โฆษก คสช. อ้างทหาร ตำรวจระงับทอล์กโชว์ปฏิรูปที่ดินเป็นดุลพินิจของหน่วยพื้นที่ คาดแค่ร้องขอทำความเข้าใจให้ตรงกัน พร้อมแนะนำช่องทางนำเสนอ ด้านผู้จัดเจอเชิญไปปรับทัศนคติที่ สน.ชนะสงคราม หลังแถลงข่าวเงียบหน้าอนุสรณ์สถาน
วันนี้ (16 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารได้ห้ามไม่ให้ตัวแทนกลุุ่มปฏิรูปที่ดิน กลุ่มสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ และกลุ่มผู้อนุรักษ์วิถีชุมชนกับการอนุรักษ์ที่ดิน นำโดย นายปกรณ์ อารีย์กุล และนายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ แถลงข่าวการจัดงาน “ทอล์กโชว์-คอนเสิร์ต ผืนดินไทย ที่ดินใคร” ที่อนุสรณ์สถาน บริเวณสี่แยกคอกวัว พร้อมกับเชิญตัวไปสน.ชนะสงคราม ว่า เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของหน่วยในพื้นที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ของตนเองตามที่ได้รับมอบหมาย ทั้งนี้เป็นดุลพินิจของหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป และจะนำกลุ่มดังกล่าวไปพูดคุยกันที่ไหน แต่เบื้องต้น จะเป็นการพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจในลักษณะร้องขอ แต่ไม่ได้ใช้มาตรการทางกฎหมาย เนื่องจากต้องมีการทำความเข้าใจให้ตรงกันมากขึ้น และชี้แนะว่าช่องทางการปฏิรูปนั้นสามารถดำเนินการเสนอแนะเข้ามาได้ตามช่องทางใดบ้างที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย อย่างไรก็ตาม คิดว่าจะสามารถพูดคุยทำความเข้าใจร่วมกันได้
มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้คณะทำงานรณรงค์กฎหมาย 4 ฉบับ เตรียมจัดงานดังกล่าวที่สมาคมฝรั่งเศส ในวันนี้ (16 พ.ย.) โดยมีวิทยากร เช่น นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยาม นางผาสุก พงษ์ไพจิต อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายประยงค์ ดอกลำไย ที่ปรึกษาสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ ที่กำลังจัดกิจกรรมเดินก้าวแลกเพื่อปฏิรูปที่ดิน และนายพฤ โอ่โดเชา ชาวปกากญอ แต่ต่อมา วานนี้ (15 พ.ย.) ผู้จัดงานได้รับการติดต่อจาก พ.ท.ภาสกร กุลรวิวรรณ ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ ว่าทาง คสช. ไม่อนุมัติให้จัดงาน
ซึ่งต่อมา นายปกรณ์ พร้อมคณะผู้จัดงานได้ประสานขอแถลงข่าว “ไม่มีงานทอล์กโชว์ภายใต้ท็อปบูต” ถึงสาเหตุที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่อนุญาตให้จัดเสวนา ทั้งที่ผู้จัดงานได้ยื่นแจ้งความประสงค์การจัดงานเสวนาต่อเจ้าหน้าที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ แล้ว แต่ปรากฏว่า ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ได้โทรศัพท์ประสานแกนนำให้ยุติการจัดกิจกรรมทั้งหมด ขณะที่ทางผู้จัดยังคงยืนยันที่จะจัดกิจกรรมในเวลา 13.30 น. ที่หน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา โดยเปลี่ยนเป็น นำเทปกาวสีดำปิดปาก และชูจดหมายเปิดผนึกข้อเรียกร้อง และบันทึกลำดับเหตุการณ์ที่ทำให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมได้แทน ซึ่งมีเนื้อหาเรียกร้องให้ คสช.ยกเลิกกฎอัยการศึกเพื่อคืนเสรีภาพให้แก่ประชาชน ส่วนการปฏิรูปประเทศเป็นสิ่งที่ไม่มีหลักประกันว่าความเห็นของประชาชนจะถูกนำไปใช้ และปัญหาของประชาชนด้านเศรษฐกิจที่มีกลุ่มต่างๆ ออกมาเรียกร้อง ไปจนถึงมีความพยายามในการเชื่อมโยงกับกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อบิดเบือนการเรียกร้อง
ทั้งนี้ นายนิติรัตน์ กล่าวว่า หลังจากนี้หากจะมีการจัดกิจกรรมเสวนาต่างๆ อาจใช้วิธีการอัดคลิปวิดีโอสัมภาษณ์วิทยากรเพื่อเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์แทน