xs
xsm
sm
md
lg

"นิพิฏฐ์" โวย สนช.ทหารปอดแหกไม่กล้าถอด "ค้อนปลอม-นิคม" ทำประชาชนหมดหวังปฏิรูปบ้านเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ภาพจากแฟ้ม)
รอง หน.ปชป. ชี้ไม่แปลกใจ สนช. เลื่อนถอดถอน "ค้อนปลอม-นิคม" แค่เตะถ่วง ซัดทำประชาชนไม่มั่นใจปฏิรูป ชี้ สนช. สายทหารปอดแหก กลัวคำขู่ก๊วนการเมืองจะฟ้องศาล ซัดไม่เป็นผลดีของบ้านเมือง กังขาสังคมต้องการคนกล้าแก้วิกฤตประเทศ แต่คนดีกลับกลัวขึ้นมาแล้วจะทำอย่างไร ทำหมดหวังกลายเป็นเวรกรรมบ้านเมือง แนะกลับมาตั้งหลักอีกครั้ง

วันนี้ (17 ต.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเลื่อนการพิจารณารับเรื่องถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา ว่า ตนไม่แปลกใจที่ผลการประชุมจะออกมาเช่นนี้ เพราะคนเหล่านี้ไม่กล้าตัดสินใจ ข้ออ้างที่ว่าต้องศึกษาเอกสาร 4 พันกว่าหน้าไม่ใช่ประเด็น เพราะการหารือครั้งนี้ไม่ใช่พิจารณาว่าจะถอดถอนหรือไม่ เพียงแต่เป็นการลงมติว่าจะรับเรื่องนี้ไว้พิจารณาหรือไม่เท่านั้น

ทั้งนี้ หากรับไว้พิจารณาสมาชิกยังมีเวลาศึกษาเอกสารเหล่านี้ได้ จึงถือเป็นการแตะถ่วงมากกว่า ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญและเป็นหัวใจของการปฏิรูป แต่เมื่อ สนช. ทำเช่นนี้ จะทำให้ความมั่นใจของประชาชนที่มีต่อการปฏิรูปลดลงอย่างมาก และที่น่าสังเกตต่อไปคือสมาชิกที่อ้างว่าไม่แน่ใจว่ามีอำนาจถอดถอนหรือไม่ หรือคนที่เสนอให้เลื่อนออกไป ส่วนใหญ่มาจากสมาชิกสายทหารซึ่งเป็นกำลังหลัก หากข้อเสนอมาจากกลุ่มอื่นยังพอที่จะรับฟังได้ แต่เมื่อสายทหารลังเลว่าจะรับหรือไม่รับทำให้กลุ่มอื่นเกิดความไม่แน่ใจตามมา

“เมื่อกำลังหลักเขวแบบนี้ทำให้กำลังเสริมพากันกลับบ้านหมด ถ้าเป็นรูปแบบนี้ผมว่าน่าจะไม่มีการถอดถอนเกิดขึ้น เพราะ สนช. บางคนกลัวคำขู่ของกลุ่มการเมืองบางกลุ่มว่าจะฟ้องศาล หลายคนไม่อยากขึ้นศาลตอนแก่ การยื้อเวลาออกไปย่อมเป็นผลเสียต่อสถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้แน่นอน เพราะกลุ่มต่อต้านสามารถสะสมกำลังรอวันที่ สนช. จะพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง ขณะนี้สังคมต้องการคนกล้ามากกว่าคนดีมาแก้วิกฤตประเทศ แต่คนดีกลับกลัวขึ้นมา กลับบ้านไปก่อนแล้ว เราจะทำอย่างไร ดังนั้นไม่ควรเพาะเชื้อความขัดแย้งให้เกิดขึ้น หวังว่า สนช. จะมีมติรับเรื่องไว้พิจารณา ส่วนผลจะถอดถอนหรือไม่เราพอรับได้ แต่นี่รีบเลื่อนออกไปตั้งแต่วาระแรกเราก็หมดหวังแล้ว ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสังคมต้องการคนกล้าเพราะการปฏิรูปต้องเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ แต่เมื่อได้คนไม่กล้ามาทำงานถือเป็นเวรกรรมของบ้านเมือง ผมไม่อยากใช้คำว่าเห็นแก่ตัว ควรให้โอกาส สนช. ตั้งหลักอีกครั้ง แต่ผลทั้งนี้ทำให้สังคมคาดหวังน้อยลงแน่นอน” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น