ASTVผู้จัดการ - เผยตาราง “บิ๊กตู่” บินถกผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 22 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน 9-11 พฤศจิกายนนี้
เย็นวานนี้ (30 ต.ค.) เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศเผยแพร่กำหนดการ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 22 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 พฤศจิกายน 2557 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยการประชุมในปีนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นการครบรอบ 25ปี ของการก่อตั้งเอเปก
จีนในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปก ประจำปี 2557 ได้กำหนดหัวข้อหลักของการประชุมในปีนี้ว่า “การสร้างอนาคตด้วยความเป็นหุ้นส่วนในเอเชีย-แปซิฟิก (Shaping the Future through Asia-Pacific Partnership)” และระบุประเด็นหลักที่ให้ความสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่
(1) การก้าวสู่การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค (Advancing Regional Economic Integration)
(2) การส่งเสริมการพัฒนาอย่างมีนวัตกรรม การปฏิรูปเศรษฐกิจ และการเจริญเติบโต (Promoting Innovative Development, Economic Reform and Growth)
(3) การเสริมสร้างความเชื่อมโยงอย่างครอบคลุมและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Strengthening Comprehensive Connectivity and Infrastructure Development) ทั้งสามประเด็นหลักข้างต้นสอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญ ทั้งนี้ การประชุมจะเป็นรูปแบบของการหารืออย่างไม่เป็นทางการ (Retreat) ที่ผู้นำจะแลกเปลี่ยนทัศนะและแสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อและประเด็นหลักต่างๆ
นอกจากภารกิจหลักในส่วนของการประชุมผู้นำแล้ว นายกรัฐมนตรียังมีภารกิจสำคัญอื่นๆ อาทิ (1) การหารือระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก (APEC Business Advisory Council : ABAC) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจการประชุมผู้นำเอเปคประจำปี โดยเป็นโอกาสที่ผู้นำเอเปก รวมทั้งนายกรัฐมนตรีไทยจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้แทนภาคเอกชนจากเขตเศรษฐกิจเอเปก และเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศ (2) การหารือทวิภาคีกับผู้นำเขตเศรษฐกิจอื่นๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และผลักดันประเด็นความร่วมมือในระดับทวิภาคี
เอเปก หรือกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ก่อตั้งขึ้นในปี 2532 เพื่อส่งเสริมการอำนวยความสะดวกและเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุน และได้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 21 เขตเศรษฐกิจ มี GDP รวมกันกว่า 42 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีสัดส่วนเป็นร้อยละ 47 ของมูลค่าการค้าโลก ซึ่งร้อยละ 70 ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของไทยเป็นการค้ากับสมาชิกเอเปก
ทั้งนี้ ไทยเป็น 1 ใน 12 สมาชิกผู้ก่อตั้งเอเปกและได้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในเอเปกมาโดยตลอด โดยไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปก ครั้งที่ 11 เมื่อปี 2546 ภายใต้หัวข้อ “A World of Differences : Partnership for the Future"” และจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอีกครั้งในปี 2565
การเป็นสมาชิกเอเปก นอกจากทำให้ไทยมีส่วนกำหนดทิศทางของเอเปกแล้ว ยังทำให้ไทยมีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และแนวปฏิบัติอันเป็นเลิศกับเขตเศรษฐกิจสมาชิกเอเปกที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย และเป็นโอกาสให้ไทยได้นำเสนอผลสำเร็จของนโยบายการดำเนินงานของไทยในเวทีระหว่างประเทศ เช่น การอำนวยความสะดวกทางการค้า ความมั่นคงทางอาหาร SMEs พลังงาน การศึกษา สาธารณสุข และการจัดการภัยพิบัติ เป็นต้น
