“สปช.รสนา” รายงานตัว ชี้ความเหลื่อมล้ำปัญหาสำคัญที่สุด แนะให้ชาวบ้านมีส่วนร่วม นำข้อเสนอสู่ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ แนะเลิกอัยการศึกเพื่อภาพลักษณ์ในสายตาชาวโลกที่ดีขึ้น ด้าน “สปช.พารณ” วัย 87 สูงวัยสุดในสภา เตรียมซ้อมเป็นประธานชั่วคราว ยันไม่หนักใจ แนะตัวจริงควรเป็นนักกฎหมายมือดี หนุนแก้ กม.ล้าสมัย ปัดสภามีแต่จุฬาคอนเนกชัน
วันนี้ (9 ต.ค.) ที่รัฐสภา น.ส.รสนา โตสิตระกูล สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ได้เดินทางมารายงานตัว พร้อมกล่าวถึงแนวทางการปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้านว่า ที่จะต้องมีความเชื่อมโยงกันทั้งหมดเป็นภาพรวม พร้อมมองว่าปัญหาที่สำคัญที่สุดที่ต้องแก้ไขคือความเหลื่อมล้ำ ด้วยเหตุที่ไม่สามารถเข้าถึงทรัพยากรได้อย่างเท่าเทียม หากแก้ปัญหาตรงนี้ได้ก็จะนำมาสู่การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองตามมา และการทำงานของสภาปฏิรูปต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความเห็น เพื่อนำข้อเสนอแนะไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเห็นว่าควรจะมีการยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึก เพื่ออำนวยต่อการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน และทำให้ภาพลักษณ์ประเทศในสายตาชาวโลกดีขึ้น
น.ส.รสนากล่าวต่อว่า พลังงานควรจะเป็นสาธารณสมบัติของประชาชน แต่ปัญหาในขณะนี้เป็นเพราะกิจการพลังงานเป็นไปเพื่อแสวงหากำไร จึงส่งผลกระทบต่อประชาชน
ต่อมาเวลา 11.45 น. นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ อายุ 87 ปี ให้สัมภาษณ์ถึงการทำหน้าที่ประธานชั่วคราวในการประชุม สปช.นัดแรก ในฐานะที่มีอาวุโสสูงสุดว่า ในวันที่ 21 ต.ค. เวลา 08.30 น. ตนจะทำการซักซ้อมการทำหน้าที่เป็นประธานกับเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรก่อนจะเริ่มการประชุมจริงในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เพื่อให้กระบวนการถูกต้อง ไม่เสียเวลา ยืนยันว่าไม่หนักใจและไม่มีความกังวลใดๆ ส่วนบุคคลที่เหมาะสมจะทำหน้าที่เป็นประธาน สปช.นั้น มองว่า บุคคลที่เหมาะสมควรเป็นนักกฎหมายมือดี เพื่อที่จะสามารถตอบข้อซักถามต่างๆได้ รวมทั้งต้องเป็นคนที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับสูง มีประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมาใสสะอาด ไม่มีประวัติการฉ้อโกงหรือผิดขนบธรรมเนียมประเพณี แต่ก็ยังไม่มีรายชื่อใครเป็นพิเศษ ส่วนที่มีรายชื่อปรากฎออกมาทางสื่อมวลชน ตนก็ไม่ขอวิจารณ์
ส่วนแนวทางการปฏิรูปนั้น นายพารณมองว่า ต้องมีการแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัยเก่าแก่ตามโลกปัจจุบันไม่ทันเป็นกับดักการพัฒนาประเทศในทุกๆ เรื่อง โอกาสในการปฎิรูปครั้งนี้จะต้องมีการปฏิรูปกฎหมายเพื่อให้ประเทศพัฒนาขับเคลื่อน ส่วนที่มองว่า สมาชิก สปช.เป็นเครือข่ายจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตนคิดว่าไม่ใช่ และก็เพิ่งทราบข่าวจากสื่อเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติ ได้นำเอกสารไปมอบให้นายพารณเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการทำหน้าที่ประธานการประชุมชั่วคราวในวันที่ 21 ต.ค.นี้