อดีตปลัดกระทรวงท่องเที่ยวฯ นำทีมอดีตข้าราชการมอบดอกไม้ “สุรชัย” ขอชงชื่อนายกฯ ทูลเกล้าฯ เจ้าตัวเตือนระวังจะถูกตั้งข้อหาสนับสนุนกบฏ อย่างที่โดนมาแล้ว บอกวิกฤติทำคนแบ่งฝ่าย กฎหมายถูกใช้สอยคนเห็นต่าง ข้าราชการไม่สามารถแยกผิดถูกได้ ยันยึด 3 หลักสำคัญ สวนดีเอสไอมีวิธีแก้ให้เสนอมา ติงรัฐไม่ตัดสินใจถ้ามีความรุนแรงต้องรับผิด รับผลคุยรัฐไม่น่าพอใจ ทุกคนยึดแนวทางตัวเอง
วันนี้ (19 พ.ค.) ที่รัฐสภา นายเจด็จ อินสว่าง อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะแกนนำอดีตข้าราชการระดับสูง พร้อมด้วยประชาคมธรรมศาสตร์อภิวัฒน์ และกลุ่มประชาคมชาวจุฬาฯ ได้เดินทางเข้ามอบดอกไม้ให้กำลังใจแก่นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานวุฒิสภา ให้เดินหน้าเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีอำนาจเต็ม และนำขึ้นกราบบังคมทูลฯโดยเร็วที่สุด
ด้านนายสุรชัยกล่าวว่า ขอบคุณที่ทุกคนมาให้กังใจ แต่ทุกต้องระวังจะถูกตั้งข้อหาสนับสนุนกบฏ เหมือนอย่างที่ตนโดนมาแล้ว จากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกหมายเรียกให้ไปพบในวันที่ 21 พ.ค. วิกฤตการเมืองขณะนี้ส่งผลกระทบให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ลามไปถึงระดับข้าราชการ กฎหมายไม่ได้ถูกนำมาใช้เพื่อความสงบเรียบร้อย แต่ถูกใช้เป็นเครื่องมือสำหรับคนที่เห็นต่างๆ สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรง ข้าราชการของรัฐไม่สามารถแยกผิดหรือถูกได้ ถือว่าเป็นอันตราย ซึ่งวุฒิสภาไม่อยากปล่อยให้เมืองล่มสลายจึงต้องออกมาแก้ปัญหา
นายสุรชัยกล่าวว่า การแก้ปัญหาต้องใช้หลักสำคัญ 3 ประการ คือ 1. การมีส่วนร่วมของทุกส่วน 2. ยึดตามกรอบกฎหมายทุกประการที่จะแก้ปัญหาได้ และ 3. หาทางออกเพื่อคืนความสงบสุขให้ประเทศ ตนยืนยันว่าจะตัดสินใจเร็วก็ทำได้ แต่ต้องไม่ใช่ตัดสินไปแล้วเกิดวิกฤตใหม่ จบแบบไม่จบ จึงขอเรียกร้องไปยังดีเอสไอว่า หากดีเอสไอคิดว่ามีวิธีแก้ปัญหาในขณะนี้ก็ให้เสนอแนะมา และตนก็จะยอมถอยอกมา ซึ่งวุฒิสภาได้ออกแถลงการณ์แนะนำทางออกให้รัฐบาลแล้ว 3 ข้อ เพื่อจะได้ไปปรึกษาหารือกันก่อนที่จะตัดสินใจ แต่ถ้ารัฐบาลไม่ตัดสินใจแล้วมีปัญหาความรุนแรงเกิดขึ้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบ
นายสุรชัยกล่าวอีกว่า ส่วนแนวทางหาทางออกประเทศนอกของวุฒิสภา ขณะนี้ก็มีความชัดเจนมากขึ้น โดยพยายามจะสรุปแนวทางและออกเป็นแถลงการณ์ให้ทันต่อเหตุการณ์ที่มีความตรึงเครียดมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะทันภายในสัปดาห์นี้แน่นอน อย่างไรก็ตาม การส่งตัวแทนไปหารือกับรัฐบาลวันนี้ถือว่าผลออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจทุกคนยังยึดติดกับแนวทางของตัวเอง จึงอยากขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับวุฒิสภาด้วย ตนยืนยันว่าจะไม่ท้อแท้แน่นอน จะยืนหยัดทำหน้าที่หาทางออกประเทศจนถึงที่สุด