“พิชัย” อ้างตัวเลขสภาพัฒน์ 9 เดือนผ่าน ศก.โตเพียง 0.2% เย้ยขุนคลังรัฐ ถึง 1% ยังยาก แต่ไม่เลิกโวจะถึง 1.5% โยงเป็นเหตุ “ประยุทธ์” ตั้ง 12 ที่ปรึกษาช่วย ฉะมุ่งเพิ่มแต่ภาษี ทำ ศก.ทรุด ซัดภาษีมรดกไม่ได้ช่วยอะไร
วันนี้ (19 พ.ย.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และอดีต รมว.พลังงาน กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปี 2557 ขยายตัว 0.6% ว่า เมื่อตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาส 3 โตเพียง 0.6% ทำให้ 9 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้โตเพียง 0.2% ส่งผลให้โอกาสที่ทั้งปี 2557 จะขยายตัวถึง 1% ยังเป็นไปได้ยากเลย ตรงกับข้อมูลที่ตนเคยระบุไว้ แต่นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ก็ยังคงยืนยันว่าจีดีพีของไทยทั้งปีจะโตเกิน 1.5% เท่ากับว่าในไตรมาสที่ 4 จะต้องโตเกิน 6% ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลย จึงอยากให้นายสมหมายได้ศึกษาตัวเลขเศรษฐกิจให้ดีก่อนออกมาพูดทำให้ประชาชนสับสน
นายพิชัยกล่าวต่อว่า ส่วนตัวมองว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องตั้งคณะที่ปรึกษาเพิ่มอีก 12 คน รวมไปถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่เป็นประธานคณะที่ปรึกษาดังกล่าว จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะหากปล่อยให้นายสมหมาย ทำงานเพียงลำพัง เศรษฐกิจไทยน่าจะไปไม่รอด และการที่มีกรอบความคิดที่จะเพิ่มภาษีอย่างเดียว เช่น ภาษีมรดกที่เพิ่งผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ภาษีทรัพย์สิน รวมถึงการเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจทรุดต่ำลงไปอีก ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าในส่วนของภาษีมรดกที่ออกมานั้นจะไม่ทำให้ประเทศเพิ่มรายได้มากนัก และอาจจะเป็นการทำลายระบบการออมในอนาคตด้วย เพราะทุกประเทศควรส่งเสริมให้มีคนรวยมากขึ้นเพื่อประเทศจะได้เจริญ ไม่ใช่ตั้งใจทำร้ายคนรวยเพื่อให้คนจนสะใจ ที่สุดแล้วรัฐแทบจะไม่ได้อะไร และจะทำให้มีเงินไหลออกนอกประเทศ ทั้งนี้ เห็นด้วยกับการพักหนี้เกษตรกร แต่รัฐบาลต้องมีโครงการที่จะส่งเสริมการเพิ่มรายได้ควบคู่ไปด้วย ซึ่งในอดีตมีโครงการจำนำข้าว หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป) กองทุนที่มีประโยชน์ต่างๆ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มเพื่อสามารถใช้หนี้สินได้