คสช.ไม่ตกใจมะกัน-ออสซี ลดร่วมมือทหาร ปัดใช้ทำเนียบฯทำงาน เกาะติดกลุ่มต้าน

ทีมโฆษก คสช. สั่งทีม กม.จัดการ มือตัดต่อภาพหลวงปู่พุทธะอิสระเทศนาผ่านช่อง 5 ไม่ตกใจสหรัฐฯ-ออสซี่ ลดความร่วมมือทหาร เข้าใจทหาร 2 ชาติผูกพันกับรัฐสภา หวังให้เข้าใจ ชี้อาเซียนไม่แทรกแซงกัน ปัดข่าว หน.คสช. คิดใช้ทำเนียบทำงาน ยันยึด บก.ทบ. ศูนย์กลางทำงาน จับตาแดงชุปแป้งทอดชุมนุม ย้ำเลี่ยงรุนแรง

วันนี้ (1 มิ.ย.) พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพหลวงปู่พุทธะอิสระกำลังเทศนาออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.5) ผ่านทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ว่า ภาพดังกล่าวที่ปรากฏนั้น คสช. และกองทัพบก ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ในช่วงที่ผ่านมาทาง ททบ.5 ไม่ได้มีการนำเสนอเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวถือเป็นการทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ทาง คสช. และกองทัพบกได้สั่งให้ฝ่ายกฎหมายเข้ามาดูแลเรื่องนี้แล้ว และตรวจสอบหาต้นตอของผู้ที่นำภาพมาเผยแพร่ เพื่อนำตัวมาดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายต่อไป

ด้าน พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่ออสเตรเลียประกาศลดระดับความร่วมมือทางการทหารกับไทยว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจากกระทรวงการต่างประเทศแล้ว รวมถึงมีการห้ามผู้นำทางทหารของกองทัพไทยเข้าประเทศออสเตรเลียด้วย ซึ่งทางกองทัพของไทยมีความเข้าใจ และพยายามใช้ทุกช่องทางที่มี อธิบายกับทุกประเทศให้เข้าใจ และพยายามหาทางผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ ทั้งนี้ เราไม่ได้ตกใจ แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่ผ่านมา ไทย สหรัฐฯ และออสเตรเลีย มีความร่วมมือทางทหารค่อนข้างมาก แต่ต้องเข้าใจว่าการทหารของทั้งสองประเทศผูกพันกับรัฐสภาของเขา เมื่อมีเหตุเกิดขึ้น ทางรัฐสภาของเขาก็ต้องมีการประชุมทบทวนความช่วยเหลือต่างๆ ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ทางทหารของไทยและสหรัฐฯมีมายาวนาน 185 ปี และไทยกับออสเตรเลียยาวนานกว่า 60 ปี กองทัพหวังว่าต่างประเทศจะเข้าใจและทบทวนมาตรการต่างๆ ต่อไป แม้ว่าความร่วมมืออื่นๆ จะลดลงตาม

ขณะที่ในส่วนประเทศในอาเซียนก็มีความเข้าใจ และมีการออกแถลงการณ์แสดงความเป็นห่วง แต่กฎกติกาของอาเซียนนั้นจะไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศใดประเทศหนึ่ง

พ.อ.วีรชน ยังได้ออกมาปฏิเสธข่าวที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. มีแนวคิดที่จะเข้าไปใช้สถานที่ภายในทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะตึกไทยคู่ฟ้า เป็นที่ทำงานในบางโอกาส เช่น การรับแขก การประชุมคณะทำงาน คสช. แต่จะไม่เข้าไปนั่งทำงานในห้องทำงานนายกรัฐมนตรี เพียงแต่จะใช้ห้องต่างๆ เพื่อประชุมเท่านั้น โดยจะเริ่มในสัปดาห์หน้าดังกล่าว โดยยืนยันว่าขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่มีนโยบายใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่ทำงาน และยังคงใช้สถานที่ของกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน เป็นศูนย์กลางในการทำงาน และเชิญผู้แทนของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาใน บก.ทบ. ในส่วนของหน่วยงานที่ใช้สถานที่ทำเนียบรัฐบาลทำงาน ก็ยังคงเป็นหน่วยงานเดิมที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาล เช่น สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นต้น

พ.อ.วีรชน ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มต่อต้านทหารออกมาเคลื่อนไหวในหลายพื้นที่ของ กทม. ในวันนี้ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารนั้นมีแผนในการรับมือตามสถานการณ์ ส่วนแผนจะเป็นอย่างไรนั้นขอให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติในพื้นที่เป็นผู้ประเมินสถานการณ์ โดยใช้ขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่จะพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง