“วีระ” เปิดใจไม่รู้ล่วงหน้าจะได้รับอภัยโทษ ลั่นพร้อมดูผลประโยชน์ประเทศเหมือนเดิม

“ปลัดบัวแก้ว” เผยกัมพูชาพระราชทานอภัยโทษ “วีระ” เนื่องในโอกาสบรรจุพระบรมอัฐิสมเด็จนโรดมสีหนุ ขณะที่ “วีระ” ดีใจได้กลับบ้าน รับไม่ทราบมาก่อนจะถูกปล่อยตัว ยันจะดูแลผลประโยชน์ประเทศชาติเหมือนเดิม ขณะที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัวทันทีหลังเหยียบแผ่นดินไทยในคดีปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนขอประกันตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.20 น.วันนี้ (2 ก.ค.) นายวีระ สมความคิด แกนนำกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ ได้เข้าขอบคุณนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่ รมว.ต่างประเทศ ก่อนจะเดินทางออกจากกรุงพนมเปญ โดยนายวีระกล่าวว่า ขอบคุณปลัดกระทรวงการต่างประเทศ

ทั้งนี้ นายสีหศักดิ์กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฝากให้ดูแล ซึ่งในการหารือกับสมเด็จฯ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 1 ก.ค.บอกว่าเนื่องจากในโอกาสบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จนโรดมสีหนุ ที่จะมีขึ้นในช่วงวันเข้าพรรษา วันที่ 11-12 ก.ค.นี้ จึงให้พระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวนายวีระ

จากนั้นนายวีระตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงเรื่องสุขภาพว่า รู้สึกดีใจมาก สุขภาพในช่วงหลังนี้ดีขึ้น ตนพยายามรักษาสุขภาพให้ดี เพราะตั้งใจไว้จะเอาชีวิตกลับประเทศไทยให้ได้ เมื่อถามว่าเมื่อกลับประเทศไทยจะทำอะไรก่อน นายวีระกล่าวว่า ยังไม่มั่นใจ เนื่องจากในช่วงก่อนหน้านี้มีคดีความตอนเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอยู่มาก หากกลับถึงประเทศไทยถ้าถูกจับที่ ตม.คงไปศาลก่อน อย่างไรก็ตาม ขอความกรุณาศาลว่าอยากกลับไปนอนบ้าน

สำหรับชีวิตที่อยู่ในเรือนจำกัมพูชานั้น นายวีระกล่าวว่า ขึ้นชื่อว่าคุกก็ลำบาก ไม่มีที่ไหนสุขสบาย เมื่อถามอีกว่าทราบมาก่อนหรือไม่ว่าจะถูกปล่อยตัว นายวีระกล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค. เจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำตัวตนเข้าไปในห้องขังก่อนเวลา สักพักหนึ่งก็มีผู้คุมมาบอกว่าจะปล่อยตัว ตนก็ยังไม่เชื่อเลย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวออกจากห้องขังจริงถึงเชื่อว่าถูกปล่อยตัวจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีใครบอกก่อนหน้านี้หรือไม่ นายวีระกล่าวว่า ในวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ช่วยทูตทหารเข้าเยี่ยมและบอกกับตนว่า คสช.มีความพยายามหาทางช่วยเหลืออยู่ แต่ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านี้ว่าจะกลับเมื่อไร อย่างไร

ต่อข้อถามว่ามีเงื่อนไขในการปล่อยตัวด้วยหรือไม่ นายสีหศักดิ์กล่าวแทนนายวีระว่า ไม่มีเงื่อนไขใดๆ จากนั้นนายวีระกล่าวเสริมอีกว่า “ผมให้อภัยคนที่ให้ร้ายผม ผมจะปล่อยไป เรายังมีหน้าที่อีกเยอะ”

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้จะทำอะไรต่อไป นายวีระกล่าวว่า ยืนยันจะดูแลผลประโยชน์ของประเทศเหมือนเดิมอย่างที่เคยทำ โดยเฉพาะการต่อต้านคอร์รัปชัน เมื่อถามว่าไม่รู้สึกขยาดหรือไม่ต่อเหตุการณ์ที่ผ่านมา นายวีระกล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกขยาดหรืออะไร และยังภูมิใจ ยังจะทำงานตรงนี้ต่อไปจนกว่าบ้านเมืองจะดีขึ้น และจนกว่าจะมีคนมาทำหน้าที่นี้ ตนจึงจะได้พักผ่อนเสียที

ผู้สื่อข่าวถามว่าระหว่างอยู่เรือนจำทำอะไรบ้าง นายวีระกล่าวว่า ตนพยายามทำหน้าที่ที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ ไม่เคยคิดว่าอยู่ในประเทศที่ทำร้ายตน ถือว่าทุกคนเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน รับชะตากรรมเดียวกัน จะเป็นนักโทษทุกคนทุกภาษา หากใครขอความช่วยเหลือเรื่องยาหรือคำปรึกษาก็มาหาตน เพราะห้องตนมียาคุณภาพดีกว่ายาโรงพยาบาลในเรือนจำซึ่งทุกคนก็ชอบกันมาก

จากนั้นเมื่อเวลา 11.25 น. นายวีระเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ และเข้าพักที่ ห้องรับรองวีไอพี โดย พ.ต.ต.พจน์ เศรษฐกร สว.ตม 2 สุวรรณภูมิ แจ้งข้อหาให้นายวีระ เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2551 เวลา 12.00 กรณีเข้าบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ และข้อหาก่อการร้าย โดยแจ้งข้อหาว่าทำผิดฐานโฆษณาต่อบุคคลทั่วไปให้กระทำความผิด อันมิใช่เป็นการกระทำตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ใช้อำนาจขืนใจเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย ร่วมกันมั่วสุมและประทุษร้ายแก่บุคคลทั่วไป เมื่อสั่งให้เลิกก็ไม่เลิก และเข้าครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เข้าซ่อนตัวในอาคารโดยไม่มีสิทธิ เข้ายึดอุปกรณ์การบิน ขัดขืนคำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบเรียบร้อยแก้ไขในสถานการณ์ฉุกเฉิน ปิดทางสาธารณะ และข้อหาก่อการร้าย

หลังจากรับทราบข้อกล่าวหา นายวีระไม่ได้เซ็นลงนามในเอกสาร โดยขอไปให้การในชั้นศาล พร้อมกับนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นผู้ลงนามรับทราบ และขอไปพบกลุ่มผู้สนับสนุนที่มารออยู่นอกห้องรับรองเป็นจำนวนมาก ก่อนจะเดินทางไปยังกองปราบปรามเพื่อยื่นขอประกันตัวในคดีดังกล่าวต่อไป

สำหรับบรรยากาศที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นไปอย่างคึกคัก มีบรรดาสื่อมวลชนและประชาชนจำนวนหนึ่งมารอให้กำลังใจนายวีระ นอกจากนี้ยังมี ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสานงานกองทัพธรรม นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และนายตายแน่ มุ่งมาจน ที่เคยถูกจับพร้อมกับนายวีระมารอต้อนรับด้วย ขณะที่บริเวณห้องรับรองพิเศษ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ได้มีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานไทยได้เดินทางมาจัดเตรียมสถานที่รับรองการเดินทางกลับประเทศไทยของนายวีระ

จากนั้น เวลา 11.40 น. นายวีระ สมความคิด พร้อมด้วย นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษาเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ลงลิฟต์มาถึงห้องรับรอง นายวีระซึ่งมีสีหน้ายิ้มแย้มได้ยกมือสวัสดีทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับ โดยมวลชนต่างโห่ร้องด้วยความดีใจ พร้อมตะโกนว่าวีระสู้ๆ ก่อนจะฝ่าฝูงชนขึ้นรถไปกับนายนิติธรในฐานะทนายความส่วนตัว เพื่อพาไปกองบังคับการกองปราบปราม ยื่นประกันตัวในคดีก่อการร้ายจากเหตุการณ์ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ สมัยการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ