ประวิตร รุกคืบเข้า สตช. !!

เกาะกระแส


00 หลังจากรัฐบาล "ประยุทธ์1"แถลงนโยบายต่อ สนช.แล้วก็ถือว่ามีความสมบูรณ์ทางกม.ร้อยเปอร์เซ็นต์เดินหน้าทำงานได้เต็มที่อย่างเป็นทางการ และครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นผู้แถลงต่อสภาในฐานะนายกฯหลักจากก่อนหน้าที่เคยแถลงร่าง พรบ.งบประมาณ ปี 58 ไปแล้ว แต่คราวนั้นในนามหัวหน้า คสช.ซึ่งก็ถือว่าน่าจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองสมัยใหม่ที่มีลักษณะ"ทูอินวัน"แบบนี้ ก็ขอให้ภารกิจที่ตั้งใจไว้ทำเพื่อชาติประชาชนสำเร็จตามเป้าหมาย ก็แล้วกัน

00 ตามกำหนดการหลังจากแถลงนโยบายรัฐบาลและรับฟังข้อชี้แนะจาก สมาชิก สนช.พอเป็นพิธีแล้ว บอกว่าให้เวลาแค่ 1 วันก็เหลือแหล่แล้ว จากนั้นตามกำหนดการวันรุ่งขึ้นหรือหากในห้องประชุมสภาไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นก็อาจประเดิมตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหารบินลงพื้นที่ตรวจตราเยี่ยมเยียนชาวบ้านในภาคเหนือที่ประสบภัยน้ำท่วม ก็ดูแล้วคึกคักเข้มแข็งดี เป็นอันว่าทุกปัญหาจะได้เดินหน้าแก้ไขเต็มกำลังส่วนจะออกมาสำเร็จแค่ไหนเดี๋ยวก็รู้กัน

00 แบ่งงานกันไปเรียบร้อยแล้วสำหรับตำแหน่งรองนายกฯก็เป็นไปตามคาดหมาย ตามลักษณะของแต่ละบุคคล แต่ที่น่าสนใจก็คือคราวนี้แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกฯจะดูแล สตช.ในระดับนโยบายในตำแหน่ง ประธาน กตช.แต่ในระดับประธาน ก.ตร.ก็เสร็จ"พี่ป้อม"ตามเคย และวันนี้(12 ก.ย.)ก็ได้ฤกษ์ไปประชุมนัดแรกมีวาระสำคัญมีการแต่งตั้งระดับ รองผบ.ตร.ลงมาล้วนสำคัญทั้งสิ้น เอาเป็นว่างานนี้เป็นรายการแท็กทีม "ป้อม-ป๊อด-อ๊อด"หรือ "ประวิตร-พัชรวาท-สมยศ"ทุกอย่างก็น่าจะฉลุย เต็มที่ไปเลยเพ่ !!

00 อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องจับตากันก็คือ การเข้ามาดูแลสตช.ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธาน ก.ตร.ยังถือว่างานนี้ เขาได้ควบคุมทั้งกองทัพและสตช.ซึ่งยังมีผลต่อเนื่องไปถึงการปฏิรูปตำรวจในวันหน้าอีกด้วย มันน่าลุ้นว่าผลจะออกมาแบบไหน น่าลุ้นว่าจะต้องปฏิรูปใครก่อน !!

00 เมื่อลดบทบาท คสช.ลงมาเหลือเพียงหน่วยงานด้านความมั่นคงโดดๆ เหมือนอย่างที่ รองนายกฯฝ่ายกม.อย่าง วิษณุ เครืองาม ได้นิยามเอาไว้ เพราะต่อไปนี้จะโยกย้ายแต่งตั้งใครไม่ได้แล้ว เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐบาล ของนายกฯ และของรัฐมนตรี เท่านั้น ทุกอย่างเข้าสู่วิธีการแบบ"มาตรฐานสากล"นั่นคือผ่านทางรัฐบาล อย่างไรก็ตามเวลานี้ยังถือว่าเป็น"รัฐบาลทหาร"ยังต้องเดินสายชี้แจงหนักหน่วงกับต่างประเทศโดยเฉพาะในแถบยุโรป ดังนั้นตามกำหนดการเดินทางไปกล่าวสุนทรพจน์ที่สำนักงานใหญ่ยูเอ็นปลายเดือนนี้ของ รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร มันจะได้ผลแค่ไหนมีประเทศไหนบ้างที่เข้าใจ แต่ถึงอย่างไรก็ดีกว่าไม่ไป แม้ว่าเขาจะไม่เต็มร้อย แต่ในเมื่อเรามีท่าทีเป็นมิตรมันก็ไม่ซ้ำเติมให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก

00 มีความพยายามเคลียร์ให้จบลงกันแบบงงๆและรวบรัดตัดความให้ต้องเข้าใจว่างบประมาณในการปรับปรุงทำเนียบฯนั้นใช้อย่างคุ้มค่าไม่ได้สูง และไม่มีการทุจริตอย่างที่คิด อย่างเช่น ไมโครโฟนตัวละกว่าแสนสี่ เจรจาใหม่ลดลงมาเหลือตัวละ 9.4 หมื่นบาท ถูกลงกว่าที่พวกสอดรู้สอดเห็นไปคุ้ยในเว็บจำหน่ายสินค้ายี่ห้อเดียวกันสเป็กเดียวกันที่บอกราคาไว้ตัวละ 9.9 หมื่นบาท แถมงบประมาณที่ใช้ทั้งหมดก็ลงมาเหลือแค่ 53 ล้านบาท จากเดิม 67 ล้านบาท(เฉพาะอุปกรณ์โสตทัศโนปกรณ์)อย่างไรก็ดีงานนี่ดูแลคนที่ซวยมีเพียง อธิบดีกรมโยธาฯ มณฑล สุดประเสริฐ และตามมาด้วย มล.ปนัดดา ดิสกุล ปลัดสำนักนายกฯและรมต.ประจำสำนักนายกฯ แต่อย่าลืมว่าแม่งานที่ควบคุมมาตั้งแต่ต้นคือ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ตั้งแต่เป็น รองหัวหน้าคสช.ฝ่ายกิจการพิเศษแต่พักหลังหายเงียบไปเลยนะ !!

00 ฮือฮาขึ้นมาแล้วสำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดกับการเปิดเผยของ ว่าที่ ผบ.ตร.พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าตำรวจได้รวบ 5 มือยิงเอ็ม 79 ฆ่าพล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ปี 53 รวมทั้งยืนยันว่า"ชายชุดดำ"มีจริง งานนี้สนุกแน่ เพราะถ้าสาวให้ลึกไปแบบจริงจังมันก็ต้องรู้ว่าใครคือ"ไอ้โม่ง"คนสั่งฆ่า ฉวยโอกาสช่วงชุลมุนตามแรงอาฆาตต่อเนื่องเคยล้มแผนป่วนเมื่อปี 51-52 จึงเป็นที่มาของคำสั่งเก็บดังกล่าว แต่ที่ผ่านมายังสืบสาวราวเรื่องไม่ได้ เพราะอำนาจยังไม่เปลี่ยนมาวันนี้กลับตาลปัตรอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ สาธุ !!