หรือไม่ ส่วนใครที่ไม่ได้มาก็ขอให้บอกด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้อย่าคิดว่าเป็นรัฐบาลทหาร เพราะพวกตนเป็นทหารนอกราชการแล้ว แต่ยังมีภาพของการเป็นทหารอยู่ เมื่อถอดเครื่องแบบออกมาก็เป็นประชาชนคนไทย ล้วนมีสิทธิเท่ากัน ใครเป็นรัฐบาลวันข้างหน้าก็ต้องมาดูแลผม วันนี้เรามาสร้างพื้นฐานในการเดินไปข้างหน้าดีกว่า วันนี้ไม่มีการเมืองเพราะตนไม่ใช่นักการเมือง วันนี้ไม่มีคะแนนเสียงเพราะผมไม่ต้องการลงเลือกตั้งวันนี้ เราเป็นหนึ่งเดียวกัน เลือดสีเดียวกัน ต้องตอบแทนแผนดินและมองถึงอนาคตลูกหลาน ที่ตนพูดเยอะสู้ละครวันศุกร์ได้หรือไม่ เดี๋ยวจะหาว่าเป็นเบียดเวลาละคร แบบนี้เดี๋ยวพวกดาราจะบ่นเอา เพราะรอว่าแฟนๆ จะดูหรือไร แต่ช่วงนี้ก็ต้องขอสักหน่อย เพราะถ้าไม่ฟังตนแล้วไม่คิดตามก็ไม่เกิดประโยชน์ ทำให้เกิดความขัดแย้งใครมาพูดก็ไม่เข้าใจ ตนจึงต้องมาพูดเอง ประเทศนี้ไม่เคยมีใครมาพูดว่าจะทำอะไร คิดอะไร แต่ตนวาดอนาคตให้ เราทุกคนก็ต้องช่วยตนไปสู่จุดหมายเดียวกัน แต่ถ้าตนพูดแล้วเห็นไม่ถูกต้องก็ส่งผ่านช่องทางที่เปิดให้ตน แล้วตนจะรับมาดู

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การเจรจากับต่างประเทศ ตนได้ขอให้ซื้อสินค้าทางการเกษตรจากไทย เพื่อไม่ให้ประชาชนหยุดทำการเกษตร เพราะถ้าวันหน้าโลกเปลี่ยนแปลง ใครจะปลูกข้าวให้เรากิน ตนบอกกับต่างชาติว่าถ้าให้ราคาข้าวเราต่ำ ชาวนาก็จะออกจากวงจรไปเรื่อยๆ ฉะนั้นวันหน้าประเทศไทยต้องเป็นแหล่งอาหารของอาเซียนและโลก นอกจากนี้ เราจะยกระดับสินค้าพื้นบ้าน เช่น ผ้าไหมสตลาดต่างประเทศ วานนี้ (18 พ.ย.) ครม. ได้อนุมัติให้มีการส่งออกน้ำตาลมากขึ้น ซึ่งการแก้ไขปัญหาอ้อยยังอยู่ในเกณฑ์ที่รัฐบาลรับได้ ไม่เช่นนั้นรัฐบาลก็แย่เหมือนกัน เพราะเจอทั้งข้าว ทั้งยาง และอ้อย เหล่านี้เป็นปัญหาทั้งสิ้น เพราะเราล้วนแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุมาตลอด ซึ่งต้องทำให้อุปสงค์และอุปทานสมดุลกัน

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ลงพื้นที่อีสานครั้งแรกมีความสุข ได้มาเจอและหาเห็นแววตาของประชาชนในพื้นที่ เป็นการแสดงความจริงใจซึ่งกันและกัน ให้เห็นว่าตนมีความจริงใจแค่ไหน และวันนี้ได้รับฟังปัญหาหลายปัญหา ซึ่งคิดว่าแก้ได้ไม่ยาก เท่าที่ฟังสายผู้ว่าและกรมต่างๆ วันนี้ที่มาเร่งรัดคือการบริหารจัดการน้ำให้ได้ และขอความร่วมมือการใช้จ่ายงบประมาณปี 57 ที่จะต้องมีการบูรณาการลงมาให้ได้ เพื่อที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศให้ดีขึ้น ขณะเดียวกัน งบต้นปี 58 ในไตรมาสแรกก็กำลังเดินอยู่ ซึ่งเงินที่จะลงในพื้นที่จะมีหลายส่วนด้วยกัน ทั้งในส่วนการบริหารจัดการน้ำ การจ้างแรงงาน การช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยต่างๆ และวันนี้อยากจะใช้คำว่าประวัติศาสตร์ อยากใช้คำว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ของพวกเราอีกครั้ง

เมื่อถามว่า ในส่วนที่มีความเห็นทางการเมืองไม่ตรงกันจะทำอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวเขาคงเข้าใจ และตนก็พยายามที่จะสร้างความเข้าใจ เพราะคนเรามีความเห็นต่างได้ แต่ต้องมองว่าสถานการณ์วันนี้เกิดอะไรขึ้นมา บ้านเมืองมีปัญหาหรือไม่ ถ้ามีปัญหาแล้วแก้ไม่ได้จะใช้วิธีไหนแก้ปัญหาได้อีกหรือไม่ ถ้ามีทางอื่นแก้ได้ตนก็ไม่ต้องการที่จะมาทำแบบนี้ ทุกคนต้องดูว่าเป็นไปได้แค่ไหน

เมื่อถามว่า วันนี้นายกฯ พูดคนเดียวอาจทำให้เหนื่อย จะใช้กลไกท้องถิ่นเข้ามาช่วยเหลืออย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ในเมื่อตนพูดแล้วท้องถิ่นก็ต้องเข้าไปช่วยพูดด้วย ในเมื่อเขารับตนได้ก็ต้องไปถ่ายทอดให้ตนได้ สิ่งที่เราทำมา 5 - 6 เดือนไม่ได้ทำแค่เพื่อให้เขามารักตน แต่ทำให้เขารักบ้านเขาว่าจะต้องทำอย่างไร และจะทำให้บ้านเมืองเดินหน้าไปอย่างไร โดยที่ตนเป็นผู้ขับเคลื่อนให้ มีใครเคยฟังเขา มีใครเคยพูดให้เขาฟังไหม ขอถามสื่อว่ามีใครเคยบอกอนาคตไว้หรือไม่ว่าประเทศชาติจะเดินไปอย่างไร มีใครบอกไว้หรือไม่ รถไฟจะเกิดที่ไหน หรือบอกว่าเมืองเศรษฐกิจ ถนนเส้นทางต่างๆ จะเกิดอย่างไร เราจะวาดอนาคตเหล่านี้ไว้ให้ ถึงแม้เราจะอยู่ได้ไม่ถึงตรงนั้น เราก็จะต้องวางพื้นฐานเหล่านี้ให้ใครก็ตามที่มาบริหารไป แต่เมื่อถึงเวลาเขาจะเปลี่ยนแปลงก็ช่วยไม่ได้ เป็นเรื่องของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งต้องไปแก้กันเอง

เมื่อถามว่า ลงพื้นที่เจอกลุ่มเห็นต่างทำให้ท้อหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่ท้อ และที่มาต่อต้านครั้งนี้ก็เป็นเด็ก ก็ไปสร้างความเข้าใจที่ดีให้เขา” เมื่อถามว่า ถ้าไปภาคเหนือก็ไม่หวั่นที่จะเจอลักษณะแบบนี้ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทำไมล่ะ แล้วตนจะต้องไปรบอะไรกับเขา ตนไม่รบกับเขาหรอก เมื่อถามว่า ลงพื้นที่อีสานแล้วจะไปไหนอีกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มีกำหนดการแน่นอน แต่เดือนหน้าก็ต้องหาที่ไป เพราะกลุ่มเห็นต่างไม่ใช่อุปสรรคในการลงพื้นที่ เขาเป็นคนไทย ฉะนั้นคนไทยก็ต้องเข้าใจ ตนเป็นผู้บริหาร เป็นผู้ใช้อำนาจ ใช้กฎหมาย ก็ต้องอดทนฟังเขา อย่าใช้ความรุนแรงก็แล้วกัน คนที่มาแสดงอะไรให้ตนดู ตนก็ไม่ใช้อะไรรุนแรง แม้แต่พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็จะหาโอกาสลงไป เมื่อถามว่า นายกฯ ตกใจหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า พุทธโธ่ ตนไม่ใช่คนขี้ตกใจขนาดนั้น

เมื่อถามว่า คาดการณ์ไว้หรือไม่ว่าลงพื้นที่แล้วจะมีคนต่อต้าน นายกฯ กล่าวว่า มันก็มี ถ้ามีโอกาสมันก็มีทั้งนั้น ตอนที่ปลอดภัยที่สุดก็ตอนอยู่ท่ามกลางสื่อ ปลอดภัยไม่มีใครทำร้ายตนหรอก พร้อมกันนี้นายกฯ ยังได้ระบุว่ากระตั้งแทงเสือเป็นการแสดงพื้นบ้าน

เมื่อถามถึงการปรับ ครม. เพิ่มอีก 2 ตำแหน่ง คือ นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ เป็น รมช.คลัง และ นายอำนวย ปะติเส เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นตามนั้น ต้องรอให้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ และนำเข้าเฝ้าฯ ก่อนถึงจะทำงานได้ เมื่อถามว่า หลังปีใหม่จะมีโอกาสปรับ ครม. อีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เดี๋ยวดูอีกที”

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากเกิดเหตุนักศึกษากลุ่มดาวดิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น บุกเข้าต่อต้านนายกฯ ได้เกือบประชิดตัวที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ทำให้ทหารรักษาความปลอดภัยตรวจเข้มในพื้นที่ อ.กระนวน โดยเจ้าหน้าที่เดินเช็กเก้าอี้ทุกตัวที่อยู่ในเต็นท์พักของนายกฯ เพื่อตรวจสิ่งแปลกปลอม ขณะที่ฝ่ายท้องถิ่นได้ขอร้องชาวบ้านที่มาพบนายกฯ ว่าอย่าทำอะไรให้เสียชื่อต่ออำเภอ พร้อมกับขอตรวจกระเป๋าสัมภาระที่ถือมาอย่างละเอียด เนื่องจากเกรงว่าจะมีการพกพาอาวุธเข้ามาด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ได้ประกบประชาชนที่เคยเป็นมวลชนเสื้อแดงไว้ตลอด อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่มาให้การต้อนรับนายกฯ ในแต่ละจุดมีจำนวนไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการท้องถิ่น

จากนั้นนายกฯ เดินทางไปยังเขื่อนลำปาว อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำเขื่อนลำปาว โดยมี นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ ประชาชนให้การต้อนรับ




















กำลังโหลดความคิดเห็น