สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ทยอยรายงานตัววันที่ 3 “สปช.วันชัย” ยังไม่รู้ใครนั่งประธาน ยันไม่ขอนั่ง กมธ.ยกร่าง รธน.เล็งปฏิรูป 2 เรื่อง ด้าน “สปช.อลงกรณ์” ชี้คนนั่งหัวโต๊ะต้องเชี่ยวชาญกฎหมายมหาชน และเป็นนักบริหาร รอบรู้ทุกด้าน แนะเปิดกว้าง อย่าเพิ่งจำกัดว่า “สปช.เทียนฉาย” จะได้
วันนี้ (10 ต.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.20 น. นายวันชัย สอนสิริ สมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวภายหลังการรายงานตัวเข้าเป็น สปช.ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าใครจะเข้ามาเป็นประธาน สปช. ส่วนรายชื่อที่ออกมาทางสื่อมวลชนในขณะนี้ก็ยังไม่มีข้อเท็จจริงแต่อย่างไร ซึ่งภายใน 2-3 วันนี้ทราบว่าจะมีการพูดคุยกันของอดีต ส.ว.และกลุ่มคนที่มีแนวความคิดเดียวกัน ประมาณ 40-50 คน เพื่อหารือถึงแนวทางและกรอบการทำงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของ สปช. เพื่อให้การทำงานเป็นเอกภาพ ทั้งนี้คงจะไม่เสนอตัวไปร่วมเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แต่จะขอทำหน้าที่ สปช.อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ในการได้เข้ามาเป็น สปช.ในครั้งนี้ตนตั้งใจที่จะปฎิรูปใน 2 เรื่องคือ 1. เรื่องการเข้าสู่อำนาจ และ 2. เรื่องอำนาจรัฐ
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการคัดเลือกประธานและรองประธาน สปช.ว่า ผู้ที่จะมาทำหน้าที่รองประธาน สปช.จำนวน 2 คนนั้น ต้องแยกเป็นคนที่ 1 ต้องมีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายมหาชน เพราะ สปช. ต้องร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนรองประธานคนที่ 2 ต้องเป็นนักบริหาร มีความรอบรู้ทุกด้าน เพื่อทำหน้าที่ช่วยเหลือประธาน สปช.ในการจัดทำพิมพ์เขียวประเทศไทย หากเป็นเช่นนี้จะทำให้เกิดความคลอบคลุมตามภารกิจของ สปช.มากขึ้น เพราะไม่ได้ทำหน้าที่เพื่อควบคุมการประชุมเพียงอย่างเดียว แต่ต้องช่วยประธาน สปช.ทำงานตามกรอบเวลาด้วย
นายอลงกรณ์กล่าวต่อว่า ส่วนรายชื่อที่ปรากฏออกมาว่า นายเทียนฉาย กีระนันทน์ สมาชิก สปช.จะได้เป็นประธาน สปช. และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ กับน.ส.ทัศนา บุญทอง สมาชิก สปช.จะได้เป็นรองประธาน สปช.นั้นเห็นว่า อย่าเพิ่งกีดกันและปิดกั้นคนอื่นๆ ด้วย 2-3 ชื่อนี้เท่านั้น เพราะใน สปช.250 คน มีมากกว่า 10 คนที่มีความเหมาะสมจะดำรงตำแหน่งประธานและรองประธาน สปช. อยากให้เปิดกว้าง โปร่งใสให้ผู้ที่มี่คุณสมบัติ มีความรู้ความสามารถได้แสดงตัว และไม่อยากให้ล็อกสเปกเนื่องจากไม่อยากให้ซ้ำรอยการสรรหา สปช. ไม่เช่นนั้นจะปฏิรูปได้อย่างไร