หัวหน้า คสช. สั่งย้ายข้าราชการครั้งใหญ่ พร้อมเปิดตำแหน่งใหม่รองรับเฉพาะราย อาทิ “นิพัทธ์ ทองเล็ก” พ้นปลัด กห. ไปนั่งประธานที่ปรึกษา กห. “อรรถพล - ธาริต - ธงทอง - ทวี” ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกฯ
วันนี้ (27 มิ.ย.) เมื่อเวลา 22.00 น. มีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 77/2557 เรื่อง การกำหนดตำแหน่งเพิ่มและการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง
ระบุว่า เพื่อให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมยิ่งขึ้น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคำสั่ง ดังนี้
ข้อ 1 ให้กำหนดตำแหน่งข้าราชการเพิ่มขึ้นในส่วนราชการ ดังนี้
(1) ตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม (อัตราจอมพล) ในกระทรวงกลาโหม จำนวนหนึ่งตำแหน่ง โดยให้เป็นตำแหน่งข้าราชการทหาร ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการทหาร พ.ศ. 2521
(2) ตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นตำแหน่งข้าราชการอัยการขั้น 8 เทียบเท่าอัยการสูงสุด จำนวนหนึ่งตำแหน่ง โดยให้เป็นตำแหน่งข้าราชการอัยการตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553
(3) กำหนดตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวนห้าตำแหน่ง โดยให้เป็นตำแหน่งข้าราชการพลเรือนตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
ข้อ 2 ให้ พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก พ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม และให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม ตามข้อ 1 (1) เป็นพิเศษเฉพาะราย
ข้อ 3 ให้ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง พ้นจากตำแหน่งอัยการสูงสุด และให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นพิเศษเฉพาะราย
ข้อ 4 ให้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นพิเศษเฉพาะราย
ข้อ 5 ให้นายธงทอง จันทรางศุ พ้นจากตำแหน่ง ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นพิเศษเฉพาะราย
ข้อ 6 ให้ นายสุรชัย ศรีสารคาม พ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นพิเศษเฉพาะราย
ข้อ 7 ให้พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นพิเศษเฉพาะราย
ข้อ 8 ให้ นายสุวิจักขณ์ นาควัชระ พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และให้ดำรงตำแหน่งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่ง ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นพิเศษเฉพาะราย
ข้อ 9 ให้ พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ พ้นจากตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงกลาโหม และให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม
ข้อ 10 ให้นายตระกูล วินิจฉัยภาค พ้นจากตำแหน่ง รองอัยการสูงสุด และให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด
ข้อ 11 ให้ หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล พ้นจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และให้ดำรงตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ข้อ 12 ให้ นางเมธินี เทพมณี พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ข้อ 13 ให้ นายภาณุ อุทัยรัตน์ พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้
ข้อ 14 ให้ นายจเร พันธุ์เปรื่อง พ้นจากตำแหน่งรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ข้อ 15 ให้ พลตำรวจเอก ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ พ้นจากตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และให้ดำรงตำแหน่งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่ง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ข้อ 16 ให้ข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งข้างต้น ปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งตั้งแต่วันที่มีคำสั่งนี้เป็นต้นไป
ข้อ 17 ให้กระทรวงกลาโหม สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงบประมาณ สำนักเลขาธิการผู้แทนราษฎร สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการเกี่ยวกับตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการดังกล่าวให้เรียบร้อยโดยด่วน โดยจัดให้ดำรงตำแหน่งที่ไม่ต่ำกว่าตำแหน่งที่ข้าราชการผู้นั้นดำรงตำแหน่งอยู่เดิม
ข้อ 18 เมื่อมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งตามคำสั่งนี้เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
ข้อ 19 เมื่อไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งตามข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 ข้อ 6 ข้อ 7 และข้อ 8 แล้ว ให้ตำแหน่งดังกล่าวเป็นอันยกเลิก
หลังจากนั้นได้มี คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติรักที่ 78/2557 เรื่อง การกำหนดตำแหน่งเพิ่มและการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง
ระบุว่า เพื่อให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการต่าง ๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมยิ่งขึ้น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคำสั่ง ดังนี้
ข้อ 1 ให้กำหนดตำแหน่งข้าราชการเพิ่มขึ้นในส่วนราชการ ดังนี้
(1) ตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวนหนึ่งตำแหน่ง
(2) ตำแหน่งที่ปรึกษา ในสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรมจำนวนหนึ่งตำแหน่ง
(3) ตำแหน่งผู้ตรวจราชการ ในสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง จำนวนหนึ่งตำแหน่ง
ข้อ 2 ให้ นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ พ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์ และให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตมข้อ 1 (1) เป็นพิเศษเฉพาะราย
ข้อ 3 ให้ นางสาวชุติมา บุณยประภัศร พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์
ข้อ 4 ให้ พันตำรวจเอก ประเวศน์ มูลประมุข พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม ตามข้อ 1 (2) เป็นพิเศษเฉพาะราย
ข้อ 5 ให้ นายประยงค์ ปรียาจิตต์ พ้นจากตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และให้ตำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
ข้อ 6 ให้ นายราฆพ ศรีศุภอรรถ พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร และให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ตามข้อ 1(3) เป็นพิเศษเฉพาะราย
ข้อ 7 ให้ นายสมชัย สัจจพงษ์ พ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร
ข้อ 8 ให้ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
ข้อ 9 ให้ข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งข้างต้น ปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งตั้งแต่วันที่มีคำสั่งนี้เป็นต้นไป
ข้อ 10 ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงบประมาณ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการเกี่ยวกับตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการดังกล่าวให้เรียบร้อยโดยด่วน โดยจัดให้ดำรงตำแหน่งที่ไม่ต่ำกว่าตำแหน่งที่ข้าราชการผู้นั้นดำรงตำแหน่งอยู่เดิม
ข้อ 11 เมื่อมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งตามคำสั่งนี้เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
ข้อ 12 เมื่อไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งตามข้อ 2 ข้อ 4 และข้อ 6 แล้ว ให้ตำแหน่งดังกล่าวเป็นอันยกเลิก
และต่อมาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีคำสั่งฉบับที่ 79/2557 เรื่อง การกำหนดตำแหน่งเพิ่มและการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง ดังนี้
1. นายปรีชา กันธิยะ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
2. นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกรทรวงพลังงาน ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี
3. นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
4. นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
5. นายอภินันท์ โปษยานนท์ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
6. นายอารีพงษ์ ภู่ชอุ่ม พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานพัฒนาระบบข้าราชการ (กพร.) ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพลังงาน
7. นายกำจร ตติยะกวี รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
8. นายกมล รอดคล้าย จากรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน