“ไพศาล พืชมงคล” เชื่อ “ประยุทธ์” นั่งนายกฯสางปัญหาบ้านเมือง - ป้องสถาบัน มีลุ้นทำดีอยู่ยาว 9 ปี ฝากเตรียมพร้อมนโยบายอย่าให้เลอะเทอะเหมือนนักการเมือง ก่อนเดินสายทำความเข้าใจกลุ่มอาเซียน ต่อประชุมเอเปกที่ปักกิ่ง พร้อมแนะทางออกตั้งรัฐบาล และมี สนช. ได้ภายใน ก.ค. นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่ 28 มิ.ย. เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Paisal Puechmongkol ถึงสถานการณ์บ้านเมือง ว่า ตนยังมั่นใจบ้านเมืองเราจะดีขึ้น อย่างน้อยก็ดีกว่าก่อนยึดอำนาจแน่ และก็มั่นใจว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างน้อย 2 ปี หากทำกรรมดีก็ไปได้ถึง 9 ปี และคนๆ นี้แหละที่จะต้องแบกรับภารกิจอันสำคัญยิ่งของบ้านเมืองในห้วงเวลานี้ จะมีผลอย่างสำคัญต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์จักรีด้วย ซึ่งความข้อนี้ผมเคยบอกพลโท ประยุทธ์ ในตอนที่เป็น สนช. ด้วยกันถึง 2 ครั้ง หวังว่ายังคงจำรายละเอียดได้
“ใครเป็นฝ่ายเสธ ก็ต้องหนักเหนื่อยหน่อย บอกลูกบอกเมียไว้ได้เลยแต่จงภูมิใจเถิดว่าเกิดมาชาติหนึ่งไม่มีโอกาสไหนจักได้สนองคุณแผ่นดินเสมอด้วยครั้งนี้แล้ว”
ทั้งนี้ นายไพศาล ได้ฝากการบ้านล่วงหน้าถึง พล.อ.ประยุทธ ดังนี้
1. การตระเตรียมนโยบายที่ชัดเจนเข้าใจง่าย มีหลัก มีธรรม ชอบด้วยโลกนิติ ธรรมนิติ และราชนิติ ไม่เลอะเทอะเหมือนการแถลงนโยบายของนักการเมือง
2. แผนการเดินทางเยือนต่างประเทศ ซึ่งตนเสนอให้เยือนกลุ่มอาเซียนก่อนแล้วไปจีน จากนั้นอินเดียครับ และต้องเตรียมล่วงหน้าเป็นเดือนสองเดือน ไม่งั้นจะเดี้ยงเอาง่ายๆ
3. การเตรียมการประชุมเอเปกที่กรุงปักกิ่งเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะเป็นเวทีนานาชาติขนาดใหญ่สุดนอกจากการประชุมสหประชาชาติซึ่งผมเชื่อว่าจีนจะส่งคำเชิญหลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้านายกแล้ว
นอกจากนี้ นายไพศาล ยังได้โพสต์ข้อความอีกว่าหลังจากพลเอกประยุทธ์แถลงกรอบเวลาแล้ว ข่าวหลายกระแสเห็นตรงกันว่า
1. คสช. จะยังคงความเป็นรัฏฐาธิปัตย์ต่อไปหลังจากประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้ว แต่จะอยู่ในรูปของมาตรา 17 แบบสมัยจอมพลสฤษดิ์ หรือมาตรา 21 สมัยท่านอาจารย์ธานินทร์ หรือว่าจะเขียนไว้ในบทเฉพาะกาลต้องติดตามต่อไป ซึ่งจะแก้ปัญหาที่เคยเคยหลังใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2549 (เห็นไหมว่านักร่างรัฐธรรมนูญก็ยังพลาดได้และทำให้เสื้อแดงเติบโตขึ้น)
2. พลเอก ประยุทธ์ จะดำรงตำแหน่งหัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะแก้ไขปัญหาที่เคยเกิดเมื่อ 2549 ที่พลเอก สุรยุทธ์ ลูกพี่บิ๊กบังเป็นนายกฯ บิ๊กบังเป็นหัวหน้า คมช. ไม่มีอำนาจอะไร (นี่ก็คือการพลาดของนักร่างรัฐธรรมนูญจนทำให้การยึดอำนาจเสียของและสองท่านนั้นก็มองหน้ากันไม่ติด)
3. ยังไม่แน่ชัดคือจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมตามแบบที่เคยมีมาแต่อดีต หรือจะหมกเม็ดแบบรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2549 ที่ไม่ออกกฎหมายนิรโทษกรรม แต่ไปเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญปี 49 ว่าที่ยึดอำนาจไม่เป็นความผิด ทำให้เกิดปัญหาทางกฎหมายว่าเมื่อรัฐธรรมนูญถูกยกเลิกความผิดกฎจะยังคงอยู่ จึงต้องมาเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ 2550 ต่อมาอีก และพอจะแก้รัฐธรรมนูญแต่ละทีก็ผวากันทั้งกองทัพ จะเอาแบบเดิมอีกไหมจ๊ะ
นี่สอดคล้องกับชะตาเมืองตามที่ตนเคยบอกไว้ตั้งแต่แต้ต้นว่านายกคือผู้มีชื่อ P แต่ไม่ใช่ไพศาล วันนี้ก็น่าจะชัดแล้วว่าชื่อประยุทธ์ ฟ้าดินสอดคล้องเป็นหนึ่งเดียวแล้ว
เดือนกรกฎาคม จะประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้ว ตนยังหาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมต้องรอมีรัฐบาล และ สนช. ไปถึงเดือนกันยายน หรือว่าจะห่วงว่าพลเอก ประยุทธ์ ยังเป็นข้าราชการประจำจะเป็นอุปสรรคกระนั้นหรือ
ถ้าห่วงตรงนี้ก็เลิกห่วงเถิดครับ ง่ายๆ แค่ไม่เขียนบังคับไว้ในรัฐธรรมนูญว่านายกฯ หรือรัฐมนตรีจะเป็นข้าราชการประจำไม่ได้ แค่นั้นก็เรียบร้อย ถ้าเป็นอย่างนี้ก็สามารถมีนายกฯ มีรัฐบาลแบบสากลเข้าบริหารบ้านเมืองได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้ และสามารถมี สนช. ได้ตั้งแต่เดือนกรกฎานี้ด้วย จะดีเสียอีกที่ได้รัฐบาลแบบสากลมาทำงานก่อนตั้งสองเดือน