โพลสวนดุสิตสำรวจ ปชช.ถึงข่าวอาชญากรรมที่เกิดขึ้น มองเหตุฆ่า 2 นักท่องเที่ยวอังกฤษกระทบภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทย แนะจัดระเบียบ รปภ.เข้มเพิ่มจนท. มองปัญหา นศ.ตีกันเกิดซ้ำซาก จี้แก้เด็ดขาด แนะผู้ปกครองควรให้ความรักเพื่อแก้ไข
วันนี้ (21 ก.ย.) “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่องเหตุการณ์บ้านเมือง ณ วันนี้ ในสายตาประชาชน โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวอาชญากรรมและความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกรณี การฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า หรือการทะเลาะวิวาท ทำร้ายกันของนักศึกษา ทำให้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจ และเพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณีดังกล่าว ซึ่งจากผลสำรวจจำนวน 1,229 คน ระหว่างวันที่ 16-20 กันยายน 2557 สรุปผลได้ ดังนี้
เมื่อถามว่าความคิดเห็นของประชาชน กรณีการฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า อันดับ 1 ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศและการท่องเที่ยวของไทย 84.05% อันดับ 2 เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม ทารุณ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก 79.74% อันดับ 3 มาตรการรักษาความปลอดภัยไม่รัดกุม เจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึง 73.96% และอันดับ 4 เป็นคดีสำคัญ ควรเร่งจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว 68.43%
ส่วนคำถามว่าแนวทางการแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดกรณีการฆาตกรรมดังกล่าว อันดับ 1 ควรมีการจัดระเบียบสถานที่ท่องเที่ยว มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ และมีอาสาสมัครคอยสอดส่องดูแล 83.16% อันดับ 2 กฎหมายต้องเด็ดขาด มีบทลงโทษรุนแรง เจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขัน ไม่ละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ 80.47% อันดับ 3 นักท่องเที่ยวต้องดูแลตัวเอง เพิ่มความระมัดระวัง รอบคอบ หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่เสี่ยงอันตราย 75.67% และอันดับ 4 สถานที่ท่องเที่ยวควรมีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว เช่น การปฏิบัติตัว การป้องกันตัว การสังเกตสิ่งผิดปกติ 69.49%
ด้านคำถามว่าความคิดเห็นของประชาชน กรณีการทะเลาะวิวาททำร้ายกันของนักเรียน นักศึกษาที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ อันดับ 1 เป็นปัญหาที่มีมานาน เกิดขึ้นซ้ำซาก ควรเร่งแก้ปัญหาอย่างเด็ดขาด เอาจริงเอาจัง 82.75% อันดับ 2 เกิดจากการปลูกฝังและเป็นค่านิยมที่ผิดๆจากรุ่นสู่รุ่น 74.13% อันดับ 3 เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทำให้ผู้อื่นต้องเดือดร้อน บาดเจ็บหรือถึงขั้นเสียชีวิต 65.58% และอันดับ 4 เด็กส่วนใหญ่เป็นเด็กมีปัญหา และอยู่ในวัยคึกคะนอง ขาดสติ 64.36%
ขณะที่แนวทางการแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดกรณีการทำร้ายกันของนักเรียน นักศึกษาดังกล่าว อันดับ 1 พ่อแม่ ผู้ปกครองควรให้ความรัก เอาใจใส่ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด 81.69% อันดับ 2 สถาบันการศึกษาต้องเข้มงวดกวดขัน คอยตักเตือน อบรมสั่งสอน ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้กับเด็ก 71.60% อันดับ 3 ให้เด็กได้ทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ช่วยเหลือสังคม หรือเข้าค่ายโดยอยู่ในความดูแลของทหาร เพื่อเป็นการละลายพฤติกรรม 67.70% และอันดับ 4 ลงโทษโรงเรียนหรือสถานศึกษา โดยการยุบหรือสั่งปิดชั่วคราว 63.55%
ทั้งนี้ สิ่งที่ประชาชนอยากจะบอก คสช.และรัฐบาลเกี่ยวกับทั้งสองกรณีที่เกิดขึ้น คือ อันดับ 1 มีมาตรการป้องกันดูแลที่เข้มงวดรัดกุม บังคับใช้กฎหมายและมีบทลงโทษที่เด็ดขาด 85.68% อันดับ 2 คสช.และรัฐบาลต้องเป็นตัวหลักในการสั่งการและขอความร่วมมือไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาความรุนแรงอย่างจริงจัง 77.95% อันดับ 3 ควรรณรงค์ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมตั้งแต่วัยเยาว์ สอดแทรกเนื้อหาในบทเรียนทุกระดับชั้น 70.06% และอันดับ 4 เร่งพัฒนาประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจ ดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น 62.00%