“ประยุทธ์” กำชับ กอ.รมน. ภาค 4 เข้มงวดดูแลความปลอดภัย หลังคนร้ายวางระเบิดเขตเทศบาลเบตง ทำประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 2 บาดเจ็บ 42 พร้อมให้เร่งช่วยเหลือ ขณะเดียวกัน เรียกร้องให้องค์กรต่างๆ ประณามการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุ
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงว่า เหตุการณ์คนร้ายได้ลอบวางระเบิด ในเขตเทศบาลเบตง จ.ยะลา เมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา ทำให้ราษฎรเสียชีวิต 2 คน และได้รับบาดเจ็บ 42 คน สาหัส 6 คน พักรักษาตัวโรงพยาบาลศูนย์ยะลา จำนวน 2 คน พักรักษาตัวโรงพยาบาล เบตง 15 คน และที่เหลือแพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน จากกรณีดังกล่าว กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวของที่ผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจากการกระทำอย่างสุดโต่ง และไร้มนุษยธรรม
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. ได้แสดงความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้กำชับให้ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า เพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และเร่งรัดให้การช่วยเหลือเยียวยา อย่างเร่งด่วนต่อไป
โฆษก กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายได้ใช้ระเบิดแบบแสวงเครื่อง ไม่ทราบภาชนะบรรจุวางไว้ในรถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อมาสด้า สีเทา หมายทะเบียน บง 3616 ยะลา ซึ่งคนร้ายได้ปล้นแย่งชิงไปจากนายอภิวัฒน์ จันทร์แถม ในพื้นที่ ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา คนร้ายได้ขับไปจอดในที่เกิดเหตุ โดยมีรถรถตู้ สายยะลา - ดอนยาง - หาดใหญ่ รับออกจากที่เกิดเหตุก่อนจุดชนวนระเบิดขึ้น ซึ่งจากการตรวจสอบภายหลังพบว่า คนร้ายได้ปล้นรถตู้คันดังกล่าว และภายหลังเกิดเหตุได้นำมาจอดทิ้งไว้บริเวณเขตรอยต่อ อ.ธารโต จ.ยะลา ทางเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมพยานหลักฐาน และสอบสวนคนขับรถตู้โดยสารเพื่อขยายผลไปสู่กลุ่มคนร้ายต่อไป
โดยภายหลังเกิดเหตุ พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ได้เดินทางไปติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้เร่งคลี่คลายสถานการณ์ และเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อช่วยเหลือเยียวยา โดยขณะนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เข้าไปกำกับดูแลการเยียวยา และเร่งฟื้นฟูสภาพให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด
“กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้าขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกลุ่มองค์กรที่เคลื่อนไหว เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชน และเครือข่ายองค์กร, ผู้นำศาสนา และประชาชนร่วมกันประณามการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้ ซึ่งได้ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ และสร้างความเสียหายในทรัพย์สิน เนื่องในเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นเดือนแห่งการทำความดี พร้อมกับขอให้หยุดแอบอ้างอุดมการณ์เพื่อพี่น้องประชาชน เพราะตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ซึ่งต้องตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์มาโดยตลอด และกลุ่มขบวนการเหล่านี้ทำเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตนเท่านั้น”