xs
xsm
sm
md
lg

สัญญาณเตือนบึ้ม “ศุกร์13” ลูบคมคสช. เชื้อชั่วยังไม่ตาย

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว

ปลดล็อกการจำกัดเสรีภาพด้วยการยกเลิกประกาศเคอร์ฟิวทุกพื้นที่ทั่วประเทศ บรรยากาศที่ดูเขม็งเกลียวก่อนหน้านี้ ผ่อนคลายลงมาเยอะ

หนำซ้ำยังเป็นเหมือนการต่อเติมความสุขให้กับบรรดาคอลูกหนังชาวไทยได้ดื่มด่ำกันดึกดื่นตามแบบวิถีชีวิตปกติทั่วไป ในช่วงมหกรรมฟุตบอลโลกของมวลมนุษยชาติที่กำลังบรรเลงเพลงเตะกันอยู่ในโซนอเมริกาใต้ขณะนี้ โดยรวมสถานการณ์คนไทยส่วนใหญ่พยักหน้าเห็นด้วยอย่างแรง

ไม่มีกรอบ ไม่มีลิมิต แค่ห้ามชุมนุมทางการเมืองภายใต้กฎอัยการศึก ถือว่าไม่ได้ล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพกันจนเกินงาม ชนิดขยับตัวอะไรไม่ได้เลยมาร่วมเกือบครึ่งเดือน คสช.ได้รับเสียงปรบมือมากกว่าเสียงก่นด่า

เปลือกนอกสภาวะแวดล้อมดูเหมือนจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แต่กะเทาะเห็นเนื้อในเข้าไปดูลึกๆ ยังคงมีหัวเชื้อแห่งความขัดแย้งฝังตัวรอวันงอกเงยออกมาอาละวาด ไม่ได้เงียบหายไปตามด้ามปลายกระบอกปืนของทหาร

โดยเฉพาะเหตุระเบิดลูบคม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อค่ำคืนศุกร์ 13 มิถุนายน บริเวณสวนหย่อมทางเบี่ยงเพื่อเลี้ยวซ้ายเพื่อไปถนนอโศก สี่แยกพระราม 9 หลังจากมีการยกเลิกเคอร์ฟิวเพียงไม่กี่ชั่วโมง

เป็นสัญญาณเตือน คสช. ให้เหลือบตาดูว่า สิ่งที่คิดว่าเอาอยู่ ทั้งบรรยากาศปรองดอง สมานฉันท์ การไม่มีกลุ่มก้อนการเมืองออกมาทำซ่าเปรี้ยวบาทาในช่วงนี้ อาจเป็นเพียงผักชีที่โรยอยู่เบื้องหน้าเท่านั้น แต่เบื้องหลังยังอินุงตุงนังกันอยู่
ที่สำคัญพร้อมจะออกมาขยับแข้งขยับขากันทุกเมื่อ หากปัจจัยที่คอยบล็อกผีสางเหล่านี้ถูกถอดออกไป นั่นคือ ทหารกลับกรมกอง ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง มีการบังคับใช้กฎหมายปกติ ไม่มีอะไรที่คนพวกนี้จะต้องหวาดระแวง เหมือนกับตอนนี้ ที่มีชนักปักหลังกันถ้วนทั่ว
เป็นการบ้านโจทย์ใหญ่ และท้าทายกึ๋นของ คสช. และ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะท่านผู้นำอย่างมากว่า จะปรับหมากแก้เกมกันอย่างไร เพราะการสร้างสถานการณ์ปาบึ้ม คืน “ศุกร์ 13” ในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ยังมีกฎอัยการศึก และทหารยืนเต็มทั่วบ้านทั่วเมืองอยู่

มองในนัยทางการเมือง ผู้ลงมืออุกอาจอย่างนี้ ต้องการส่งสัญญาณดังๆไปยัง คสช.โดยตรงว่า คนที่เห็นต่าง ตัวละครอื่นๆ ยังมีอีกเยอะ ไม่ใช่แค่บรรดาพวกหัวโจกที่ถูกเรียกไปรายงานตัวเท่านั้น กระแสคลื่นใต้น้ำยังคงเคลื่อนไหวเพื่อก่อเป็นคลื่นยักษ์ เมื่อองค์ประกอบพร้อม

เมื่อมีคลื่นความถี่ส่งตรงมาแบบเด่นชัดพอให้ตั้งตัวตั้งหลักได้ทัน คสช. จึงต้องเตรียมหาวิธีล้อมคอกกันไว้บ้าง โดยเฉพาะหากวันใดวันหนึ่งถึงคราวต้องยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งเป็นกฎหมายติดดาบที่สูงสุด และร้ายแรงอยู่ในขณะนี้ออกไป แรงกระเพื่อมมันจะออกมามากขนาดไหน

อาวุธสงครามที่แน่นอนว่าไม่มีวันปราบหมด แม้ช่วงนี้จะมีคนฝ่อ เอาออกมาคืน แต่นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ถึงครึ่งของยุทธภัณฑ์ทั้งหมดที่มีอยู่ตามซอกตามมุมอื่นๆ ในประเทศ จะออกมาอาละวาดสาดใส่ประชาชนผู้บริสุทธิ์อีกครั้ง หรือไม่

เพราะขนาดแค่ยกเลิกเคอร์ฟิว บรรดาทรราชยังท้าทายจัดระเบิดให้ตามก้นกันมาติดๆ แล้ววันที่ไม่มีกฎหมายติดดาบค้ำคอโจรชั่วอยู่แล้ว ใครจะการันตีว่าคนเหล่านี้จะไม่ลงมืออีก และ คสช.จะเอาอยู่หรือไม่

อย่าลืมว่า การมีระเบิดตูมตามหลายจุดในช่วงที่ “บิ๊กตู่”และ “ท็อปบูต”ยังคงกุมอำนาจบริหารประเทศอยู่ ไม่ใช่ผลดีเอาเสียเลย เพราะนั่นเท่ากับว่า ภารกิจสร้างความปรองดองที่ คสช.กำลังขับเคลื่อนอยู่นั้นล้มเหลวอีกตามเคย รวมทั้งแสดงให้เห็นว่า ความสมานฉันท์ที่เกิดขึ้น

เป็นเพียงฉากปืนจี้ให้รักใคร่กลมเกลียวกัน เมื่อละเอาปืนออกมา ก็กลับมาแยกเขี้ยวใส่กันเหมือนเดิม

รัฐประหารเพื่อชาติ จะกลายเป็นแค่การเข้ามาห้ามเพื่อพักยกเท่านั้น ฉะนั้นจึงโปรดอย่ามองข้ามสัญญาณเตือนภัยจากค่ำคืน “ศุกร์ 13”เป็นอันขาด

เมื่อรับอาสามาทำแล้วต้องจัดให้สุดซอย วันนี้อำนาจบริหารแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอยู่ในมือ เห็นอะไรรกอยู่ใต้พรมแล้วต้องเก็บกวาดออกมา ไม่ใช่ไปยัดไปซุกให้มันหนักกว่าเก่า อย่าให้เสียของ ซ้ำรอยเหมือนศิษย์พี่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ของ “บิ๊กบัง”พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่ล้มครืนไม่เป็นท่า แถมยังสร้างปัญหาเรื้อรังมาจนบัดนี้

คสช. ต้องทำให้คนยอมรับเชื่อมั่นในฝีมือ ไม่มีข้อกังขา มาตรฐานเดียว เลิกเกรงใจใครต่อใครที่จะมาฉุดรั้งความเจริญของชาติ ปราบได้ต้องปราบ ไม่มีเลือกข้าง เลวว่าตามเลว ชั่วว่าตามชั่ว จะกลุ่มก๊กไหนผิดกติกาต้องไล่หวดให้หมดเพื่อให้หลาบจำ
อย่างเช่นกลุ่มที่ยังเคลื่อนไหวปั่นป่วน เขวี้ยงระเบิดอยู่ตอนนี้ ไม่เหนือบ่ากว่าแรงที่สายข่าวจะตามดมว่าเป็นฝีมือใคร ต้องลากคอมาเซ่นให้ได้

นาทีนี้ คสช. มีอำนาจแบบเด็ดขาด คนเกรงขาม โดยเฉพาะช่วงนี้ที่เรตติ้งกำลังพุ่งทะลุ ต้องทำอย่าให้คนนินทา หมาดูถูกว่า ไร้น้ำยา ไม่ใช่เฉพาะเรื่องป้องกันเหตุระเบิดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรื่องปัญหาอื่นๆ ที่ต้องสะสางด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนตามซอกหลืบต่างๆ ถึงเวลาต้องเคลียร์เหมือนกัน

ต้องพึงสดับ เวลาของคสช.นั้นมีไม่มาก ยิ่งกางปฏิทินบนคานอำนาจออกมาเปลาะหนึ่งแล้วว่า จะมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูป และนายกรัฐมนตรี ภายในไม่กี่เดือนภายภาคหน้า ยิ่งต้องเร่งเดินหน้าสะสางชำระความให้จบโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นจะเป็นดาบสองคมพุ่งมาปักคอตัวเอง โดยเฉพาะหากทำไม่สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด จนต้องยืดระยะเวลาออกมาไปเรื่อยๆ อาจจะกลายเป็นว่า คสช.กำลังมอมเมาอำนาจเสียเอง

อย่าลืมว่า คสช. มาในบทฮีโร่เพื่อสงบศึกชิงเมืองไม่ให้ประชาชนเข่นฆ่ากันจนเลือดนองท้องช้างก็จริง แต่ก็ไม่ควรใช้เวลานานนักในการสางปัญหา การนั่งแช่จนรากงอก อาจจะยิ่งทำให้คนไม่ยอมรับ เปิดการ์ดให้ฝ่ายตรงข้ามวิ่งไล่ชกได้ ต้องคิดเสมอว่ามาแก้ปัญหา ไม่ลืมที่มาตัวเองว่ามาไม่ถูกต้อง เป็นการยึดอำนาจในการบริหารประเทศ หากจะลากยาวย่อมเป็นผลเสีย เนื่องจากเราเป็นประเทศประชาธิปไตย จำเป็นต้องคบค้าสมาคมกับเพื่อน

หรือต่อให้ คสช. ทำดีมีผลงานก็อยู่นานไม่ได้ เมื่อชำระล้างปัญหาเสร็จต้องคืนอำนาจกลับไปสู่สนามเลือกตั้ง ให้คนตัดสินกันเองว่าปัญหาที่ คสช.ลงมาปลดชนวนมันบรรลุผลแค่ไหน ทั้งนี้ ก็เพื่อความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ยึดติด ลาภ ยศ และสรรเสริญ ตามที่หลายคนชักจะเริ่มกังขา

งานยาก เจ็บตัว แต่เมื่ออาสาแล้วต้องเป็น“สีทนได้”!!!
กำลังโหลดความคิดเห็น