xs
xsm
sm
md
lg

4 เดือนประยุทธ์เสียงบ่นเริ่มดัง !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เกาะกระแส


00 จากวันที่ 22 พ.ค.มาจนถึง 22 ก.ย.หากนับนิ้วก็ครบ 4 เดือนเต็มกำลังล่วงเข้าสู่เดือนที่ 5 ของ คสช.ต่อเนื่องมาถึงรัฐบาล "ประยุทธ์1"แม้ว่าจะเพิ่งประชุม ครม.แบบเป็นทางการแค่ครั้งสองครั้ง แต่ในความเป็นจริงความเป็นฝ่ายบริหารไม่ใช่แค่เริ่มต้น แต่ต้องนับมาตั้งแต่มีอำนาจเกินร้อยในนาม คสช.โน่น ดังนั้นระยะเวลา 4 เดือนก็ถือว่าไม่น้อยแล้ว สามารถสร้างผลงานออกมาให้เห็นบ้างแล้ว อย่างน้อยก็ต้องมีแนวโน้มในทางใดทางหนึ่งได้แล้ว

00 แน่นอนว่าระยะเวลาแบบนี้ทำให้ชาวบ้านเริ่มส่งเสียง"บ่นออกมาดังมากขึ้น" หากเห็นว่าชักไม่เข้าท่า หรือทุกอย่างยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หรือดูแล้วมันชักเลวร้ายลงไปกว่าเดิม โดยเฉพาะเรื่องปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจชาวบ้านถ้าไม่ดีขึ้นรับรองป่วนแน่ และเมื่อพิจารณาจากปัญหา ดูแล้วทำท่าหนักหนาสาหัสจริงๆ ล่าสุดกระทรวงการคลังโดยสำนักเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เพิ่งเปิดเผยตัวเลขผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ (ต.ค.56-ส.ค.57) ต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 8.2 เอาแค่เดือน ส.ค.57 ก็ยังต่ำกว่าประมาณการถึงร้อยละ 15.1 อันเนื่องจากภาษีเงินได้นิติบุคคลภาคประกอบการไม่ดี อีกทั้งภาษีมูลค่าเพิ่มก็ต่ำกว่าเป้าหมายถึงร้อยละ 14.5 นี่คือตัวอย่างที่สะท้อนมาเป็นตัวเลข และต้องการชี้ให้เห็นเฉพาะเดือนหลังๆช่วง ก.ค.-ส.ค.ที่ คสช.บอกว่าความเชื่อมั่นกลับมาแล้ว และที่เป็นไฟท์บังคับก็คือในปีหน้า ก.คลังในยุค สมหมาย ภาษี ต้องขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 10 โชคดีนะพี่น้อง !!

00 ขณะเดียวกันราคาสินค้าเกษตรแทบทุกตัวราคาตกต่ำลงเรื่อยๆ เช่น ข้าว ราคาในเวลานี้ตกต่ำลงมา มาก ส่วนยางพารานั้นไม่ต้องพูดถึงราคาตอนนี้ลงมาเหลือแค่กก.สามสิบกว่าบาทเท่านั้นเอง หากเป็ยแบบนี้ต่อไปไม่รู้ว่าคำขอร้องปนขู่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯให้อดทนรอไปอีกสักพักขอเวลารัฐบาลแก้ปัญหาแบบบูรณาการอีกสักพักจะรอกันไหวหรือเปล่า เพราะเริ่มมีเสียงตอบกลับมาจากพื้นที่แล้วว่าหากยังไม่ดีขึ้นก็ต้องเคลื่อนไหวแน่ !!

00 ที่น่ากลัวไปกว่านั้นก็คือคำประกาศของ รมว.พลังงาน ณรงค์ชัย อัครเศรณี ที่ยืนยันว่าในต้นเดือนหน้าคือเดือนต.ค.จะต้องปรับขึ้นราคาแก๊สแอลพีจี เอ็นจีวี ภาคขนส่ง รวมไปถึงน้ำมันดีเซล ที่กำลังสร้างความหวั่นไหวให้กับชาวบ้าน เพราะขนาดยังไม่ขึ้นราคาบรรดาผู้ประกอบการทั้งรถและเรือโดยสารต่างออกตัวกันแล้วว่า "ต้องปรับราคากันใหม่" และที่น่าจับตาก็คือบทเรียนในอดีตที่เมื่อใดก็ตามน้ำมันดีเซลปรับราคาเกินลิตรละ 30 บาทเมื่อนั้น"ปั่นป่วน"แน่ เหมือนกับคราวก่อนในยุค รมว.พลังงานที่ชื่อ พิชัย นริพทะพันธุ์ ที่เวลานั้นประกาศงดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันจนราคาน้ำมันลดลงทันทีลิตรละ 6-8 บาท แต่หลังจากนั้นไม่นานราคาน้ำมันก็พุ่งพรวด โดยเฉพาะดีเซลทะลุเกินลิตรละ 30 บาท ส่งผลให้ราคาสินค้า ค่าขนส่งพาเหรดกันขึ้นมาจนเศรษฐกิจหายนะ ค่าครองชีพชาวบ้านหาเช้ากินค่ำต้องลำบากแสนสาหัส จนในที่สุดต้องกลับมาควบคุมราคาดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาทจนถึงทุกวันนี้

00 แต่เมื่อ รมว.พลังงานไฟแรงอย่าง ณรงค์ชัย อัครเศรณี ย้ำว่าต้องปรับราคาพลังงานใหม่ให้"สะท้อนราคาตลาด" ซึ่งก็คือ "ต้องขึ้นราคา" แน่นอน ก็ต้องมาวัดใจกันอีกทีว่าถึงตอนนั้นจะทำตามที่พูดหรือเปล่า และต้องรอดูว่า นายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไฟเขียวหรือเปล่า แต่งานนี้บอกได้คำเดียว "เสี่ยงสูงมาก" และย้ำอีกทีว่าเรื่องเศรษฐกิจปากท้องและเรื่องพลังงานนี่แหละต้องระวังให้ดี เพราะมัน"อ่อนไหว"มาก ขอบอก !!

00 จะเป็นเพราะมีอำนาจในการออกคำสั่ง ยกเลิกคำสั่งได้ตลอดเวลาจนสับสนมึนงงไปหมดว่าตัวเองเคยสั่งอะไรไปแล้วบ้าง ทำให้หลายครั้งต้องยกเลิกคำสั่งที่เพิ่งออกไปได้ไม่นานแค่ไม่ทันข้ามวันดีก็ต้องออกคำสั่งใหม่ให้ยกเลิกคำสั่งเก่า อย่างล่าสุดก็ออกคำสั่ง คสช.ที่ 121/2557 ยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ 117/2557 เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกสมาชิก สปช.จำนวน 14 คน อ้างว่าไม่จำเป็นต้องตั้งใครขึ้นมาเพราะรธน.กำหนดให้เป็นอำนาจของ คสช. ก็ไม่รู้ว่าฝ่ายกม.จะมึนหรือเปล่า เพราะมักจะผิดพลาดหลายครั้งเหมือนกัน แรกสุดก็ตั้งสมาชิก สนช.ที่ขาดคุณสมบัติเข้ามาหลายคนจนต้องลาอกกในที่สุด หรืออีกหลายครั้งที่ต้องออกคำสั่งเพื่อยกเลิกคำสั่งหรือแก้ไขคำสั่ง เฮ้อ แต่ก็ดีไปอย่างก็คือมีอำนาจเบ็ดเสร็จ พลาดมาก็สั่งแก้ได้ทันใจ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น