ศาลปกครองไม่รับฟ้องอดีต ส.ว.เลือกตั้ง ฟ้อง “สุรชัย-สำนักเลขาฯ วุฒิ” ออกคำสั่งลิดรอนสิทธิประโยชน์ ช่วงรอ ส.ว.เลือกตั้งชุดใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่
ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณากรณีนายสุพจน์ เลียดประถม นายชัยภัทร เศรษฐยุกานนท์ นายสมพร จูมั่น นางจิตร์ธนา ยิ่งทวีลาภา และน.ส.ศรีสกุล มั่นศิลป์ อดีต ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งชุดที่แล้ว ผู้ฟ้องคดีที่ 1-5 ได้ยื่นฟ้องนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา สำนักเลขาธิการวุฒิสภา นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-3 ต่อศาลปกครองกลางขอให้เพิกถอนหนังสือสำนักเลขาธิการวุฒิสภา เรื่องแนวทางปฏิบัติราชการของสำนักเลขาธิการวุฒิสภา ในกรณีสมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งมาจากการเลือกตั้งสิ้นสุดลงเมื่อถึงคราวออกตามวาระตามมาตรา 119 (1) ของรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ผู้ฟ้องคดีเสียสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับในระหว่างยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ ส.ว.ไปจนกกว่า ส.ว. เลือกตั้งชุดใหม่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่
ส่วนเหตุที่ศาลปกครองไม่รับฟ้องระบุว่า จากการตรวจสอบหนังสือเรื่องแนวทางการปฏิบัติราชการของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาดังกล่าว พบว่าเป็นการหารือร่วมกันของส่วนราชการผู้เกี่ยวข้องกับสำนักเลขาธิการวุฒิสภา เกี่ยวกับว่า ส.ว.ที่สมาชิกภาพได้สิ้นสุดลงตามวาระ จะต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนถึงเมื่อใด แนวการเบิกจ่ายงบประมาณในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบุคคลในวงงานของวุฒิสภา ถือเป็นการตีความรัฐธรรมนูญและกฎหมายการเงินที่เกี่ยวข้อง หนังสือดังกล่าวจึงเป็นแนวทางปฏิบัติแก่เจ้าหน้าที่ของสำนักเลขาธิการวุฒิสภา ไม่ใช่เป็นการออกกฎเพื่อบังคับใช้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งหมด ผู้ฟ้องคดีทั้งหมดจึงยังไม่ใช่ผู้เดือดร้อนเสียหายจากการออกหนังสือและแนวทางการปฏิบัติดังกล่าวที่จะมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาล
ส่วนการส่งข้อความผ่านเอสเอ็มเอส หรือไลน์ ของเจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการวุฒิสภา ต่อผู้ฟ้องคดีก็เป็นเพียงการแจ้งให้ทราบถึงสิทธิในการใช้บัตรสมาชิกวุฒิสภาเป็นใบเบิกทางค่าโดยสารด้วยวิธีต่างๆ ว่าจะใช้ได้เพียงอีก 1 ครั้งนั้นก็เป็นการแจ้งข่าวสารของเจ้าหน้าที่โดยอาศัยผลการตีความกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เป็นคำสั่งทางปกครองอันจะกระทบสิทธิของผู้ฟ้องคดี หากผู้ฟ้องคดีทั้งหมดยังคงปฏิบัติหน้าที่ในคณะกรรมาธิการใดๆ ได้โดยชอบ ก็มีสิทธิเบิกจ่ายค่าเดินทาง เบี้ยเลี้ยงต่างๆ ได้ตามกฎหมาย
สำหรับนายสุรชัย ผู้ถูกฟ้องที่ 1 ไม่ปรากฏว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกหนังสือดังกล่าว รวมทั้งการส่งข้อความทางอิเล็กทรอนิกส์อันเป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีนี้ นายสุรชัยจึงไม่ใช่ผู้กระทำการตามที่ได้ยื่นฟ้อง ผู้ฟ้องคดีทั้งหมดจึงไม่ใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อนเสียหายการกระทำของนายสุรชัย จึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ