เจ้ากรมพระธรรมนูญ แจงศาลทหารกรุงเทพฯ แจ้งความเอาผิดนายทหารและเจ้าหน้าที่เสมียนตรายักยอกอาวุธปืนของกลางออกไป ยอมรับถูกขโมยจริงแต่ไม่ใช่อาวุธที่จับได้ช่วงอัยการศึกโดย คสช. แต่เป็นปืนคดีทหาร ปัดเอี่ยวคดีความมั่นคง-การเมือง แจงนายทหารควบคุมตัวที่เรือนจำทหารอากาศ ดอนเมืองแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่เสมียนตรากำลังให้ตำรวจติดตามตัว ยันหากผิดจริงต้องติดคุก-ฟันวินัยไล่ออกราชการ
วันนี้ (17 ส.ค.) พล.อ.จิระ โกมุทพงศ์ เจ้ากรมพระธรรมนูญ เปิดเผยถึงกรณีที่ พ.ท.สุรวุฒิ ศรีอังกูร เจ้าหน้าที่ของศาลทหารกรุงเทพฯ ได้รับมอบหมายจากตุลาการพระธรรมนูญ หัวหน้าศาลทหารกรุงเทพฯ ให้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อ ร.อ.ชินพล ออรุ่งโรจน์ นายทหารประจำแผนกเก็บรักษาของศาลทหารกรุงเทพฯ และ จ.ส.อ.สมเกียรติ ม้ายอง เจ้าหน้าที่เสมียนตรา ศาลทหารกรุงเทพฯ ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ของทางราชการ เป็นอาวุธปืนของกลางจำนวน 54 กระบอกว่า ยอมรับว่ามีการแอบลักขโมยอาวุธปืนของกลางไปจริง แต่อาวุธปืนที่หายไปนั้นไม่ใช่อาวุธปืนที่จับได้ช่วงประกาศใช้กฎอัยการศึกของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ตรวจยึดมา แต่เป็นอาวุธปืนที่เป็นของกลางในส่วนของคดีทางทหารที่เป็นคดีอยู่จำนวน 2 กระบอกเท่านั้น หายไปทั้งหมดเพียง 40 กว่ากระบอก ไม่ใช่ 54 กระบอกอย่างที่เป็นข่าว อาวุธปืนที่หายไปนั้นเป็นปืนที่คดีสิ้นสุดหมดแล้ว เพียงแต่ที่เก็บไว้เนื่องจากในอนาคตอาจจะมีการร้องเพื่อรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ ทำให้ทางกรมพระธรรมนูญก็เก็บรักษาไว้
“ประเด็นจริงๆ ก็คือปืนที่อยู่ในคดีมีเพียง 2 กระบอก และอีก 40 กว่ากระบอกที่หายไปเป็นคดีที่จบหมดแล้ว แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ไม่ใช่ปืนของกลางที่ทาง คสช.ตรวจยึดมา และไม่ใช่ปืนอาวุธสงครามแต่อย่างใด เป็นคดีของทหารทั้งหมด หรือเป็นคดีที่จำเลยเป็นทหารทั้งหมด เป็นอาวุธปืนสั้น เช่น คดีครอบครองพกพาไปในเมืองที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือปืนที่ทหารนำไปใช้ในการกระทำความผิด อาทิ พยายามฆ่า ฆ่าผู้อื่น ใช้ในการข่มขู่ในการกรรโชกทรัพย์ มันก็มีหลายรูปแบบ” เจ้ากรมพระธรรมนูญกล่าว
พล.อ.จิระกล่าวต่อว่า สำหรับ จ.ส.อ.สมเกียรติ ผู้ต้องหาอีกรายขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการติดตามตัวมาดำเนินคดี ซึ่งตนได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา สบ 10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยได้มอบรูปพรรณสันฐานต่างๆ ของคนร้ายให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุม ซึ่งทาง พล.ต.อ.จรัมพรก็ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่อยู่ในขณะนี้ ส่วน ร.อ.ชินพลไม่ได้หลบหนี จึงต้องควบคุมตัวไว้ เพราะมีหน้าที่โดยตรงในการเก็บกุญแจห้องเก็บของกลางอยู่แล้ว ในเบื้องต้นก็คาดว่าน่าจะมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด แต่ ร.อ.ชินพลยังให้การปฏิเสธ ตนจึงได้สั่งให้พักราชการไว้ก่อนทั้ง 2 นาย
นอกจากนี้ พล.อ.จิระให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมระบุว่า ขั้นตอนการดำเนินการหลังจากที่มีการแจ้งความดำเนินคดีต่อนายทหารทั้งสองนายแล้วนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัว ร.อ.ชินพล และฝากขังไว้ที่เรือนจำทหารอากาศ ดอนเมือง โดยไม่ให้ประกันตัว ส่วน จ.ส.อ.สมเกียรติ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการติดตามตัวเพื่อนำมาดำเนินคดี โดยนายทหารทั้งสองนายได้ถูกสักพักราชการทั้งคู่และไม่ได้รับเงินเดือน แต่ยังไม่ได้ดำเนินการความผิดทางวินัยเนื่องจากต้องรอให้การดำเนินการทางด้านคดีถึงที่สุด
อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนแล้วพบว่ามีความผิดจริงก็จะนำตัวมาขึ้นศาลทหารกรุงเทพฯ เพราะผู้กระทำความผิดเป็นนายทหาร หากศาลทหารฯ ตัดสินว่ามีความผิดก็จะต้องถูกจำคุก สำหรับความผิดทางวินัยนั้นก็จะต้องดำเนินการปลด ถอดยศ และไล่ออกจากราชการ ทั้งนี้ ขอย้ำว่าคดีดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองและอาวุธปืนของกลางที่ถูกขโมยไปนั้นก็ไม่ได้เป็นอาวุธที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำมาแถลง โดยอาวุธปืนทั้งหมดจำนวนกว่า 40 กระบอกเป็นอาวุธปืนของกลางในคดีที่นายทหารกระทำความผิด และถูกตัดสินจบไปแล้ว มีเพียงอาวุธปืนจำนวน 2 กระบอกที่อยู่ระหว่างการทางด้านคดีเท่านั้น ทั้งนี้ถือเป็นเรื่องด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการ
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 ส.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ชั้น 4 กรมพระธรรมนูญ พล.อ.จิระจะชี้แจงกรณีดังกล่าวกับสื่อมวลชนได้รับทราบรายละเอียดอีกครั้ง