แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. หนุนยาแรง ท้าทายกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ตอบสนองพระราชดำรัสให้คนดีปกครองบ้านเมือง ด้านหัวหน้าพรรคคนไทย ห่วงกรอบร่างรัฐธรรมนูญถาวรเพี้ยน ชี้ 11 ประเด็นที่กำหนดเป็นแค่นามธรรม ห่วงคนร่างความคิดแคบ บิดเบือน สร้างปมก่อปัญหา ติงระวังซ้ำรอยรัฐธรรมนูญปี 50 ระบุ พรรคคนไทยพร้อมร่วมวงปฏิรูป
วันนี้ (24 ก.ค.) นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีต ส.ว. สรรหา กล่าวถึงมาตรา 35 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557 ว่า น่าสนใจมากมีบัญญัติ 10 ประการ ที่เป็นมาตรการเข้ม ซึ่งจะมีผลไพศาล โดยเฉพาะในข้อ 3, 4, 5, 7, 8 ซึ่งวางมาตรการเข้มในการตรวจสอบและขจัดการทุจริต ป้องกัน และกำจัดนักการเมืองปล้นชาติ ทำให้ ส.ส. และ ส.ว. เป็นอิสระจากทุนและอิทธิพลทั้งปวง สกัดกั้นประชานิยมที่ล้นเกิน ทำให้การจ่ายเงินรัฐ มีความคุ้มค่า เปิดเผย และตรวจสอบได้ นับเป็นยาแรงที่จะแก้ปัญหาความฉ้อฉลทางการเมือง ที่เป็นมาตลอดในระยะ 12 ปีที่ผ่านมา บัญญัติ 10 ประการ จึงเป็นการตอบสนองพระราชดำรัสที่ว่า ให้คนดีปกครองบ้านเมือง อย่าให้คนชั่วมีอำนาจ
“นับว่า คสช. ได้ตั้งโจทย์ที่ท้าทายคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญอย่างมีนัยสำคัญ หากคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญสามารถร่างรัฐธรรมนูญให้เกิดผลทางปฏิบัติที่เป็นจริงได้ จะเป็นอภิมหากุศลยิ่งใหญ่ต่อแผ่นดินไทย ทำให้การยึดอำนาจไม่เสียของ และมวลมหาประชาชนก็ไม่ต้องมาออกเหงื่อออกแรงกันบนท้องถนนอีก” นายประสาร กล่าว
ด้าน นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงเนื้อหามาตรา 35 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ที่ระบุถึงหน้าที่ของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ว่า การที่กำหนดให้คณะกรรมาธิการยกร่างต้องจัดทําร่างรัฐธรรมนูญให้ครอบคลุม 11 ประเด็น อาทิ กลไกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน ตรวจสอบ และขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน หรือกลไกที่มีประสิทธิภาพในการสร้างเสริมความเข้มแข็งของหลักนิติธรรมนั้น ส่วนตัวมองว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง อย่างไรก็ตาม ในแต่ละหัวข้อที่กำหนดขึ้นมานั้นล้วนแล้วแต่เป็นนามธรรม ซึ่งมองแล้วยากต่อการแก้ไขปัญหาหรือเป้าหมายในการปฏิรูปตามที่ คสช. วางไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่ยกร่างขาดวิสัยทัศน์ก็อาจจะทำให้ร่างรัฐธรรมนูญถาวรที่จะจัดทำขึ้นมานั้น ส่งผลเสียต่อประเทศมากกว่าผลดี
“ผมมองว่า 11 หัวข้อที่กำหนดไว้นั้นเป็นแค่นามธรรม ยากต่อการแก้ปัญหา บางข้อบางกลไกอาจสร้างความแตกแยกมากกว่าปรองดองด้วยซ้ำ และหากผู้ที่เข้ามา โดยเฉพาะสัดส่วนของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่มีถึง 20 คนนั้นเป็นคนที่มีความคิดคับแคบแล้ว ความหวังดีของมาตรานี้จะถูกบิดไปเป็นร้ายได้ หากมีใครใช้ช่องทางในการร่างรัฐธรรมนูญ สร้างปมก่อปัญหาเช่นที่เกิดในการร่างรัฐธรรมนูญปี 2550” นายอุเทน กล่าว
นายอุเทน เปิดเผยด้วยว่า ตามที่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวได้เปิดโอกาสให้นิติบุคคลที่ไม่แสวงผลกำไร ซึ่งหมายรวมถึงพรรคการเมืองสามารถเสนอตัวบุคคลเข้าร่วมเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้นั้น พรรคคนไทยในฐานะที่ยังเป็นพรรคการเมือง ก็พร้อมที่จะพิจารณาตัวบุคคลเข้าร่วมกระบวนการคัดสรร สปช. ด้วย เพียงแต่ขณะนี้ คสช. ยังไม่ประกาศยกเลิกการห้ามดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง จึงยังไม่สามารถเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาในส่วนนี้ได้ หาก คสช. ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว พรรคคนไทยก็จะใช้กลไกของพรรคในการเสนอชื่อตัวบุคคลที่มีความเหมาะสมเข้าร่วมกระบวนการสรรหา สปช. ต่อไป