นายกรัฐมนตรีจ้อสื่อ ยันจ่ายเงินชาวนาไร่ละพัน ไม่ได้ทำให้คนมารักมาชอบ เรื่องตรวจสอบสต๊อกข้าวบอกมีหลายคณะ รอดูยอด พบปัญหาส่งศาลตัดสิน ยันของใหม่จะไม่ให้โกง ถามเรื่อง “หม่อมอุ๋ย” เสนอแก้ยางพาราทั้งระบบ บอกค่อยว่ากันอีกที ฉุนอย่าเรียกร้องมาก จะเอาเงินจากไหน ประชดจะแจกคูปองให้หมด นักข่าวถามอารมณ์ไม่ดีเหรอ ปัดเสียงดังแปลว่าอารมณ์ดี วอนเชื่อมั่นตำรวจก่อนปฏิรูป ให้โอกาสตำรวจไม่ดีปรับปรุงตัว
วันนี้ (13 ต.ค.) ที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1 พันบาทว่า การจ่ายเงินดังกล่าวไม่ได้จ่ายเพื่อให้คนมารักมาชอบตน เงินส่วนนี้เป็นเงินจำนวนน้อย อาจจะน้อยมากด้วยซ้ำไปสำหรับคนรวย แต่มีค่าสำหรับคนจน ถ้าเขาเดือดร้อนต้องช่วย แต่ไม่ได้ช่วยแบบที่เคยช่วยกันมาจะไม่สร้างปัญหา เม็ดเงินที่มีอยู่ก็ตัดส่วนนี้ไปช่วย ไม่ได้ไปเอาเงินก้อนใหญ่มาให้ทั้งหมด ไม่เข้าใจ ต่างคนต่างอยากจะได้มากขึ้น คนนั้นคนนี้อยากจะเรียกเท่านั้นเท่านี้ โดยไม่ได้ฟังว่าตอนนี้รัฐบาลทำอะไรกันอยู่ จึงขอร้องว่าเราพร้อมจะช่วยถ้ามีเงินมากๆ ก็ให้มากในการที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อน แต่มันไม่ยั่งยืน การจะยั่งยืนได้อยู่ตรงไหนทุกคนทราบดี นั่นคือการปรับโครงสร้างการผลิตให้ได้ ต้นทุนการผลิตทำอย่างไร การร่วมกลุ่มกันทำอย่างไร และสหกรณ์ว่าอย่างไร เราจะช่วยเหลือตรงไหน การค้าขายจะทำอย่างไร วันนี้ทุกคนเอาเรื่องเดิมๆ มาเรียกร้องว่าต้องการเท่านี้เท่านั้น ถามว่า แล้วปัญหาดังกล่าวยังอยู่หรือไม่ ลืมกันแล้วหรือ ข้าวขายได้หมดหรือยัง เสียมากหรือไม่
เมื่อถามว่า ขณะนี้การตรวจสอบสต็อกข้าวคืบหน้าอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องนี้มีหลายคณะ ไม่ได้โยนความรับผิดชอบ แต่เป็นเรื่องของใครก็ของใคร ถ้าผิดคือผิด เมล็ดเดียวก็ผิด กระสอบเดียวก็ผิด กฎหมายเขียนว่า กระสอบเดียวไม่ผิดหรืออย่างไร ขณะนี้คณะทำงาน ทั้งคณะของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) คณะกรรมระบายข้าว และอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ เขาจะเอายอดมาดูว่าเสียเท่าไหร่ คุณภาพต่ำเท่าไร นี่คือยอดตรงนี้ ตนไม่รู้ เพราะรับยอดมาจากรัฐบาลชุดที่แล้ว ถ้าขาดหรือมีปัญหามากตนก็ส่งฟ้องศาล ศาลไปสอบเอา
เมื่อถามว่า รัฐบาลชุดนี้จะดูแลเรื่องข้าวอย่างไรไม่ให้เกิดการทุจริตขึ้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ของใหม่จะไม่ให้เกิดการทุจริต ส่วนของเก่าไปไล่บี้ของเก่า ใครทุจริตก็ไปเล่นงานคนรับผิดชอบข้างล่าง ไม่ใช่นายกฯ จะรู้ทุกอย่าง ดูไม่ไหว อย่าเอาเรื่องเก่ามาปนกับเรื่องใหม่ ซึ่งเรื่องใหม่หากมีทุจริตจะลงโทษ รัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะไปเอาประโยชน์จากตรงไหน นี่คือความแตกต่าง อย่าเอาเรื่องนี้ไปพันเรื่องนั้น เดี๋ยวจะอยู่กันไม่ได้อีก
เมื่อถามถึงกรณี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เสนอแก้ปัญหายางพาราทั้งระบบ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เราได้หารือกันมาตลอด ที่ผ่านมาที่อนุมัติผ่าน ครม. เรื่องของปัญหาชาวนาเราเห็นว่าชาวนาเดือดร้อนก่อนก็เอาไปเท่านี้ก่อน ส่วนเรื่องเกษตรกรชาวสวนยางถ้าพิจารณามาอย่างไรก็ว่ากันอีกที
“อย่าเรียกร้องกันมาก แล้วจะเอาเงินที่ไหน งบประมาณแผ่นดินมีเท่าไร เก็บภาษีรายได้รัฐเก็บได้เท่าไร ขาดทุนเท่าไรแล้ว ปีหน้าจะเก็บได้หรือไม่ก็ไม่รู้ พอบอกจะขึ้นภาษีก็ร้องโอ๊ยว่าไม่ได้ อะไรก็ไม่ได้ แต่ไอ้นี่จะเอาเยอะ แล้วจะเอาเงินจากตรงไหนวะ แจกคูปองได้มั้ย อีกหน่อยก็แจกคูปองให้หมดแล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า ตลอดการสัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ในวันนี้ได้ตอบคำถามด้วยน้ำเสียงดุดัน ขึงขังอยู่เป็นระยะ จนผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้อารมณ์ไม่ดีเป็นอะไรหรือไม่ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ได้เป็นอะไร เสียงดังแปลว่าอารมณ์ดี
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการปฏิรูปตำรวจเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในสังคม เนื่องในวันตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2557 ว่า ต้องเชื่อเขาก่อน ทุกคนมีทั้งดีและไม่ดี อย่าเหมาทุกคนว่าเลวไปทั้งหมด ถ้าไม่ดีให้เขามีโอกาสปรับปรุงตัว ไม่ใช่ตีกันอยู่อย่างนี้จะดีขึ้นหรือไม่ การปฏิรูปเป็นเรื่องของการปฏิรูป สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กำลังทำอยู่ ในระหว่างที่ปฏิรูปต้องเชื่อมั่นเรากันเองก่อน เรื่องใดก็ตามที่ผลกระทบต่อประเทศของเราเบากันเสียบ้าง อย่าโจมตีกันเองจนคนเขาไม่เชื่อถือ ท่านไม่เชื่อถือไม่เป็นไร เรื่องของท่าน วันหน้าเราแก้กันได้ แต่ต่างประเทศไม่เชื่อจะทำอย่างไร แล้วมาบอกว่า ไม่มีคนมาเที่ยวเพราะมีทหาร เป็นคนละเรื่อง
