เกาะกระแส
00 ต้องบอกว่าวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมาตลอดทั้งวันล้วนแล้วแต่มีคิวสำคัญแน่นเอี้ยด เริ่มตั้งแต่การประชุมร่วม คสช.-รัฐบาล เพื่อเคาะรายชื่อ กมธ.ยกร่างในโควตาที่เหลือรวม 11 คน(5+1+5) เพื่อนำไปรวมกับส่วนอื่นที่ได้รายชื่อกันไปแล้วรวมเป็นทั้งหมด 36 คนส่งให้กับประธาน สปช.เทียนฉาย กีระนันทน์ แต่งตั้งอย่างเป็นทางการในวันเดียวกัน รวมทั้ง สปช.จะมีการประชุมเพื่อคัดเลือก 18 กมธ.เพื่อทำการปฏิรูปทั้ง 11 ด้านตามโรดแมป จากนั้นวันพุธที่ 5ถึงศุกร์ที่ 7 พ.ย.ก็ล้วนเป็นการประชุมต่อเนื่อง ชนิดที่เรียกว่า"เริ่มเดินเครื่องวอร์มกันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเริ่มเดินหน้าอย่างเป็นทางการในวันอังคารที่ 11 พ.ย.ถึงตนนั้นแหละถือว่า "นับหนึ่ง"แบบเป็นเรื่องเป็นราว
00 อย่างที่บอกตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.เป็นต้นไปถือว่าสำคัญต่ออนาคตของบ้านเมืองในยุคปฏิรูปว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายจริงหรือเปล่า ดังนั้นต้องจับตากันอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันอีกฟากหนึ่งก็ต้องจับตาว่าในวันที่ 6 พ.ย.สนช.จะกล้าลงมติรับเรื่องพิจารณาถอดถอนสองอดีตประธานสภา สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และ นิคม ไวยรัชพานิช หรือเปล่า หลังจากพวกสนช.สายทหารใจไม่ถึง"หดมือกลับ"กระทันหันจนถูกสังคมด่ากันไปพักใหญ่ คราวนี้จะเปลี่ยนใจหรือเปล่า ต้องติดตามดูกัน
00 รุ่งขึ้นวันที่ 7 พ.ย.ก็มีนัดสำคัญที่สำนักงาน ปปช.สนามบินน้ำ จะมีการประชุมร่วมกันระหว่าง ปปช.กับตัวแทนอัยการสูงสุดเพื่อชี้ขาดว่าจะ "ฟ้อง-ไม่ฟ้อง" อาญา ปู ยิ่งลักษณ ชินวัตร ที่ปล่อยปละละเลยโครงการรับจำนำข้าวจนสร้างความเสียหายให้กับชาติบ้านเมืองฉิบหายวายป่วงกว่า 7 แสนล้านบาทหรือไม้ ต้องตามใช้หนี้กันถึงรุ่นหลานเหลน ก็อยากรู้ว่าคนของอัยการสูงสุดจะคิดอย่างไร ถ้าไม่ฟ้องจะได้ฟังเหตุผลว่าอย่างไร แต่บอกไว้ก่อนว่า สนุกแน่ไม่ว่าจะออกประตูไหน !!
00 เพราะถึงอย่างไร หากอัยการสูงสุดไม่ยอมสั่งฟ้องอ้างว่าหลักฐานไม่สมบูรณ์ ทางฝ่าย ปปช.ที่มี ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ เป็นประธาน และวิชา มหาคุณ ผู้ควบคุมคดีต่างย้ำท่าทีว่าหากเป็นแบบนั้น ปปช.ก็เดินหน้าฟ้องอาญาเอง ซึ่งกำหนดก็จะพิจารณาเรื่องนี้กันในวันที่ 12 พ.ย.นั่นเป็น"ปฏิทินมหาระทึก"ที่ไม่ติดตามไม่ได้เป็นอันขาด !!
00 เผยกำหนดการออกมาแล้วสำหรับ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วันที่ 9-10 พ.ย.จะเดินทางไปร่วมประชุม เอเปกที่จีน ก็ต้องจับตากันว่าระหว่างจับมือกับ บารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯจะสอบถามและพูดคุยเรื่องอะไรกันบ้าง จะมีเงื่อนไขต่อรองกันแบบไหนออกมา งานนี้ถือว่าเป็นเวทีใหญ่ หรือแม้แต่การพบกับนายกฯจีน ที่ตามข่าวบอกว่าจะหารือกันเรื่องสินค้าการเกษตร เช่น ข้าว ยางพารา และรถไฟความเร็วสูง ที่ก่อนหน้านี้หากจำกันได้ "พี่ใหญ่"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงนำร่องไปก่อนแล้ว นอกจากนี้ยังต้องจับตาการพบกับ นายกฯมาเลย์ นาจิบ ราซัค ว่าด้วยเรื่องการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ที่ฝ่ายมาเลย์อาสาอำนวยความสะดวก จะสามารถหาทางออกเบื้องต้นในเรื่องหัวหน้าทีมเจรจาฝ่ายไทยว่าจะยอมให้เป็นฝ่ายทหารตามที่ฝ่ายความมั่นคงไทยเสนอหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาฝ่ายโน้นอยากให้ทางเลขาฯสมช.นำทีม แต่หวังว่าคงมีความคืบหน้า
00 บอกแล้วว่ามีแต่วาระอินเตอร์ในช่วงนี้ เพราะหลังจากนั้นก็จะบินข้ามมาที่กรุงเนปิดอว์สหภาพเมียนมาร์เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในวันที่ 11 พ.ย.ก็ต้องจับตาการพบกันแบบนอกรอบระหว่างผู้นำที่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเมียนมาร์ กัมพูชา และมาเลเซียที่เพิ่งพบกัน งานนี้อาจมีข้อสรุปออกมาโดยเฉพาะเรื่องพลังงาน ต้องบอกว่าทุกรายงานล้วนงานช้าง !!