เลขาธิการ กกต.เผยสรรหา สปช.เหลือเพียง 7 จังหวัดยังไม่ส่งชื่อ แต่คาดพิจารณาได้ตามกรอบเวลา 22 ก.ย.นี้ ส่วนการเปิดชื่อขึ้นอยู่กับนโยบาย คสช. ยังไม่เห็นคำร้อง “หมออนันต์” ร้องสรรหาที่สุรินทร์ไม่โปร่งใส เผยหลังเสร็จภารกิจจะเตรียมปรับโครงสร้างองค์กร ในช่วงยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
วันนี้ (21 ก.ย.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า สำหรับการสรรหาผู้เหมาะสมเป็น สปช.ของคณะกรรมการสรรหา 11 ด้าน ทางสำนักงาน กกต. ได้นำรายชื่อจำนวน 550 รายชื่อเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว ส่วนผลการสรรหาของคณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัดได้รับรายงานว่าขณะนี้เหลือเพียง 7 จังหวัดจาก 77 จังหวัดที่ยังไม่ได้ดำเนินการพิจารณาคัดเลือกผู้เหมาะสมเป็น สปช. เนื่องจากคณะกรรมการสรรหาบางรายติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ แต่เชื่อว่าทั้ง 7 จังหวัดที่เหลืออยู่นั้นจะสามารถพิจารณาคัดเลือกผู้เหมาะสมเป็น สปช.ได้ทันตามกรอบเวลาในวันที่ 22 ก.ย.นี้
ส่วนข้อเสนอที่สอบถามกันมาว่าหาก คสช.ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเป็น สปช.จำนวน 250 คนเรียบร้อยแล้วจะมีการเปิดเผยรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาทั้งในส่วนกลางและระดับจังหวัดได้หรือไม่นั้นก็คงต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของ คสช.ว่าจะพิจารณาให้เปิดเผยรายชื่อได้หรือไม่ เพราะทางสำนักงาน กกต.เป็นแค่เพียงฝ่ายธุรการ ไม่มีอำนาจตัดสินใจในเรื่องนี้
นายภุชงค์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ นพ.อนันต์ อริยะชัยพาณิชย์ อดีตรองประธานวุฒิสภา ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธาน กกต. และประธานกรรมการสรรหา สปช.จังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้ตรวจสอบกรรมการสรรหา สปช.จังหวัดสุรินทร์คนหนึ่งว่ามีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้เข้ารับการสรรหา เนื่องจากเป็นเครือญาติกันนั้น ขณะนี้ตนยังไม่เห็นเรื่องร้องเรียนดังกล่าว เพียงแต่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่และทราบข่าวจากสื่อมวลชนเท่านั้น คงต้องขอตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้กระบวนการคัดเลือก สปช.ยังเป็นความลับอยู่ และไม่แน่ใจว่าผู้ร้องเป็นผู้ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาให้เป็นหนึ่งในห้าคนของจังหวัดสุรินทร์ด้วยหรือไม่
เลขาธิการ กกต.กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการสรรหา สปช.แล้ว ส่วนตัวรู้สึกพอใจกับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยตลอดระยะเวลาของการเปิดรับเสนอชื่อและการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม การปฏิบัติงานมีปัญหาและอุปสรรคน้อยมาก อีกทั้งก็มีบุคคลที่มีความรู้ความสามารถจากทุกสาขาอาชีพเข้ามาเสนอชื่อเป็นจำนวนมากถึง 7,370 คน ซึ่งตัวเลขเกินกว่าที่สำนักงาน กกต.ตั้งเป้าหมายไว้ จึงนับว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่มีคนต้องการเข้ามาช่วยกันปฏิรูปประเทศให้ดีขึ้น
นายภุชงค์กล่าวด้วยว่า เมื่อมีการประกาศแต่งตั้ง สปช.เรียบร้อยแล้ว สำนักงาน กกต. ก็คงจะเสร็จภารกิจในทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการของการสรรหา สปช. โดยหลังจากนี้ไปทางสำนักงานก็จะเตรียมความพร้อมในเรื่องของข้อมูลและปรับปรุงโครงสร้างบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ เพราะเมื่อมีการยกร่างรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทางสำนักงาน กกต.ก็น่าจะมีส่วนในการเสนอแนะในเรื่องของอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับ กกต. การจัดการเลือกตั้ง การพัฒนาพรรคการเมืองและกระบวนการสืบสวนสอบสวน และเมื่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นแล้ว กกต.จะมีหน้าที่สำคัญในการรณณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจกับทุกภาคส่วนเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย