ที่ปรึกษาสำนักนายกฯ เป็นปธ.ประชุมผู้นำศาสนาเพื่อสันติภาพอาเซียน ชี้ยังปรากฏความขัดแย้งระหว่างศาสนา รับเป็นประโยชน์มาถกกัน นำสู่ความร่วมมือแต่ละศาสนา ยกขันติธรรมเพื่อการอยู่อย่างสันติ ผู้นำ 5 ศาสนาหนุนขันติเพื่อสันติภาพ เสวนาสร้างเครือข่าย เพื่อให้ความรู้ศาสนาต่างๆ ไม่ให้ศาสนาตกเป็นเครื่องมือนักการเมือง-สื่อ
วันนี้ (29 ก.ย.) ที่โรงแรมคลาสสิคคามิโอ จ.พระนครศรีอยุธยา นายฐากูร ดิษฐอำนาจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมผู้นำศาสนาเพื่อสันติภาพในประชาคมอาเซียน ครั้งที่ 1 ว่า การประชุมครั้งนี้นับว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อประชาคมอาเซียนที่ประกอบไปด้วยสมาชิกที่มีประชาชนนับถือศาสนาที่แตกต่างและหลากหลาย แม้ทุกศาสนาจะมีหลักการที่มุ่งสอนให้คนทำความดี แต่ก็ยังคงปรากฏปัญหาความขัดแย้งที่เกิดจากความแตกต่างทางความคิดและความเชื่อระหว่างศาสนา ดังนั้น การที่ผู้นำของแต่ละศาสนาได้มาร่วมประชุม พบปะและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ในหลักการสำคัญของแต่ละศาสนานั้นนับว่าเป็นคุณประโยชน์ต่อทั้งองค์กรทางศาสนาและต่อสังคมเป็นอย่างยิ่ง
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหยิบยกหลักการว่าด้วยขันติธรรมทางศาสนามานำเสนอในครั้งนี้นับว่าสอดรับกับการนำพาสังคมอาเซียน ซึ่งเป็นเสาหลักหนึ่งของประชาคมอาเซียนไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ย่อมเป็นการสะท้อนถึงความปรารถนาที่จะให้สังคมทั้งในแต่ละประเทศและในระหว่างประเทศในประชาคมอาเซียน ได้ยึดหลักขันติธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันและการพัฒนาทางสังคมอย่างมีความสุข” นายฐากูรกล่าว
นายฐากูรกล่าวด้วยว่า การประชุมผู้นำทางศาสนาเพื่อสันติภาพในประชาคมอาเซียนที่มีขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยจะได้ดำเนินต่อไปในโอกาสข้างหน้าตามปฏิญญาที่ได้ประกาศร่วมกันในครั้งนี้ รวมทั้งนำไปสู่การเพิ่มพูนความร่วมมือทางศาสนาระหว่างองค์กรศาสนาต่างๆ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมงานด้านศาสนาและการมีส่วนร่วมของทั้งองค์กรทางศาสนาและประชาชนในสังคมอาเซียน
นอกจากนี้ ในช่วงท้ายของการประชุม ผู้นำทั้ง 5 ศาสนาได้เห็นชอบในปฏิญญาที่ตกลงร่วมกันตามที่พระมหาหรรษา ธัมมหาโส ผู้ช่วยอธิการบดี หัวหน้าหลักสูตรสันติศึกษา ในฐานะเลขานุการกรรมการจัดงาน กล่าวต่อที่ประชุมความว่า ปฏิญญาที่เป็นข้อตกลงร่วมกัน ดังนี้ คือ (1. ส่งเสริมขันติทางศาสนาตามประกาศของยูเนสโก ปี 1995 (2. จะดำเนินการเสวนาต่อไปและเสริมสร้างเครือข่ายของผู้นำศาสนา ส่งเสริมกันและกัน (3.เพื่อให้ประชาคมอาเซียนมีความรู้ในศาสนาของตนเองและศาสนาอื่นๆ (4. เพื่อดำเนินแบบต่อเนื่องไม่เหน็ดเหนื่อยเพื่อสันติภาพ เข้าใจถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (5. จะกระทำให้เกิดความคุ้นเคยระหว่างกันเพื่อความเป็นเอกภาพของผู้นำศาสนา (6. เพื่อส่งเสริมการอยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคี ไม่ให้ศาสนาตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองและสื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมผู้นำศาสนาเพื่อสันติภาพในประชาคมอาเซียน ครั้งที่ 1 ภายใต้หัวข้อเรื่อง “ขันติธรรมทางศาสนา” ได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-29 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยความร่วมมือของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ร่วมกับโครงการหลักสูตรปริญญาโท สาขาสันติศึกษามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยา (มจร.) สำหรับการประชุมครั้งนี้มีผู้นำ 5 ศาสนาจาก 10 ประเทศประชาคมอาเซียนประมาณ 80 คนเข้าร่วม
วันนี้ (29 ก.ย.) ที่โรงแรมคลาสสิคคามิโอ จ.พระนครศรีอยุธยา นายฐากูร ดิษฐอำนาจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมผู้นำศาสนาเพื่อสันติภาพในประชาคมอาเซียน ครั้งที่ 1 ว่า การประชุมครั้งนี้นับว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อประชาคมอาเซียนที่ประกอบไปด้วยสมาชิกที่มีประชาชนนับถือศาสนาที่แตกต่างและหลากหลาย แม้ทุกศาสนาจะมีหลักการที่มุ่งสอนให้คนทำความดี แต่ก็ยังคงปรากฏปัญหาความขัดแย้งที่เกิดจากความแตกต่างทางความคิดและความเชื่อระหว่างศาสนา ดังนั้น การที่ผู้นำของแต่ละศาสนาได้มาร่วมประชุม พบปะและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ในหลักการสำคัญของแต่ละศาสนานั้นนับว่าเป็นคุณประโยชน์ต่อทั้งองค์กรทางศาสนาและต่อสังคมเป็นอย่างยิ่ง
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหยิบยกหลักการว่าด้วยขันติธรรมทางศาสนามานำเสนอในครั้งนี้นับว่าสอดรับกับการนำพาสังคมอาเซียน ซึ่งเป็นเสาหลักหนึ่งของประชาคมอาเซียนไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ย่อมเป็นการสะท้อนถึงความปรารถนาที่จะให้สังคมทั้งในแต่ละประเทศและในระหว่างประเทศในประชาคมอาเซียน ได้ยึดหลักขันติธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันและการพัฒนาทางสังคมอย่างมีความสุข” นายฐากูรกล่าว
นายฐากูรกล่าวด้วยว่า การประชุมผู้นำทางศาสนาเพื่อสันติภาพในประชาคมอาเซียนที่มีขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยจะได้ดำเนินต่อไปในโอกาสข้างหน้าตามปฏิญญาที่ได้ประกาศร่วมกันในครั้งนี้ รวมทั้งนำไปสู่การเพิ่มพูนความร่วมมือทางศาสนาระหว่างองค์กรศาสนาต่างๆ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมงานด้านศาสนาและการมีส่วนร่วมของทั้งองค์กรทางศาสนาและประชาชนในสังคมอาเซียน
นอกจากนี้ ในช่วงท้ายของการประชุม ผู้นำทั้ง 5 ศาสนาได้เห็นชอบในปฏิญญาที่ตกลงร่วมกันตามที่พระมหาหรรษา ธัมมหาโส ผู้ช่วยอธิการบดี หัวหน้าหลักสูตรสันติศึกษา ในฐานะเลขานุการกรรมการจัดงาน กล่าวต่อที่ประชุมความว่า ปฏิญญาที่เป็นข้อตกลงร่วมกัน ดังนี้ คือ (1. ส่งเสริมขันติทางศาสนาตามประกาศของยูเนสโก ปี 1995 (2. จะดำเนินการเสวนาต่อไปและเสริมสร้างเครือข่ายของผู้นำศาสนา ส่งเสริมกันและกัน (3.เพื่อให้ประชาคมอาเซียนมีความรู้ในศาสนาของตนเองและศาสนาอื่นๆ (4. เพื่อดำเนินแบบต่อเนื่องไม่เหน็ดเหนื่อยเพื่อสันติภาพ เข้าใจถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (5. จะกระทำให้เกิดความคุ้นเคยระหว่างกันเพื่อความเป็นเอกภาพของผู้นำศาสนา (6. เพื่อส่งเสริมการอยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคี ไม่ให้ศาสนาตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองและสื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมผู้นำศาสนาเพื่อสันติภาพในประชาคมอาเซียน ครั้งที่ 1 ภายใต้หัวข้อเรื่อง “ขันติธรรมทางศาสนา” ได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-29 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยความร่วมมือของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ร่วมกับโครงการหลักสูตรปริญญาโท สาขาสันติศึกษามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยา (มจร.) สำหรับการประชุมครั้งนี้มีผู้นำ 5 ศาสนาจาก 10 ประเทศประชาคมอาเซียนประมาณ 80 คนเข้าร่วม
