กกต.รับทราบ กก.สืบสวนฟัน “ยิ่งลักษณ์” และพวกใช้ทรัพยากรรัฐหาเสียง - “วิรัตน์” ชี้เอาเปรียบชัด

"ภุชงค์" เผยที่ประชุม กกต.รับทราบกรณี กก.สืบมีมติฟัน "ยิ่งลักษณ์" พร้อม 8 รมต.และ "อดุลย์" ใช้ทรัพยากรรัฐหาเสียง ระหว่างทัวร์นกขมิ้น ระบุส่งหนังสือไปแล้ว แต่บางรายยังติดต่อไม่ได้ รอชี้แจงครบก่อนส่ง กกต.ใหญ่ ด้าน หน.ฝ่ายกฏหมายประชาธิปัตย์ ชี้มีพฤติกรรมชัดเอาเปรียบการเลือกตั้ง เชื่อหลีกกรรมไม่ได้ ขอบคุณที่กล้าทำความจริงให้ปรากฏ

วันนี้ (29 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. แถลงภายหลังการประชุมกกต.ว่าที่ประชุมได้รับทราบกรณีที่คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของกกต.มีมติเอกฉันท์ แจ้งข้อกล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกับพวกรวม 9 คน ว่ากระทำการขัดรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้งจากการที่เดินทางไปตรวจราชการในพื้นที่ต่าง ๆ ระหว่างมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง 2 ก.พ. จะมีการใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบในเลือกตั้ง แต่ขณะนี้สำนวนดังกล่าวยังอยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการสืบสวน กกต.จึงเพียงรับทราบถึงความก้าวหน้าในการดำเนินการเท่านั้น ทั้งนี้ส่วนตัวจากที่ได้สอบถามกับเลขานุการคณะกรรมการสืบสวนทราบว่า ได้มีหนังสือส่งไปถึงผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 9 คนแล้ว และมี 2-3 คน ซึ่งไม่แน่ใจว่าในจำนวนนี้มีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วยหรือไม่ที่ขอขยายระยะเวลาการยื่นเอกสารหลักฐาน และการเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ที่กกต.ให้เวลาไปเบื้องต้น 15 วัน ขณะที่บางรายก็ยังไม่สามารถติดต่อไป รวมทั้งบางรายก็อ้างว่าหาข้อมูลไม่ทัน อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติหากครบระยะเวลา 15 วันแล้วทางคณะกรรมการสืบสวนจะพิจารณาว่าข้อมูลที่ได้รับเพียงพอหรือไม่ หรือมีความจำเป็นที่จะต้องขยายระยะเวลาให้กับผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงให้ครบถ้วน ก็จะอนุญาตให้ขยายเวลาชี้แจงได้เพิ่มอีก แต่ทั้งนี้ทางคณะกรรมการสืบสวนก็ระมัดระวังในเรื่องที่ผู้ถูกกล่าวหาจะใช้เรื่องการชี้แจงมาประวิงเวลา โดยหากพิจารณาแล้วเห็นข้อมูลที่ได้รับเพียงพอให้พิจารณาได้ก็จสั่งยุติและเริ่มพิจารณาพร้อมมีมติก่อนที่จะเสนอความเห็นมายังกกต.พิจารณาดำเนินการต่อไป

“คณะกรรมการสืบสวนจะต้องรอคำชี้แจงของผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดให้ครบถ้วนเสียก่อนเพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในสำนวนเดียวกัน ก่อนที่จะพิจารณาสรุปและมีมติเสนอต่อกกต.”นายภุชงค์ กล่าว

ด้านนายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่ากกต.ทำตามขั้นตอนอย่างรอบคอบ เพราะเมื่อถูกร้องเรียนก็ต้องรับเรื่องแล้วตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อเห็นว่ามีมูลก็ตั้งกรรมการไต่สวนๆก็ต้องใช้เวลาพอสมควรในการรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่าย คือ ทั้งฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาและผู้กล่าวหา จึงจะวินิจฉัยชี้ได้ว่าควรจะดำเนินการอย่างไร

“พฤติกรรมดังกล่าวชัดเจนทั้งภาพและเสียงตามสื่อต่างๆ เรื่องนี้ไม่มีทางที่จะหลบหลีกกรรมไปได้ว่าเป็นการเอาเปรียบการเลือกตั้ง โดยใช้ทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐและงบประมาณของรัฐ ทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม เป็นการขัดกฎหมายชัดเจน เพราะผู้กระทำเป็นผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการสั่งการ นอกจากนี้กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยหลายคนก็ร่วมเดินทางไปด้วย ก็ต้องขอขอบคุณที่อนุกกต.กล้าทำข้อเท็จจริงให้ปรากฏ เพราะเรื่องนี้เป็นการเอาเปรียบคู่แข่งมานานแล้ว และหวังว่าคณะกรรมการกกต.ทั้ง 5 ท่านจะพิจารณาตามข้อเท็จจริง” นายวิรัตน์ กล่าว