xs
xsm
sm
md
lg

“ยงยุทธ” ชี้จีนหรือญี่ปุ่นได้ลงทุนระบบราง-ดาวเทียม ต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รองนายกฯ ถกทูตญี่ปุ่น เผยขอความชัดเจนไทยเลือกรัฐจีน-ญี่ปุ่นลงทุนระบบราง-ดาวเทียม ชี้ต้องรอบคอบ ลงทุนแล้วต้องถ่ายทอดเทคโนโลยี หนุนไทยเป็นฮับเทคโนโลยี ช่วยพัฒนาหุ่นยนต์และดาวเทียม ขอฐานข้อมูลกันอีโบลา ยันเดินหน้าทุนเรียนลูกชาวนา เล็งแก้ต้นเหตุปัญหาร้านเหล้า แย้ม ครม.เสนอคนนอกนั่ง กมธ.ยกร่าง รธน. ยก “เทียนฉาย-บวรศักดิ์” เหมาะนั่งประธาน

วันนี้ (20 ต.ค.) นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายสังคม หารือกับนายชิเกะคะสุ ซะโตะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ภายหลังการหารือ นายยงยุทธกล่าวว่า ทางญี่ปุ่นขอความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบราง และเทคโนโลยีดาวเทียม เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้อยู่ในรัฐบาลชั่วคราว จึงต้องการความชัดเจนว่ารัฐบาลจะเลือกจีน หรือญี่ปุ่นร่วมลงทุน ทั้งนี้ ทางรัฐบาลได้ชี้แจงว่า การร่วมลงทุนกับประเทศใดต้องศึกษารายละเอียดให้รอบคอบ ที่สำคัญหากเกิดความร่วมมือกันจะต้องถ่ายทอดเทคโนโลยี รวมถึงสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลาง หรือฮับ ด้านเทคโนโลยี เช่นเดียวกับการเกิดอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ขณะนี้ญี่ปุ่นได้วางไทยเป็นฐานการผลิตและเป็นสะพานเชื่อมไปสู่อาเซียน นอกจากนี้ ทางรัฐบาลได้ขอให้ญี่ปุ่นช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับหุ่นยนต์เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลที่ต้องการดูแลผู้สูงอายุ และผู้พิการ โดยเน้นนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยของญี่ปุ่นมาใช้ เช่นสถาบันในเดค ที่เป็นศูนย์ผลิตและพัฒนาหุ่นยนต์ และนวัตกรรมคอมพิวเตอร์ ดังนั้นจึงอยากให้ญี่ปุ่นนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาลงทุนในเมืองไทย รวมถึงเทคโนโลยีดาวเทียม ทางรัฐบาลไทยต้องการผลิตเองแต่อยากให้ต่างประเทศมาสนับสนุน เหมือนอดีตที่ผ่านมาที่รัฐบาลไทยได้ร่วมมือกับฝรั่งเศสยิงดาวเทียมชื่อไทยโชติ

นอกจากนี้ นายยงยุทธกล่าวว่า ไทยยังขอความร่วมมือญี่ปุ่นสนับสนุนฐานข้อมูล มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคอีโบลา เพื่อวางมาตรการป้องกันล่วงหน้า แม้จะมองว่าเป็นเรื่องไกลตัวก็ตาม

รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายสังคม กล่าวถึงความคืบหน้านโยบายนายกรัฐมนตรีสนับสนุนลูกชาวนาให้รับการศึกษาที่สูง โดยเห็นว่ามีความจำเป็นเนื่องจากอาชีพเกษตรกรรมทั้งในไทยและทั่วโลกจะใช้กำลังแรงงานลดลง เพราะจะนำเทคโนโลยีและเครื่องจักรเข้ามาแทนที่ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนและส่งเสริมโครงการในอดีต เช่น โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็จะมีการขยายโอกาสให้ทุนการศึกษาเพิ่มขึ้นเพื่อให้เด็กได้รับการศึกษาและมีอาชีพที่หลากหลายมากขึ้น

นายยงยุทธกล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีสั่งการดูแลเหล้าปั่น และบารากู่ โดยมองว่า ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการเปิดร้านขายสุราตามบริเวณทางเท้า ที่ไม่มีใบอนุญาต และยอมรับว่าปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องแก้ที่ต้นเหตุทั้งการศึกษา และสถาบันครอบครัว แต่แม้จะใช้มาตรการระยะสั้นด้วยการปิดร้านก็ไม่ใช่ที่ถูกต้อง แต่ท้ายที่สุดก็จะกลับมาเปิดตามเดิม

นายยงยุทธกล่าวถึงสัดส่วนกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญของ ครม.จำนวน 5 คน ว่า มีโอกาสที่ ครม.จะเสนอผู้แทนที่เป็นบุคคลภายนอกเพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยาก ในการแต่งตั้งรัฐมนตรีที่จะต้องลาออกจากตำแหน่ง แต่ต้องมีการพิจารณาใน ครม. ขณะที่ตนเองไม่ทราบรายชื่อว่าเป็นบุคคคลใด เพราะเป็นการพิจารณาของนายกรัฐมนตรี สำหรับรายชื่อประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งนายเทียนฉาย กีระนันท์ สมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ สปช. ก็ถือเป็นผู้เหมาะสม และมีความเป็นไปได้




กำลังโหลดความคิดเห็น