อดีต ส.ส. ปชป. แฉปมทุจริตโทรทัศน์รัฐสภา ผลาญงบซื้อรถถ่ายทอดสดดัดแปลง แต่ไม่ใช้งาน เอื้อบริษัทประมูลผลิตรายการข่าว พร้อมโยกย้าย จนท. ไม่เป็นธรรม จี้ เลขาฯสภาตั้งกรรมการสอบใช้งบไม่โปร่งใส
น.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีต ส.ส. สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลในการใช้งบประมาณของรัฐในการบริหารงานสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ รัฐสภา ที่เกี่ยวข้องถึงตัวผู้บริหารสถานีดังกล่าว เพราะในยุครัฐบาลก่อน นับตั้งแต่ตัว ผอ.สถานี เข้ามาบริหารมีการจัดอีเวนต์เปลี่ยนตราสัญลักษณ์ (โลโก้) โดยจัดประกวดออกแบบโลโก้ตั้งรางวัลชนะเลิศ 1 แสนบาท เป็นรูปพานรัฐธรรมนูญ 4 ขีด เปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีแดงมารูน เพราะเป็นสีประจำสำนักงานเลขาธิการสภา แต่หลังมี คสช. เข้ามาบริหาร ผอ.สถานี มีคำสั่งเปลี่ยนสีโลโก้เป็นสีขาว พร้อมสั่งห้ามใช้ตราโลโก้เดิมที่ใช้งบประมาณทำเสื้อ ถุงผ้า กระเป๋าแจกจำนวนมาก
น.ส.รังสิมา กล่าวว่า ยังมีการจัดซื้อรถถ่ายทอดสด DSNG ของสถานีโทรทัศน์รัฐสภา แต่ดัดแปลงเลือกตัวถังรถยี่ห้อเบนซ์ มาใช้ในการประกอบอุปกรณ์ถ่ายทอดสด ซึ่งใช้งบเกินความจำเป็น ซ้ำเกิดความไม่สมดุล ระหว่างช่วงล่างของรถกับตัวถังรถที่ใหญ่ขึ้น และยังมีปัญหาอุปกรณ์ยิงสัญญาณถ่ายทอดสด เพราะสถานีโทรทัศน์รัฐสภายังไม่มีความถี่เป็นของตัวเอง หากจะถ่ายทอดสดต้องขอเช่าคลื่นความถี่ เป็นรายครั้ง ปัจจุบันรถดังกล่าวถูกนำไปเก็บซุกไว้ที่สถานีวิทยุรัฐสภา ซอยอารีย์สัมพันธ์ หลังกรมประชาสัมพันธ์ไม่มีการนำมาใช้อีกเลย ถือเป็นการใช้งบประมาณจำนวนมากโดยเปล่าประโยชน์ และยังมีเรื่องร้องเรียนถึงการล็อกเอื้อประโยชน์ให้บริษัทผลิตรายการโทรทัศน์รัฐสภา เช่น รายการห้องข่าว รัฐสภาแชนแนล และรายการสรุปข่าวเด่นประจำสัปดาห์ โดยเลือกบริษัทที่เป็นพรรคพวกมีความใกล้ชิด ผอ.สถานี ที่ประมูลไปในราคา 30 ล้านบาท ในปีแรก และต่อสัญญาปีที่ 2 ในราคา 24 ล้านบาท ในยุคที่มี นายสุวิจักษ์ นาควัชระชัย เป็นเลขาธิการสภา
นอกจากนี้ ยังมีการใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบที่มีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายบุคลากรที่มีความสามารถด้านผลิตรายการ ไปอยู่ในส่วนงานเอกสาร ไม่สนใจความสามารถเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซ้ำยังเปิดรับพนักงานจ้างเหมา โดยไม่คำนึงถึงวุฒิการศึกษา ประสบการณ์ของงานโทรทัศน์ เอื้อให้ค่าตอบแทนรายเดือนเกินกว่าหน้าที่ปฏิบัติงาน ไม่ศึกษาถึงอุปกรณ์ภายในสถานี ไม่คำนึงถึงศักยภาพของบุคลากร และไม่แก้ไขวิเคราะห์ปัญหาที่มีอยู่ เอาแต่จัดซื้ออย่างเดียว บริหารงานเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องมากกว่าที่จะพัฒนาองค์กรโดยใช้ของที่มีให้เต็มศักยภาพ จึงขอให้ นายจเร พันธ์เปรื่อง เลขาธิการสภา ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ถึงความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวหากพบการทุจริต ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ ตนเห็นว่า ควรจะสั่งย้าย ผอ.สถานี ให้พ้นจากตำแหน่งไปก่อนในช่วงที่มีการสอบสวนข้อเท็จจริง เพราะหากในสภายังทุจริตกันอย่างนี้โดยไม่ทำอะไรก็แย่แล้ว
