ทีมโฆษก คสช.แจง คสช.เห็นชอบไทยร่วมเป็นสมาชิกก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย อนุมัติงบกลาง 1,300 กว่าล้านให้ ศธ.ดำเนินโครงการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมเพิ่มโอกาสทางการศึกษา นร.ทุกพื้นที่ รับ หน.คสช.ห่วงสถานการณ์พายุ สั่งทุกภาคส่วนรับมือ กำชับเตรียมน้ำต้นทุนสำรองอุปโภคบริโภค
วันนี้ (22 ก.ค.) ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. แถลงผลการประชุม คสช.ว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้ความเห็นชอบในหลักการให้มีการแสดงเจตนารมณ์ของประเทศไทยในการเข้าร่วมเป็นสมาชิก ผู้ก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank : AIIB) เพื่อรักษาโอกาสให้ไทยสามารถมีส่วนร่วมในการกำหนดรายละเอียดการระดมเงินทุน การจัดสรรหุ้น สิทธิการออกเสียง โครงสร้างการบริหาร ธรรมาภิบาล ตลอดจนรายละเอียดสำคัญของบันทึกความเข้าใจ (MOU) และร่างความตกลงเพื่อการจัดตั้ง AIIB การดำเนินการดังกล่าวเกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยมากที่สุด และยังไม่มีผลผูกพันว่าประเทศไทยจะเข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้นของ AIIB จนกว่าการเจรจาเพื่อยกร่างความตกลงเพื่อการจัดตั้ง AIIB แล้วเสร็จและมีการลงนาม
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ทีมโฆษก คสช.แถลงว่า ที่ประชุมเห็นชอบโครงการขยายผลการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมตามที่ กระทรวงศึกษาธิการ โดยสนับสนุนงบกลาง 1,300,624,760 บาท เพื่อการจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์เกี่ยวกับการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมให้กับโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและโรงเรียนในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน จำนวน 15,441 โรงเรียนทั่วประเทศ
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากข้อสั่งการของหัวหน้า คสช. (เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 57) ที่มอบหมายให้หัวหน้าฝ่ายสังคมและจิตวิทยา คสช.พิจารณาแก้ไขปัญหา การขาดแคลนครูในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล และการเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กโดยเฉพาะการพัฒนาการเชื่อมโยงการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม โดยให้เร่งดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนในระยะที่ 1 ของ คสช.ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนที่ได้รับจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการขยายผลโครงการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
พ.อ.วินธัยยังแถลงว่า พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ฐานะหัวหน้า คสช.ห่วงสถานการณ์พายุที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ได้สั่งการให้เพิ่มความระมัดระวังด้านการเตือนภัย และให้กระทรวงมหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตำรวจ กองทัพ และทุกภาคส่วน เตรียมความพร้อมรับมือและแก้ไขสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเตรียมรับมือทั้งเรื่องวาตภัย และอุทกภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยมีปัญหาน้ำท่วม
นอกจากนี้ จากข้อมูลปริมาณน้ำฝนในปีนี้ที่มีการคาดการว่าจะต่ำกว่าปกติ หัวหน้า คสช.ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมสำรองน้ำต้นทุนไว้ให้เพียงพอ ต่อการใช้งานทั้งเรื่องอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร ให้มีการติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ พร้อมทั้งมอบให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยาไปเตรียมการเรื่องการจัดทำฝนเทียมด้วย