แหล่งข่าวระดับสูง กกต.เผยมติอนุ กก.สอบกรณี “ยิ่งลักษณ์” ใช้ตำแหน่งหาเสียงเอื้อผู้สมัคร พท.ช่วงทัวร์นกขมิ้น ให้แจ้งข้อหาอดีตนายกฯ พ่วงอดีต 7 รมต. ร่วม “อดุลย์” เปิดให้แก้ต่างด้วยตัวเอง ชี้ผิดจริง ทั้งจำและปรับ โดนแบนการเมือง 10 ปี แถม “ปลอด-จารุพงศ์” เป็น กก.บห.อาจเจอยุบพรรค
วันนี้ (28 ก.ค.) แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ประชุมอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนของ กกต.กรณีมีการกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการ ทรัพยากรของรัฐ ไปหาเสียงในลักษณะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่พรรคและผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทยให้ได้รับเลือกตั้งในการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับพวกอีก 8 คนที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีขณะนั้น ประกอบด้วย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี, นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.พัฒนาสังคม, นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.มหาดไทย
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.พัฒนาสังคมฯ, นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รมช.มหาดไทย และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น ฐานกระทำการเข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 181 (4) ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. 2550 ใช้ทรัพยากรของรัฐ บุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการใดซี่งมีผลต่อการเลือกตั้ง จากการ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีในขณะนั้นได้เดินทางไปตรวจราชการ (ทัวร์นกขมิ้น) ในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร ระยอง เชียงใหม่ ลำปาง เพชรบูรณ์ ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ กาฬสินธุ์ เลย ยโสธร หลังจากที่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภา 9 ธ.ค. 56
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์และพวกอีก 8 คนสามารถเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาด้วยตนเองต่อคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน หรือจะส่งเป็นหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาก็ได้ หากคณะอนุกรรมการสืบสวนได้รับฟังคำชี้แจงแล้วก็จะมีการนำคำชี้แจงมาพิจารณากับข้อกฎหมายก่อนที่จะมีมติเสนอความเห็นต่อที่ประชุม กกต.พิจารณา และหากที่สุด กกต.มีมติว่าการทัวร์นกขมิ้นดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. มาตรา 137 ก็ได้กำหนดไว้ว่ามีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่น ถึง 2 แสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี และเมื่อนายปลอดประสพกับนายจารุพงศ์เป็นกรรมการบริหารพรรค ความผิดดังกล่าวก็อาจเป็นเหตุให้ กกต.พิจารณาได้ว่าถือเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 94 (2) ที่ระบุว่าเมื่อพรรคการเมืองกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.หรือระเบียบ ประกาศของ กกต. ซึ่งมีผลทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม อาจถูกเสนอศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองได้