“วิชา” เผย คำสั่ง คสช.ลดอำนาจ ป.ป.จ. ให้เหลือแต่งานป้องกัน เป็นไปตามข้อเสนอของ ป.ป.ช. เหตุหลายจังหวัดถูกฝ่ายการเมืองแทรกแซง ได้คนมีอิทธิพล พวกตัดไม้ทำลายป่า ค้าอาวุธ ค้ายาเสพติด มาเป็น ป.ป.จ. ขณะเดียวกันยังเสนอให้แก้กฎหมายดำเนินการเอาผิดเอกชนเอี่ยวคอร์รัปชั่น พร้อมแก้ไขอายุความของคดี การติดตามตัวพวกที่หนีออกนอกประเทศด้วย
นายวิชา มหาคุณ กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งฉบับที่ 72/2557 เรื่องการดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ในส่วนของการสรรหาคณะกรรมการป้องกันและปราบการการทุจริตประจำจังหวัด (ป.ป.จ.) และอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.จ.ว่า การแก้กฎหมายดังกล่าวจะเป็นผลดีต่อ ป.ป.ช.เรื่องการลดแรงกดดัน เรื่องการสรรหา ป.ป.จ.ที่นักการเมืองต้องการส่งคนเข้ามานั่งอยู่ใน ป.ป.จ. เพราะต้องการรู้ว่า ป.ป.ช.กำลังแสวงหาข้อเท็จจริงเรื่องใด เรื่องบัญชีทรัพย์สินของนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่ยื่นมาเป็นอย่างไร เป็นพวกที่ต้องการรู้ข้อมูลเหล่านี้แล้วนำไปแบล็กเมล์ ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะลดลงในทันที เพราะ คสช. มีคำสั่งให้ ป.ป.จ.ทำหน้าที่เพียงการสร้างจิตสำนึก สร้างเครือข่ายด้านการป้องกันการทุจริตเพียงอย่างเดียว ซึ่งพอเหลือแต่งานด้านการป้องกัน ก็จะไม่มีใครอยากเข้ามาเป็นคณะกรรมการ ป.ป.จ. เพราะไม่ได้ประโยชน์ ดังนั้นคนที่จะเข้ามาทำงานในส่วนนี้ก็จะต้องเป็นคนที่อาสาอย่างแท้จริง
“ป.ป.ช.ได้นำข้อกฎหมายนี้หารือ คสช. เพื่อขอแก้ไขเนื่องจากเกิดปัญหาเรื่องการสรรหาคณะกรรมการ ป.ป.จ.ในจังหวัดที่ดำเนินการอยู่ ทั้งที่คุณสมบัติข้อหนึ่งคือจะต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต ให้เป็นที่ประจักษ์ แต่ถ้าปรากฏว่าเป็นพวกตัดไม้ทำลายป่า เป็นพวกอยู่เบื้องหลังค้าอาวุธ ค้ายาเสพติด ซึ่งเราได้รับทราบข่าวข้อมูลดังกล่าวจากฝ่ายทหาร เพราะเขาเป็นคนส่งข้อมูลนี้มาให้ ป.ป.ช.ว่าบุคคลนี้ ร่วมขบวนการตัดไม้พะยูงแล้วจะเอามานั่งเป็น ป.ป.จ.อย่างนั้นหรือ นี่คือสิ่งที่ ป.ป.ช.ได้ข้อมูลมา ซึ่งคนให้ข้อมูลก็ถามว่าแล้ว ป.ป.ช.จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้หรือ อีกตั้ง 48 จังหวัด จึงร่วมกันหาทางแก้ไข เพื่อให้มีการสรรหาขึ้นใหม่ แน่นอนว่าปัญหาได้เกิดขึ้นแล้ว ป.ป.ช.ถึงได้ให้มีการแก้ไข เพราะบางจังหวัดไม่สามารถเลือกใหม่ได้ เช่นที่ จ.นครพนมต้องเลือกใหม่ทั้งหมด กระทั่ง ป.ป.ช.ถูกฟ้องก็หลายคดี ”
นายวิชา กล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวจะทำให้การแต่งตั้ง ป.ป.จ.ต้องเปลี่ยนไป เพราะแต่เดิมอาจจะเกิดการฮั้วกัน หรือมีฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซง ซึ่งทาง คสช. คงเห็นว่าการแต่งตั้งในรูปแบบเดิม อาจถูกแทรกแซงได้ โดยการฮั้วหรือโดยฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซงจึงให้มีคณะกรรมการสรรหาชุดใหม่ ดังนั้นการสรรหาที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จใน 48 จังหวัดจะต้องเริ่มต้นใหม่โดยยึดคำสั่ง คสช.ดังกล่าว และหลังจากนี้ภารกิจของ ป.ป.จ.ก็จะเป็นการเน้นด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สร้างเสริมทัศนคติ ปลูกฝังค่านิยมเกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริต สร้างเครือข่ายทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเท่านั้น ส่วนงานด้านการปราบปรามถูกยกเลิกไป ทั้งนี้ ป.ป.ช.จะประชุมในสัปดาห์หน้าเพื่อออกระเบียบให้สอดรับแนวทางคำสั่งของ คสช.ดังกล่าว
นายวิชา กล่าวด้วยว่า ป.ป.ช.ได้เสนอต่อ คสช.ขอแก้กฎหมายให้อำนาจไต่สวนและเอาผิดกับนิติบุคคล บริษัทเอกชน เท่าเทียมกับนักการเมือง ข้าราชการ เพราะในการทุจริต ย่อมประกอบด้วย 3 ฝ่ายดังกล่าว ซึ่งส่วนที่ยังขาดคือการตรวจสอบภาคเอกชน เพราะมักจะพบว่าเอกชนมีการไหลเวียนด้านการเงินผิดปกติ แต่ปัจจุบัน ป.ป.ช.ยังไม่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบได้จนกว่าจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นหากมีการแก้ไขกฎหมาย ป.ป.ช.จะได้เข้าไปตรวจสอบได้ ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก และภาคเอกชนเองจะได้เฝ้าระวังเรื่องการให้สินบน ให้ผลประโยชน์ หรือถ้ามีใครมาเรียกสินบน เขาก็จะได้พูดได้ว่า ป.ป.ช.กำลังจับตาดูอยู่ การทุจริตก็จะหยุดยั้งไป อย่างไรก็ตามต้องรอให้มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติก่อน เราถึงจะเสนอแก้ไขกฎหมายดังกล่าวในเรื่องนี้ 2-3 มาตรา
นอกจากนี้ ป.ป.ช.จะได้เสนอให้แก้ไขกฎหมายเรื่องการปฏิบัติให้สอดคล้องกับพันธกรณีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 ที่ค้างมาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว ก็จะแก้ปัญหาเรื่องอายุความ เรื่องการติดตามตัวในระหว่างที่ผู้ต้องหาหนีคดี และจะมีผลต่อเรื่องการริบทรัพย์สิน เพื่อให้มีการติดตามเอาทรัพย์สินคืนได้ตามมูลค่าและราคาของทรัพย์สินนั้น จะได้ติดตามได้เสมอไม่ว่าจะอยู่ในที่ใด รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐที่หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ จะได้สามารถติดตามเอาตัวมาดำเนินคดีได้