อดีต ส.ว.กทม.รับคำท้า “สารี” เอาน้ำเย็นราดตัว แต่เน้นแบบไทยๆ ขอใช้น้ำมนต์จาก 4 แห่งผสมน้ำแข็ง พร้อมโชว์หน้าโบสถ์วัดญาณเวศกวัน หวังส่งแรงบันดาลใจต่อ ก่อนท้ารองประธาน สนช.คนที่ 1, รอง ปธ.ศาลปกครองสูงสุด และ ว่าที่ ป.ป.ช. หวังกอบกู้ความเป็นธรรมในระบบพลังงาน ฉะรัฐบาลเห็นแปรรูปสำคัญกว่าการอยู่ร่วมกันไม่ช้าคงตามรอยอาร์เจนตินา
วันนี้ (22 ส.ค.) เว็บไซต์เฟซบุ๊ก “รสนา โตสิตระกูล” ของ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม. เปิดเผยว่า วานนี้ ( 21 ส.ค.) น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้ท้าทายตน (Challenge) ตนในฐานะพี่และเพื่อนร่วมงานในวงการองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) ที่เป็นไอดอลในการทำงานอย่างเข้มแข็งด้านพลังงาน ตนถือว่าการท้าทายของ น.ส.สารี คือการส่งต่อ “แรงบันดาลใจ” ให้ตนได้ส่งต่อ “แรงบันดาลใจ” นั้นไปยังท่านอื่นๆ 3 ท่านที่ตนมีความเคารพศรัทธาดังที่ น.ส.สารีมีต่อตน เพื่อให้แรงบันดาลใจทำให้เราได้ร่วมกันเปลี่ยนแปลงให้เกิดความเป็นธรรมในเรื่องของพลังงาน จากแต่ละพื้นที่ที่ท่านเหล่านั้นปฏิบัติงานอยู่ ขณะนี้ตนมายืนอยู่หน้าโบสถ์วัดญาณเวศกวัน เพื่อยืนยันถ้อยคำที่ตนจะกล่าวต่อไปนี้ว่าเป็นสัจวาจา
น.ส.รสนาระบุว่า ตนยินดีรับคำเชิญชวนท้าทายของ น.ส.สารี ในฐานะที่ตนเป็นตัวแทนคนหนึ่งของชาวกรุงเทพมหานคร ที่ได้เลือกตนเข้าไปทำงานรณรงค์เพื่อสร้างความเป็นธรรมในระบบพลังงานไทยอันเป็นโครงข่ายสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประชาชน จึงขอยกถ้อยคำของ นพ.ประเวศ วะสี ราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ผู้ที่ตนเคารพรักยิ่ง ที่กล่าวในงานประชุมวิชาการที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วานนี้ (21 ส.ค.) มีคำพูดตอนหนึ่งว่า “ขณะนี้การขาดความเป็นธรรมกำลังเป็นปัญหาใหญ่ของโลก เป็นวิกฤติแห่งการอยู่ร่วมกัน เพราะไม่ได้ถือหลักการแห่งการอยู่ร่วมกัน แต่ถือหลักอื่นๆ เช่น การแข่งขันเสรี การแสวงหากำไรสูงสุด โลกจะไม่หายวิกฤตถ้ามนุษยชาติไม่เปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นการอยู่ร่วมกัน ซึ่งความเป็นธรรมสำคัญที่สุด”
“สำหรับดิฉันหากรัฐบาลเห็นการแปรรูปสำคัญกว่าการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นธรรมแล้ว ในไม่ช้าประเทศไทยก็คงกลายเป็นอย่างประเทศอาร์เจนตินาในอดีต ที่แปรรูปกิจการของรัฐทุกอย่างเข้าสู่ระบบตลาด ที่เรียกอย่างไพเราะว่า การแข่งขันเสรี แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตลาดเสรี คือเสรีภาพของหมาจิ้งจอกในเล้าไก่มากกว่า และเส้นทางนี้มีแต่จะนำพาประเทศไทยเข้าใกล้ภาวะของรัฐที่ล้มเหลว” น.ส.รสนา ระบุ
น.ส.รสนาระบุต่อว่า และเพื่อให้การอยู่ร่วมกันอย่างเป็นธรรมกลับคืนมา ตนขอส่งแรงบันดาลใจเพื่อเชิญชวนไปยังบุคคล 3 ท่าน คือ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติ คนที่1 นายเกษม คมสัตย์ธรรม รองประธานศาลปกครองสูงสุด คนที่ 1 และนางสุภา ปิยะจิตติ ว่าที่ กรรมการ ป.ป.ช. โดยหวังอย่างยิ่งว่าตัวอย่างของผู้แทนในฝ่ายนิติบัญญัติแห่งชาติ ฝ่ายตุลาการ และฝ่ายองค์กรตรวจสอบ จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดในการกอบกู้ความเป็นธรรมในระบบพลังงานของไทย โดยเฉพาะหน้านี้คือการพิจารณานำระบบท่อก๊าซธรรมชาติทั้งระบบอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่สร้างจากภาษีอากรของคนไทยทั้งประเทศ ให้กลับคืนมาเพื่อประโยชน์สุขร่วมกัน และเพื่อความรักสามัคคีของประชาชนคนไทยทั้งแผ่นดินสืบไป เพื่อให้ #icebucketchallengeTH มีกลิ่นไอแบบไทย จึงใช้น้ำพุทธมนต์จากวัดพระแก้วมรกต, น้ำมนต์จากเขาตักซัง อันเป็นที่ประทับของท่านมหาปัทมสัมภาวะแห่งภูฏาน น้ำมนต์หลวงพ่อซำปอกงแห่งวัดกัลยาณมิตร และน้ำมนต์วัดญาณเวศกวัน ผสมน้ำแข็ง
ทั้งนี้ น.ส.สารีได้ทำกิจกรรมราดน้ำเย็นเมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) ที่ลานเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หลังถูกท้าทายโดย น.ส.สุภิญญา กลางนรงค์ กสทช. พร้อมกับท้าทายต่อไปอีก 3 คน ประกอบด้วย น.ส.รสนา, นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด โดยขอให้นายพรเพชร นำ 25 สนช.เข้าชื่อเพื่อยื่นออกร่าง พ.ร.บ.องค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค และขอให้ พล.อ.ธนะศักดิ์ปล่อยตัวกลุ่มขาหุ้นปฏิรูปพลังงานที่ถูกจับระหว่างเดินขบวนที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา