xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.เล็งปฏิรูป กม.เข้มขึ้น ดักทนาย “ปู” ยื่นพยานเพิ่มคดีข้าว เพื่อยื้อเวลาไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช.(แฟ้มภาพ)
ประธาน ป.ป.ช.แจงแนวทางปฏิรูป แย้มแก้ กม.ให้เข้มข้นขึ้นเพื่อประสิทธิภาพทำงาน รายงานผลสอบพยานคดีจำนำข้าว “ปู” วันนี้ ทนายยื่นสอบพยานเพิ่ม 8 ปาก จี้สอบจบ 3 ประเด็นก่อนสรุปสำนวน ยันข้าว 2.97 ล้านตันไม่ได้หาย คิดเสื่อมสภาพข้าวต่างจากอนุ กก.ปิดบัญชี โวยคำนวณความเสียหายไม่ถูก แถจำนำข้าวทำตามนโยบาย ไม่ถือว่าทำผิดอาญา ย้ำโครงการดี ป.ป.ช.ดักยื่นเพื่อยื้อเวลาไม่ได้ ย้ำให้ความยุติธรรม

วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช.ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการปฏิรูปการทำงานของ ป.ป.ช.ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มอบให้วางแนวทางปฏิรูปองค์กรอิสระ 7 องค์กรว่า ถือเป็นการทำงานร่วมกัน ป.ป.ช.เป็นหนึ่งในองค์กรอิสระที่ทำงานตามหน้าที่ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญของ ป.ป.ช.ก็ยังอยู่เพื่อเดินหน้าทำงานปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญของ คสช. ดังนั้นจึงให้ ป.ป.ช.ทำงานตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่เป็นการช่วยเหลือกันในการทำงานการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชัน

“อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช.อาจเสนอให้แก้กฎหมายเพื่อความเข้มข้นในการทำงานให้มากยิ่งขึ้น อาทิ เรื่องการไต่สวน ซึ่งกำลังช่วยกันพิจารณากันอยู่ก่อนที่จะนำเสนอให้ คสช.ได้พิจารณา ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อให้ ป.ป.ช.ได้ใช้อำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.ในการทำงานได้อย่างถูกต้อง ชอบธรรม และยุติธรรม นอกจากนี้ ขณะนี้การทำงานของ ป.ป.ช.กับองค์กรอิสระทั้งหมด มีการประชุมร่วมกัน ทำงานแบบบูรณาการร่วมกันทั้งหมด” นายปานเทพกล่าว

นายปานเทพยังได้กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีไต่สวนคดีอาญาโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ในวันเดียวกันนี้ (10 มิ.ย.) คณะทำงานไต่สวนเรื่องดังกล่าวจะรายงานผลการสอบปากคำของพยานทั้ง 4 ปากที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วเพื่อให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดูว่ามีความครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ มีประเด็นใดต้องไปไต่สวนเพิ่มเติมหรือไม่ โดย ป.ป.ช.ยึดหลักเรื่องการให้ความยุติธรรมอย่างเต็มที่ ส่วนกรณีที่ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์มายื่นขอเพิ่มพยานนั้น หากเป็นพยานใหม่ที่มีความสำคัญต่อคดีเราก็ต้องพิจารณา ต้องดูรายละเอียดกันก่อน โดย ป.ป.ช.ต้องพิจารณาที่เหตุผลว่าเพียงพอหรือไม่หากเป็นการยื่นเพื่อประวิงเวลาก็คงไม่ใช่ ทั้งนี้ ป.ป.ช.ให้ความยุติธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหาอย่างเต็มที่

ต่อมาเวลา 11.00 น. นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้รับผิดชอบโครงการรับจำข้าว เดินทางมายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้ ป.ป.ช.ไต่สวนพยานหลักฐานใน 3 ประเด็น และขอให้ไต่สวนพยานเพิ่มเติม 8 ปาก โดยนายนรวิชญ์กล่าวว่า ได้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้มายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อให้ไต่สวนพยานหลักฐาน 3 ประเด็นจนสิ้นกระแสความก่อนจะสรุปสำนวน ได้แก่ 1. การไต่สวนเรื่องสต็อกข้าว 2.97 ล้านตันในโครงการรับจำนำข้าว ที่ยังมีข้อโต้แย้งระหว่างคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ของ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ อดีตรองปลัดกระทรวงการคลังกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อการเกษตรกร (อ.ต.ก.) เพื่อยืนยันว่า ข้าว 2.97 ล้านตันไม่ได้หายจากสต๊อก 2. การคิดการเสื่อมสภาพข้าวในสต๊อกของรัฐบาลที่ยังมีความเห็นแตกต่างกันระหว่างคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

นายนรวิชญ์กล่าวว่า 3. การคำนวณความเสียหายในโครงการจำนำข้าวที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีใช้หลักเกณฑ์การประมาณผลการขาดทุนในการปิดบัญชีโครงการฯ ไม่ถูกต้อง จนเกิดความแตกต่างเรื่องการประมาณการขาดทุนถึง 172,933 ล้านบาท ทั้ง 3 ประเด็นเป็นสาระสำคัญ และยังไม่มีการไต่สวนให้สิ้นกระแสความ จึงอยากให้ ป.ป.ช.ไต่สวนให้สิ้นกระแสความก่อน เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ทุจริตและเพิกเฉยต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นในโครงการรับจำนำข้าวนั้นไม่เป็นความจริง

นายนรวิชญ์กล่าวว่า นอกจากนี้ขอให้ ป.ป.ช.ไต่สวนพยานเพิ่มเติมอีก 8 ปาก เพื่อมาให้ข้อมูลในสามประเด็นดังกล่าว ได้แก่ 1. นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผอ.องค์การคลังสินค้า 2. นายประกอบ รัตนภักดี หัวหน้ากองธุรกิจข้าว ในฐานะทำการแทน ผอ.องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) 3. นายสมชัย สัจจพงษ์ ผอ.สำนักเศรษฐกิจการคลัง 4. นายพชร อนันตศิลป์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาการเงินนอกงบประมาณ กรมบัญชีกลาง และรองประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว 5. นายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหารบริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด 6. นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี 7. นายถวิล พึ่งมา ประธานคณะทำงานพิจารณากำหนดกรอบคุณภาพและกลไกราคาตามสภาพข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล 8. นายพิชัย ชุณหวชิร นักบัญชีอิสระ

นายนรวิชญ์กล่าวอีกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังขอความเป็นธรรมต่อ ป.ป.ช.ด้วยว่า การจะกล่าวหาบุคคลใดทางคดีอาญาต้องคำนึงว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาพิเศษในการกระทำผิดทางอาญาหรือไม่ เพราะการกระทำที่ผ่านมาในโครงการจำนำข้าว เป็นการทำตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ถือเป็นการกระทำเชิงบริหาร ไม่ถือว่ามีเจตนาพิเศษในการทำผิดทางอาญา หากไปยุติโครงการจำนำข้าวตามข้อเสนอของ ป.ป.ช.จะเป็นการทำผิดต่อกฎหมายเสียเอง โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ยืนวันว่า โครงการรับจำนำข้าวมีเจตนาดี มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตชาวนาไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ และไม่ได้มีส่วนร่วมหรือสมยอมในการทุจริต จึงขอความเป็นธรรมต่อ ป.ป.ช.ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น