นายกรัฐมนตรีฟุ้ง หลังเยือนพม่า หารือเศรษฐกิจชายแดน ขอให้เปิดด่านสิงขรไปก่อน พร้อมช่วยซ่อมสะพานมิตรภาพ 1 ที่แม่สอด หนุนสร้างถนนรับโครงการทวาย ชี้ต้องพึ่งพาอาศัยกัน แจงหยุดจ้อ “คืนความสุข” นับชั่วโมงไม่ได้ อ้างถ้าไม่พูดประชาชนไม่เข้าใจ ยันไม่ได้ห้าม “ยิ่งลักษณ์” เปิดงานไหลเรือไฟหนองคาย วอนอย่าเอาตัวเองไปรบ
วันนี้ (10 ต.ค.) ที่ท่าอากาศยานกองบิน 6 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังเยือนสาธารณะรัฐแห่งสหภาพพม่า อย่างเป็นทางการว่า ผลการเยี่ยมเยียนในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และประสบผลสำเร็จ โดยได้รับความรับความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนหลายอย่างด้วยกัน อาทิ แรงงานต่างด้าว การปักปันเขตแดน การป้องกันปราบปรามยาเสพติด รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหัวข้อในการพูดคุย
โดยเฉพาะเรื่องเขตแดนจะขอความร่วมมือระหว่างกัน จะไม่ให้เรื่องเส้นเขตแดนเป็นปัญหาและอุปสรรคระหว่างเรา ซึ่งจะดำเนินการในส่วนที่ทำได้ และจะแสวงหาความร่วมมือในส่วนที่ทำไม่ได้ แล้ววันหน้าค่อยมาปักปันกันใหม่ ทั้งนี้ บรรยากาศเพิ่มเติมช่องทางที่ด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ติดชายแดนพม่า ที่แต่เดิมยังไม่สามารถเปิดใช้ได้ เนื่องจากยังไม่ปักปันเขตแดน ขณะนี้ก็ขอให้เปิดไปก่อน โดยไม่ให้ฝ่ายไหนอ้างว่าเขตแดนของใคร ยึดถือของแต่ละประเทศไปก่อนตามเดิม ไม่อย่างนั้นก็ไม่สามารถเปิดได้เสียที
ในเรื่องของเศรษฐกิจ ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก กับเขตอิรวดี เราจะให้การสนับสนุนช่วยเหลือในการซ่อมสะพานแห่งที่หนึ่งและช่วยออกแบบแห่งที่สองให้ และจะหารือกับคณะกรรมการว่าจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งขึ้นอยู่กับทางพม่าว่าจะตัดสินใจอย่างไร ขณะที่การก่อสร้างเส้นทางต่างๆ ที่มีความแคบ และจะมีการตัดถนนใหม่ เราก็ให้การช่วยเหลือไปบ้างแล้วส่วนหนึ่ง ที่เหลือก็หารือกันต่อไปเพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เช่น การลำเลียงสินค้าจากไทยเข้าไปในพม่า และออกไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ในอนาคต อีกทั้งในเรื่องของการค้าขาย มีการคุบกันว่า ทั้งสองประเทศจะกวดขัดการค้าขายตามแนวชายแดน ที่ผ่านมามีปัญหาในเรื่องของชนกลุ่มน้อย ซึ่งเขากำลังเดินไปสู่สันติภาพ เรายินดีและให้กำลังใจบรรลุข้อตกลงสันติภาพของชนกลุ่มน้อย ที่กำลังเดินเข้าสู่ประชาธิปไตยในประเทศของพม่า
ในเรื่องของโครงการทวาย เป็นเรื่องของพม่า เราให้ในฐานะเพื่อนบ้านจะให้การสนับสนุนเท่าที่ทำได้ เพราะเราเป็นมิตรกันเป็นเพื่อนบ้านกัน ซึ่งเป็นผลประโยชน์โดยรวมของทุกประเทศโดยเฉพาะประเทศในอาเซียน สร้างความเข้มแข็ง สร้างเศราฐกิจ และการขนส่งที่เชื่อมต่อภูมิภาคอื่นๆ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องของทางพม่าที่ต้องเป็นผู้ตัดสินใจ ขณะนี้โครงการทวายมีการร่วมลงทุนร่วมมือกันระหว่างไทยและพม่า ต่อไปก็เป็นเรื่องของเฟสหนึ่งและเฟสสอง โดยเฟสหนึ่งเราสนับสนุนเรื่องของถนนเส้นทาง ส่วนเฟสสองจะเป็นเรื่องของการลงทุนขนาดใหญ่ เราอยู่คนเดียวไม่ได้ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน รัฐบาลยืนยันว่าเราทำด้วยความโปร่งใส ในส่วนของเราต้องตรวจสอบความทุจริตให้ได้ เรื่องนี้ตนพูดมานานแล้ว ดังนั้น อย่าเอาของเดิมกับของใหม่มาปนกัน ของเดิมก็ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมจัดการไ แต่ของตนคือหลังวันที่ 22 พ.ค.ไม่ใช่ว่าเราจะมีอำนาจเพื่อไปโทษใคร กฎหมายอยู่ในกระบวนยุติธรรม ตนไม่ได้ก้าวล่วงความยุติธรรม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่พูดในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ในคืนวันศุกร์ที่ 10 ต.ค. ที่มีความยาวนานเกิน 1ชั่วโมงว่า พูดจนจะเจ็บคอตาย นึกว่าอยากพูดหรือ แต่ที่อยากพูดเพราะต้องสร้างความเข้าใจ ถ้าตนไม่พูดกับท่าน ไม่พูดกับประชาชน วันนี้ยังมีคนส่วนหนึ่งที่ไม่เข้าใจ ตนจึงยอมเสียส่วนหนึ่งเพื่อได้ส่วนหนึ่ง คนหนึ่งฟังตนอีกคนไม่ฟังตนพูดอย่างไรก็ไม่ฟัง แม้พูด 5 นาที หรือ 10 นาทีก็ไม่ฟัง แต่อีกคนเขาพร้อมจะฟัง ตนต้องการคนที่ฟังเพื่อทำความเข้าใจในสิ่งที่พูดไปว่าใช่หรือไม่ ถ้าใช่ให้เขาไปอธิบายคนที่ไม่ฟังดูบ้างนั่นแหละสิ่งที่ตนต้องการมีแค่นั้น ถ้าตนไม่ตั้งใจเข้ามาทำงานในระดับนี้ตนจะพูดทำไม ตนไม่ต้องพูดแต่นั่งเฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรใช้แต่อำนาจ แต่ที่ต้องอธิบายทุกวันเพื่อสร้างความเข้าใจ ไม่อยากให้ทะเลาะเบาะแว้งกัน อธิบายชัดทุกเม็ดแล้วบอกตนพูดมาก ถ้าตนไม่พูดแล้วใครจะพูด
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งห้าม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีงานเทศกาลไหลเรือไฟ ที่ จ.หนองคาย ว่า ตนจะไปห้ามท่านเรื่องอะไร และตนยังไม่รู้ว่าท่านไปเป็นประธานอะไรอย่างไร ซึ่งงานไหลเรือไฟที่ จ.หนองคาย มีทุกปี และตนก็ไม่รู้ว่าใครเป็นประธาน ตอนหลังเห็นว่ารัฐมนตรีมหาดไทย ฝ่ายปกครองไป ยืนยันไม่ทราบ เมื่อถามว่า ยืนยันว่า คสช. ไม่ได้สั่งห้ามใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนจะไปห้ามท่านได้อย่างไร เพราะท่านเป็นประชาชน เรื่องบางอย่างที่อยู่ในกระบวนการก็ว่าไป ทั้งนี้ เวลาไปต่างประเทศขออนุญาตมาตนก็ให้ไป ตราบใดที่ยังไม่มีความผิดออกมาก็แค่นั้นก็จบ อย่าเอาตนไปรบกันเลย โอเคนะ วันนี้เป็นวันแห่งมิตรภาพไทย เมียนมาร์ และ สื่อไทย