“วิชาญ” อ้างนายกฯ คนกลางที่วุฒิฯ จะผลักดัน ไม่มีอำนาจเต็ม เหตุอยู่ใน พ.ร.ฎ.ยุบสภา โวยการเทียบเคียงกฎหมายเป็นการเทียบเคียงแบบตามใจตัวเอง เชื่อหากตั้งนายกฯ คนใหม่ จลาจลแน่ ยัน ส.ว.กลุ่มสายกลางไม่ยอมรับ
นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา กลุ่ม ส.ว.สายกลาง กล่าวถึงกรณีที่ ส.ว.เสนอให้มีนายกฯ คนใหม่ที่มีอำนาจเต็มมาบริหารประเทศเพื่อแก้ไขวิกฤตว่า สิ่งที่พูดคุยเรื่องนี้ไม่ต่างจากนายกฯ มาตรา 7 การที่บอกว่านายนิวัตน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ไม่มีอำนาจเต็ม และอยากถามว่าหากเลือกนายกฯ คนใหม่เข้ามาโดยวิธีใดก็ตาม ไม่มีอำนาจเต็มในการบริหารเช่นเดียวกัน เนื่องจากอยู่ใน พ.ร.ฎ.ยุบสภาเช่นเดียวกัน ซึ่งในวงหารือของ ส.ว. ที่บอกว่าจะให้เลือกนายกฯ คนใหม่เหมือนกับมีธงไว้แล้ว ขณะนี้เป็นการทำตามใจไม่ได้ทำตามกฎหมาย การอ้างเรื่องการเทียบเคียงกฎหมายก็เป็นการเทียบเคียงแบบตามใจตัวเอง
ดังนั้นการที่ ส.ว.จะให้เลือกนายกฯคนใหม่ถือว่าไม่ใช่มติของวุฒิสภา เป็นเพียงมติของสมาชิกบางส่วน หรือแม้จะเป็นเสียงข้างมากก็ได้ แต่ไม่สามารถบังคับกับบุคคลภายนอกได้ หรือการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ก็ไม่เหมาะสม
“หากจำเป็นต้องเลือกนายกฯคนใหม่ ทางออกที่เหมาะสม คือการขอยกเว้นการใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา หมวด ครม. และหมวดรัฐสภาบางส่วนแล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯ พร้อมระบุเงื่อนไขให้อำนาจ ส.ว. ทำหน้าที่แทนฝ่ายนิติบัญญัติ อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2554 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส.เคยพูดถึงนายกฯ มาตรา 7 เป็นการทำบาปกับประชาชน แต่ขณะนี้กลับมาเสนอเอง”
นายวิชาญกล่าวว่า ถ้าวุฒิสภายังเดินหน้าไปเสนอนายกฯ คนใหม่ กลุ่ม ส.ว.สายกลางประมาณ 50 คนจะไม่ร่วมโหวตแน่ และมวลชนอีกฝ่ายหนึ่งก็คงไม่ยอม เกิดจลาจลแน่ และทหารก็ต้องออกมาประกาศกฎอัยการศึกแน่นอน และทหารอาจจะตั้งรัฐบาลเอง หรือแนะนำให้รัฐบาลลาออก แล้วส่งให้วุฒิสภาเป็นคนดำเนินการ
