“หม่อมอุ๋ย” ดอดเข้าทำเนียบ อัญเชิญพุทธชินราช บูชาห้องทำงาน ก่อนชิ่งสื่อกลับ “บิ๊กอู๋” หน้าบานบุคคลแห่ยินดีนั่ง รมว.พม. พร้อมร่วมทานข้าว 22 ขรก. ที่ถูกเด้งนั่งที่ปรึกษานายกฯ “ธาริต” ร่วมด้วย ย้ายที่ประชุม ครม. หนีกลิ่นสี ไปใช้ตึกสันติไมตรีหลังใน “อำพน” แจงพรุ่งนี้ประชุมไม่เป็นทางการ ถกแถลงนโยบาย “อำนวย” เผย รปภ. ขั้นสูงสุด รับไม่น่าห่วง
วันนี้ (8 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ในวันที่ 9 ก.ย.หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.และ ครม. เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ วันที่ 8 ก.ย. เวลา 09.30 น. ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล มายังประตูด้านข้างตึกบัญชาการ 1 พร้อมกับอัญเชิญพระพุทธชินราชจำลอง หน้าตัก 9 นิ้ว ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองชาว จ.พิษณุโลก ลงจากรถมาด้วยตัวเอง ขึ้นบูชาที่ห้องทำงาน ชั้น 4 ตึกบัญชาการ 1 เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการที่ทำเนียบฯเป็นทางการต่อไป โดยยังไม่ได้ขึ้นไปสักการะพระพรหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้า และศาลพระภูมิ ศาลตา ยาย ประจำทำเนียบฯ จากนั้นเวลา 11.00 น. ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ได้เดินทางออกจากทำเนียบฯโดยไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า รู้จักกันแล้ว จะให้พูดอะไร รอไว้หลังนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้วกัน
นอกจากนี้ ตลอดทั้งวัน ที่ทำเนียบฯ ได้มีบุคคลทยอยเดินทางเข้าแสดงความยินดีกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแกัว รองหัวหน้า คสช. ฝ่ายกิจการพิเศษ ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็น รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ห้องทำงานชั้น 1 ตึกบัญชาการ1 อาทิ นายจเร พันธุ์เปรื่อง รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และ นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา และคณะตำรวจสายสำนักราชวัง ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.อดุลย์ ยังร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับ 22 ข้าราชการที่โยกย้ายมาเป็นที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี อาทิ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ นายโชติ ตราชู นายธงทอง จันทรางศุ โดยระหว่างรับประทานอาหารที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีและขอบคุณที่ดูแลระหว่างที่ทำงานร่วมกันมาโดยตลอดกับ พล.ต.อ.อดุลย์
ขณะที่การปรับปรุงทำเนียบรัฐบาล วันที่ 8 ก.ย. เจ้าหน้าที่ คนงาน จากกรมยุทธการทหารบก กรมโยธาธิการและผังเมือง และ กทม. ยังคงเร่งมือปรับปรุงอาคารสถานที่และภูมิทัศน์ โดยเฉพาะที่ห้องประชุม ครม. ที่ชั้น 5 ตึกบัญชาการ ที่ก่อนหน้านี้ ทั้ง พล.ต.อดุลย์ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ต่างยืนยันเสร็จทันการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 9 ก.ย. แน่นอน ปรากฏว่า วันที่ 8 ก.ย. หลัง คสช. ส่งเจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจความเรียบร้อยห้องประชุมคณะรัฐมนตรีพบว่ายังไม่พร้อมใช้ เนื่องจากสี ทินเนอร์ ยังส่งกลิ่นรุนแรง แม้ก่อนหน้านี้คนงานจะนำถ่าน และใบเตย มาช่วยดูดกลิ่นแล้วก็ตาม ฝ่ายสถานที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จึงได้เตรียมตึกสันติไมตรีหลังใน เป็นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแทน และใช้ตึกสันติไมตรีหลังนอกเป็นที่แถลงข่าว เนื่องจากตึกนารีสโมสร ยังมีกลิ่นสี ทินเนอร์อยู่เช่นเดียวกัน
ด้าน นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมในวันที่ 9 ก.ย.เวลา 09.30 น. ที่ตึกสันติไมตรียังไม่ใช่เป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ แต่เป็นการเชิญรัฐมนตรีประชุมเตรียมความพร้อมในการแถลงนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินรัฐบาลต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 ก.ย. นี้ และแถลงผลงาน คสช. 3 เดือนให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม พ.อ.ม.ล.กุลชาติ ดิศกุล รองเลขานุการกองทัพบก พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษก ทบ.และ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษก คสช. ฝ่ายพลเรือน ร่วมกันแถลงข่าว
ด้าน พ.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการศึกษา (รอง ผบก.ศ.) ช่วยราชการกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบฯ วันที่ 9 ก.ย. ว่า พื้นที่โดยรอบทำเนียบฯจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.1 เป็นหลัก ส่วนพื้นที่ภายในทำเนียบฯใช้ตำรวจสันติบาล รวมกับเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมกับตำรวจนอกเครื่องแบบทำหน้าที่สายสืบหาข่าวอีกส่วนหนึ่ง โดยขอไม่เปิดเผยจำนวนกำลังเจ้าหน้าที่ เป็นการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด และจากข่าวไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง อาจจะมีคนมาร้องเรียนยื่นหนังสือบ้างเล็กน้อย นอกจากนี้ จะมีการตั้งด่านตรวจความผิดปกติรอบทำเนียบฯด้วย และเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่ตั้งไว้ 1 กองร้อย หากกรณีฉุกเฉิน ที่ไม่เกินครึ่งชั่วโมงเข้าถึงพื้นที่ได้ทันที
