เกาะกระแส
00 หลายคนอาจจะบอกว่า การประกาศกฎอัยการศึกของ ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้เหนือการคาดหมาย และรอคอยให้กองทัพเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ แม้ว่าในช่วงเริ่มต้นอาจเป็นช่วงที่ทุกฝ่ายกำลัง “รอและดู”อย่างใกล้ชิด จึงยังไม่มีปฏิกิริยาแสดงความรู้สึกอะไรออกมาให้เห็นมากนัก ดังนั้นจึงต้องจับตาสถานการณ์ภายในวันสองวันนี้ ว่าจะไปทางไหน อย่ากระพริบตาเป็นอันขาด
00 อย่างไรก็ดี หากพิจารณาบรรยากาศการประกาศกฎอัยการศึก ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง ต้องขอถือโอกาสรายงานเพื่อไม่ให้เสียของว่า มีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการเคลื่อนไหวขับไล่ ระบอบทักษิณ ครอบครัวทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังเข้าสู่โหมดวันเผด็จศึกเข้ามาทุกที เริ่มดีเดย์ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. เส้นตายไปจนถึง 26 พ.ค. หากทำไม่สำเร็จ หรือรัฐบาลทรราชย์แก๊งนี้ยังกอดเก้าอี้แน่น ไม่ยอมไปสักที หรือทำได้แค่นี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น รุ่งขึ้นวันที่ 27 พ.ค. กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ ร่างทรงของมวลมหาประชาชนก็ประกาศแล้วว่า จะสลายการชุมนุมและเดินไปมอบตัว
00 หลับตานึกภาพให้เห็นว่าจุดจบน่าจะเป็นแบบนั้นจริงๆ หากพี่น้องไม่ออกมาให้มากกว่าเดิม นั่นคือ ต้องออกมาทุกคน ขาดใครก็ไม่ได้ ทุกคนสำคัญเท่ากันหมด ทุกครอบครัวต้องออกมาให้หมด ใครที่ยังไม่เคยออกมา คราวนี้ถึงเวลาต้องออกมากันแล้ว ถ้าไม่ออกมารับรองว่า หากพลาดท่าเสียทีจะเสียใจไปตลอด จะมานั่งนึกเจ็บใจทีหลังว่า ทำไมวันนั้นกูถึงไม่ออกไปช่วยกำนันวะ เจ็บใจดูเบาว่า ถ้ากูไม่ออกไปสักคนยังมีคนอื่นอีกตั้งเยอะ จะคิดแบบนั้นไม่ได้เป็นอันขาด เอาเป็นว่าออกมาร่วมสู้ให้เต็มเหนี่ยวไว้ก่อน ส่วนผลจะออกมาแบบไหน ก็ถือว่าทำเต็มที่แล้ว "ได้แค่ไหนแค่นั้น" ไม่เสียชาติเกิด นะพี่น้อง !!
00 ไม่น่าแปลกใจหรือเกินคาดหมายสำหรับผลเจรจาขอร้องให้ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล และ ครม.ผีหัวขาดที่เหลืออยู่ ยอมลาออกเพื่อเปิดทางให้มีการหานายกฯ คนใหม่ ที่มีอำนาจเต็ม เพื่อทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ซึ่งก็พอเดาออกตั้งแต่ต้นแล้วว่า คนพวกนี้"ไม่ออก" เป็นตายอย่างไรก็ยังหน้าด้านอยู่แบบนี้ต่อไป และถึงแม้ว่าคนพวกนี้อยากจะลาออก แต่ก็ออกไม่ได้ เพราะ "นายทาส"ไม่ยอมให้ออก ดังนั้นการเจรจากับคนพวกนี้จึงไร้ประโยชน์ และไม่ควรเจรจากันตั้งแต่ต้น
00 อย่างไรก็ดี หากมองในแง่เทคนิกทางกม. ก็ทำได้ นั่นคือ ทางวุฒิสภา โดยว่าที่ประธานวุฒิสภา สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย เปิดทางเพื่อระดมความเห็นจากทุกฝ่าย ทำทุกช่องทางแล้วแต่ยัง "ตัน" ก็จำเป็นต้องใช้อำนาจของวุฒิสภา เสนอชื่อนายกฯขึ้นมาเองตามธรรมเนียมประเพณีที่เคยปฏิบัติกันมา เพื่อหาทางออกให้กับประเทศ ซึ่งก็มีการแย้มแนวทางออกมาชัดเจนแล้วว่า จะต้องใช้ ม.3 ม.7 คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ ต้องเห็นดำเห็นแดง เอาแน่ อย่างไรก็ดี แม้ว่าล่าสุดสถานการณ์เปลี่ยน แต่ถึงอย่างไรก็น่าจะมีนายกฯ คนใหม่ น่าจับตา !!
