xs
xsm
sm
md
lg

“หมอวรงค์” ชำแหละ 16 ที่สุดความอัปยศโครงการจำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
มือปราบโกงจำนำข้าว ยก 16 ที่สุดจำนำข้าว “ปู” สร้างไว้ ทั้งใช้เงินซื้อข้าวมากที่สุด ขาดสภาพคล่องเร็วสุด โกงมากที่สุด ทำลายแชมป์โลกส่งออกข้าว ชาวนาฆ่าตัวตายมากสุด ใช้โกดังเก็บข้าวมากสุด โดยมีค่าใช้จ่ายจัดเก็บมากสุด แถมมี รมต.ดูแลมากสุด แต่ต่างชาติได้ประโยชน์มากสุด และมีหายนะมากสุด โกงซับซ้อนสุด ยังมีข้าวหายมากสุด เสื่อมสภาพมากสุด มีการปกปิดมากสุด ตอบคำถามไม่ได้มากที่สุด

วันนี้ (20 ก.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าได้ก่อให้เกิด 16 ที่สุดของจำนำข้าว คือ 1. ใช้เงินซื้อข้าวมากที่สุด ในเวลา 2 ปีเศษของการทำโครงการจำนำข้าว เท่ากับห้าฤดูกาลผลิตคือ ข้าวนาปี 2554/2555 นาปรัง 2555 นาปี2555/2556 นาปรัง 2556 และนาปี 2556/2557 รัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องใช้เงินซื้อข้าวเปลือกสูงถึง 870,000 ล้านบาท มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ สิ่งที่น่าสนใจ คือ เงินมหาศาลถึงเกือบ 9 แสนล้านบาท หากถึงมือพี่น้องชาวนาทั้งหมดจริงล้วชีวิตพี่น้องชาวนาต้องดีกว่านี้ แต่กลายเป็นว่าชาวนาส่วนใหญ่ยังลำบาก อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นการใช้เงินซื้อข้าวมากที่สุดในประวัติการณ์

2. ขาดสภาพคล่องเร็วที่สุด ทั้งที่ตั้งงบฯ เงินกู้ไว้ 500,000 ล้านบาท ไม่รวมงบประมาณค่าบริหารจัดการและดอกเบี้ยรายปี หวังจะบริหารโครงการได้ 4 ปี โดยซื้อมาขายไป แต่เพราะทุจริต โกงทุกขั้นตอน และขายข้าวไม่ได้ไม่ถึง 2 ปีก็ขาดสภาพคล่อง แทบจะปิดบัญชีวงเงินกู้ปลายเดือน ธ.ค. 2556 ไม่ได้ ที่สำคัญไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าข้าวชาวนาได้ ในรอบนาปี 2556/2557 ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2556 เป็นต้นมา จึงถือว่าเป็นโครงการที่ขาดสภาพคล่องเร็วที่สุด

นพ.วรงค์กล่าวต่อว่า 3. โกงมากที่สุด เป็นวิธีโกงตั้งแต่ลงทะเบียนชาวนา โกงต้นน้ำ โกงกลางน้ำและโกงปลายน้ำเป็นการทุจริตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย กระจายไปทุกกลุ่มจากชาวนา เจ้าของโรงสี เซอร์เวเยอร์ เจ้าหน้าที่คลัง อคส. หรือ อ.ต.ก. เจ้าของคลังเอกชน ข้าราชการจังหวัด ข้าราชการระดับสูง และที่สำคัญคือขาใหญ่วงการข้าวและนักการเมือง 4. ทำลายส่งออกมากที่สุด ปกติข้าวไทยถือว่าดีที่สุดในโลก สถิติการส่งออกของข้าวไทยถือว่ามากที่สุด เป็นแชมป์โลกมาตลอด แต่เพราะจำนำข้าวทำให้การส่งออกตกจากอันดับที่ 1 มาเป็นที่ 3 รองจากอินเดีย และเวียดนาม จากที่ไทยเคยส่งออกสูงถึง 10.6 ล้านตัน หลังจากทำจำนำข้าว ยอดส่งออกตกลงเหลือ 6.9 ล้านตัน คิดเป็นเงินบาทลดลงจาก 192,000 ล้านบาท เหลือ 145,000 ล้านบาท ลดทั้งเม็ดเงินและปริมาณข้าว จึงเป็นการทำลายตลาดและโอกาสการส่งออกข้าวไทยมากที่สุด

5. มีชาวนาตายมากที่สุด ในอดีตแทบจะไม่เคยพบชาวนาฆ่าตัวตายเพราะนโยบายรัฐ เพราะจำนำข้าวที่ปล่อยให้ทุจริต ตั้งราคาไว้สูง ข้าวเสื่อมสภาพ ขายข้าวไม่ได้ เมื่อขาดสภาพคล่อง พี่น้องชาวนาต้องลำบาก เงินขาดมือ ถูกทวงหนี้สิน เครียดและสุดท้ายฆ่าตัวตายรวมถึง 16 รายมากที่สุดในประวัติศาสตร์

นพ.วรงค์กล่าวต่อว่า 6. ใช้โกดังเก็บมากที่สุด เพราะอ้างจำนำทุกเม็ด ข้าวขายไม่ได้ ที่เหลือจึงต้องเก็บไว้ พบว่ารัฐต้องใช้โกดังเก็บข้าวสารสูงถึง 1,800 โกดัง และไซโลระบบปรับอากาศอีก 137 ไซโล มากที่สุดในการใช้โกดังเก็บข้าว (18 ล้านตัน) ตั้งแต่มีประเทศไทยมา 7. ค่าใช้จ่ายจัดเก็บข้าวมากที่สุด ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บข้าวที่เป็นกระสอบจะมีค่าขนลง ค่าตรวจคุณภาพ ค่าเก็บ ค่ารมยา ค่าประกันภัยน้ำท่วม คิดว่าเฉลี่ยตกประมาณ 100 บาทต่อตันข้าวสารต่อเดือน กรณีเก็บด้วยไซโลค่าใช้จ่ายตก 1,092 บาทต่อตันต่อปี เฉลี่ยตันละ 90 บาทต่อเดือน คิดง่ายๆ ก็ตก 100 บาทต่อตันต่อเดือน ข้าว 18 ล้านตัน ตกค่าจัดเก็บประมาณเดือนละ 1,800 ล้านบาท ปีหนึ่งนับหมื่นล้านบาท ถือว่ามากที่สุดที่เคยจ่าย 8. ใช้รัฐมนตรีดูแลมากที่สุด นอกจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ในฐานะนายกฯ และประธาน กขช. ในช่วงแรกมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง, นายภูมิ สาระผล มาเปลี่ยนเป็นนายบุญทรง เตริยาภิรมย์, นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล, นายยรรยง พวงราช รวมทั้งนายวราเทพ รัตนากร และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ถือว่าเป็นนโยบายที่ใช้รัฐมนตรีดูแลมากที่สุดถึง 9 คนเท่าที่เคยมีมา แต่การป้องกันทุจริตกลับไม่ได้รับการแก้ไข

นพ.วรงค์กล่าวอีกว่า 9. ชาวนาต่างชาติได้ประโยชน์มากที่สุด ถือว่าเป็นครั้งแรกที่นโยบายจำนำข้าวไทย “กางร่ม” ให้ชาวนาต่างชาติ เพราะข้าวไทยตั้งราคาสูง ทางจิตวิทยาข้าวต่างชาติก็ราคาสูงตามแต่ห่างจากราคาข้าวไทยสูงถึง 150 เหรียญ ทำให้ข้าวไทยขายไม่ได้เพราะราคาสูง ข้าวต่างชาติกลับขายดีโดยเฉพาะอินเดีย เวียดนาม แม้แต่กัมพูชา พม่าและลาว จึงถือว่านโยบายจำนำข้าวทำให้ชาวนาต่างชาติได้ประโยชน์มากที่สุด 10. มีข้าวต่างชาติส่งมาไทยมากที่สุด อดีตที่ผ่านมาไทยเราไม่จำเป็นต้องนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ แต่เพราะรับจำนำสูงกว่าตลาดถึง 50% จึงเกิดแรงจูงใจที่ข้าวต่างชาติถูกนำเข้ามาสวมสิทธิ์ในประเทศไทย ที่เห็นทั้งจากพม่า ลาว เขมร และเวียตนามผ่านมาทางเขมร จะเห็นว่าตัวเลขรายงานการส่งออกข้าวของเขมร พบว่าส่งออกข้าวมาประเทศไทยสูงเป็นอันดับที่ 4 ของการส่งออก รวมทั้งมีการรายงานของสื่อต่างประเทศว่าข้าวเวียดนาม ข้าวพม่าและลาวที่มีการลักลอบส่งเข้ามาสวมสิทธิ์เข้าโครงการรับจำนำในประเทศไทย ถือว่าโครงการจำนำข้าวกลายเป็นแหล่งรวมข้าวของต่างชาติมากที่สุดที่เคยมี

อดีต ส.ส.พิษณุโลกกล่าวต่อว่า 11. เกิดหายนะต่อชาติมากที่สุด นับเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวงของโครงการรับจำนำข้าว ที่มีตัวเลขความเสียหายไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาท ยังไม่นับรวมค่าดอกเบี้ยเงินกู้ ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์กู้มาลงทุน 500,000 ล้านบาท และเงินที่เป็นค่าใช้จ่ายจากงบประมาณประจำปี ค่าเสียโอกาสจากการส่งออกและเงินตราต่างประเทศที่ควรได้รับ ความเชื่อถือต่อภาพลักษณ์ข้าวไทยและการพัฒนาสายพันธุ์ที่เกษตกรไม่สนใจ จึงถือว่าเป็นหายนะต่อชาติมากที่สุดที่เกิดจากการจำนำ 12. วิธีโกงซับซ้อนที่สุด นอกจากโกงมากทั้งต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ วิธีการโกงยังสลับซับซ้อน ใช้ตัวละครมาตบตาจำนวนมาก เช่นนายปาล์ม นายโจ หรือแม้แต่ใช้ตัวละครจากต่างประเทศ เช่น GSSG รวมทั้งการโกงข้าวถุงก็ใช้บางบริษัทมาตบตาเพื่อให้เกิดความซับซ้อน หรือแม้แต่มีการนำนั่งร้านมาซุกในกองข้าว จึงถือว่าเป็นวิธีซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยพบ

13. เกิดข้าวหายมากที่สุด ปกติแล้วข้าวสารที่เก็บไว้ในโกดังกลาง จะมีการล็อคกุญแจ 3 ดอก โดยเซอร์เวเยอร์ หัวหน้าคลังและตัวแทนจังหวัด ดังนั้นข้าวสารจึงควรที่จะครบ พบว่ารายงานของประธานอนุกรรมการปิดบัญชีจำนำข้าว ได้รายงานการตรวจสอบและปิดบัญชีพบว่า ผลการปิดบัญชีเดือนมกราคม 2556 มีรายงานข้าวหาย 2.5 ล้านตัน เมื่อถึงเดือนพฤษภาคม 2556 ตัวเลขรายงานข้าวหายสูงขึ้นถึง 2.98 ล้านตัน แทนที่รัฐบาลจะต้องรีบแก้ไขดำเนินการ กลับตั้ง พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมาตรวจ แต่แล้วก็ไม่ได้รายงานให้ประชาชนทราบและเรื่องก็เงียบไปนาน ในความจริงแล้วกรรมการที่มีอำนาจและได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากประธาน กขช.ก็คือประธานอนุกรรมการปิดบัญชี ต้องถือว่าข้อมูลของอนุปิดบัญชีต้องเป็นข้อมูลทางการที่น่าเชื่อถือที่สุด แต่รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์กลับไม่พอใจผลดังกล่าว ดังนั้นจึงถือว่าผลการตรวจแสดงให้เห็นว่า มีตัวเลขข้าวหายมากที่สุด

นพ.วรงค์กล่าวต่อว่า 14. เกิดเหตุข้าวเน่าและเสื่อมสภาพมากที่สุด ได้รับการพิสูจน์รายวันที่คณะผู้ตรวจร่วมกับทหารตรวจโกดังและไซโลทั่วประเทศ แทบจะพบเห็นข้าวเน่า เหลือง ป่นเป็นแป้ง ข้าวจับเป็นก้อน กระจายไปทุกภาคของประเทศ จนคนในวงการข้าวบางท่านประเมินว่าข้าวดีกับข้าวต่ำมาตรฐานอาจสูงถึงสัดส่วน 50% ถ้าหากมีการตรวจอย่างละเอียด 15. มีการปกปิดมากที่สุด ไม่เคยมีนโยบายใดที่รัฐบาลปกปิดข้อมูลทุกอย่างมากเท่าครั้งนี้ ปกปิดตัวเลขข้าวในโกดัง การระบายข้าว ราคาที่ระบาย ปกปิดแม้แต่รายงานตัวเลขการส่งออกข้าว ปกติกรมการค้าต่างประเทศจะรายงานตัวเลขส่งออกข้าว แต่สุดท้ายถูกปกปิดหมด และ 16. ตอบคำถามไม่ได้มากที่สุด ปกติแล้วรัฐบาลจะต้องตอบคำถามฝ่ายค้านและฝ่ายตรวจสอบในประเด็นต่างๆ ในสภาหรือนอกสภา นโยบายนี้เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลไม่สามารถตอบคำถามใดๆของฝ่ายตรวจสอบได้เลย ทั้งการอภิปรายหรือกระทู้ แม้แต่การชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ก็ไม่สามารถชี้แจงได้ มีแต่วาทกรรมกล่าวหาว่าเร่งรีบ รวบรัด ไม่ได้รับความเป็นธรรม


กำลังโหลดความคิดเห็น