“กัมปนาท” ลั่น ศปป.ลุยทุกจังหวัด เพื่อเดินหน้าสร้างปรองดองคนในชาติ เผย 9 จังหวัดคลี่คลายสู่สมานฉันท์ ลงนาม “เอ็มโอยู-อธิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์” สลายขัดแย้งแล้ว ผอ.ศปป.ย้ำ ขอให้ทุกฝ่ายจริงใจแก้ปัญหาร่วมกันอย่างยั่งยืน เตรียมจัดชุดลงพื้นที่เพื่อติดตามและประเมินท่าทีผลการทำงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 10 มิ.ย.เมื่อเวลา 16.00 น. ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) กล่าวหลังการประชุม ศปป.ว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อติดตามการทำงานของ ศปป.ยืนยันว่าทุกภาคส่วน กระทรวง ทบวง กรม ภาคประชาชนที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยมีการซักซ้อมเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันในการเดินหน้าในการขับเคลื่อนการปรองดองสมานฉันท์และการปฏิรูป
“ผมได้นำเจตนารมณ์ของหัวหน้า คสช.มาชี้แจงให้ทุกภาคส่วนได้เข้าใจในรายละเอียดซึ่งในช่วง 2 เดือนเป็นระยะเร่งด่วนในการสร้างบรรยากาศสภาพแวดล้อมให้เกื้อกูลในการที่จะเปลี่ยนไปสู่ช่วงระยะที่ 2 หัวหน้า คสช.ได้วางโรดแมปของ คสช.ไว้แล้วว่าจะเดินอย่างไรซึ่งเป็นหน้าที่ของ ศปป.ในการอำนวยความสะดวกด้วยการจัดเวทีให้ทุกกลุ่มทุกฝ่ายร่วมมือกัน สร้างความรัก ความสามัคคีสร้างสภาวะแวดล้อมเกื้อกูลต่อกันในการปรองดองสมานฉันท์”
พล.ท.กัมปนาทกล่าวยืนยันว่า คสช.ไม่ใช่ผู้ขัดแย้ง เราจะไม่เอาตัวลงไปขัดแย้งจะไม่พูดถึงเรื่องความขัดแย้ง ตนไม่มีหน้าที่ไปชี้ผิดชี้ถูกใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเพียงแค่ผู้สังเกตการณ์ที่จะให้ทุกกลุ่มทุกฝ่ายหันมาพูดคุยกัน จากนั้นตนจะทำหน้าที่เป็นผู้นำผลการดำเนินงานทั้งหมดเสนอต่อสภาปฏิรูป ทั้งนี้ แนวทางหรือกลยุทธ์ในการสร้างความปรองดอง ไม่ว่าจะภาคเหนือ หรืออีสานมีความแตกต่างกัน ในบางพื้นที่ใช้ดนตรี บางพื้นที่ใช้กีฬา หรือบางพื้นที่ใช้บ้าน วัด โรงเรียน วัฒนธรรมขนมธรรมเนียบประเพณีท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องแต่ละพื้นที่เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายมาร่วมกิจกรรมกัน ขณะนี้ถือว่าสิ่งที่ได้ทำมาทั้งหมดก้าวหน้าไประดับหนึ่ง ทุกคนก็น่าจะดีใจเพราะเป็นการคืนความสุขให้พี่น้องประชาชน จากคนที่ไม่เคยมาฟังดนตรีก็มานั่งคุยนั่งฟังดนตรีด้วยกัน ถือว่าประสบความสำเร็จเพื่อนำไปสู่ขั้นที่ 2
พล.ท.กัมปนาทกล่าวว่า การดำเนินการทั้งหมดตนได้เรียนกันหัวหน้า คสช.ทุกวันเพราะท่านได้ติดตามทุกวัน เรื่องไหนที่ไม่เหมาะสมไม่ถูกต้อง ท่านก็สั่งปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์เพื่อให้การปรองดองเดินหน้าไปให้ได้ อย่างไรก็ตาม แกนนำทุกกลุ่มทุกฝ่ายได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีสามารถสร้างบรรยากาศความปรองดองให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ตนจะลงพื้นที่ในภาคอีสานเพื่อติดผลการดำเนินการ
ทางด้าน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงเพิ่มเติมว่า วันนี้ได้เชิญส่วนราชการระดับกระทรวง 7 กระทรวง และหน่วยงานที่เทียบเท่ากระทรวง และกรมในสังกัดอีก 13 หน่วยงาน จากพื้นที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เท่านั้น มาประชุมเพื่อบูรณาการปรับแผนงานโครงการกิจกรรมของแต่ละกระทรวงที่มีอยู่แล้ว ให้สอดคล้องแนวความคิดของหัวหน้า คสช.ในเรื่องการปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ซึ่งแต่ละหน่วยงานได้ชี้แจงและอธิบายแผนงาน และยินดีเข้าร่วมตามนโยบาย โดยกระทรวงศึกษาธิการจะมีการจัดกิจกรรมสอดแทรกการปรองดองสมานฉันท์ ส่วนกระทรวงสาธารณสุขจะเน้นย้ำเรื่องการเยียวยาทางสังคมกับผู้ที่ได้รับผลกระทบ ส่วนกระทรวงยุติธรรมให้ยึดมั่นในหลักนิติธรรม ส่วนสำนักงานพระพุทธศาสนาจะจัดกิจกรรมให้สอดคล้องเช่นเดียวกัน ทั้งนี้หัวหน้า คสช.ได้ฝากขอบคุณผลการดำเนินกิจกรรมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ศปก.รมน.จังหวัด) ในทุกจังหวัดแล้ว โดย 10 วันที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมในเชิงปริมาณ จำนวน 56 จังหวัด ที่ตรวจสอบแล้วถือว่าอยู่ในระดับที่มีคุณภาพ มีระดับผู้นำทางความคิดของแต่ละจังหวัดมาร่วมดำเนินการหารือและได้ข้อตกลงร่วมกันเพื่อปรองดองสมานฉันท์ ทั้งการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (เอ็มโอยู) หรืออธิษฐานจิตภายในจังหวัดโดยมีสื่อมวลชนเป็นพยานจำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียใหม่ จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.สระแก้ว จ.ลพบุรี จ.กาญจนบุรี จ.นครราชสีมา และ จ.อุดรธานี
“บรรยากาศการปรองดองสมานฉันท์เป็นการเสริมความเชื่อมั่น สร้างภาพลักษณ์ให้กับการท่องเที่ยว รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือเพิ่มความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค ทั้งนี้แต่ละกระทรวงยังไม่ได้รายงานปัญหาในการดำเนินการเข้ามา แต่ได้ชี้แจงในที่ประชุมแนวความคิดของแต่ละกระทรวงในระยะแรกที่ได้เตรียมเอาไว้และคิดว่าเป็นไปได้เพื่อนำมาเสนอและบูรณาการกับทางจังหวัดเป็นหลักเพื่อขับเคลื่อนไปด้วยกัน นอกจากนี้ ทาง ผอ.ศปป.ขอให้ทุกคนมีความจริงใจดำเนินการและจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างมีต่อเนื่องอย่างยั่งยืนต่อไป ส่วนการประชุมครั้งต่อไปจะนัดหมายเมื่อมีการคืบหน้าของการดำเนินการ นอกจากนี้จะมีการจัดชุดประเมินผลลงไปตรวจสอบทัศนคติและท่าทีของทุกจังหวัดที่ได้มีการรายงานเข้ามาว่าพื้นที่ได้มีความคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งไปได้แล้วบ้าง แต่ทุกจังหวัดก็จะยังดำเนินการโครงการนี้ต่อไปภายใต้ ศปก.รมนน.จังหวัด” พ.อ.บรรพตกล่าว