ทีม กม.เพื่อแม้ว แจ้งความให้ดีเอสไอเอาผิดว่าที่ ปธ.วุฒิฯ พร้อมพวกในองค์กรต่างๆ ที่เข้าร่วมถกตั้งนายกฯ คนกลาง ผิด ม.68 ไม่สนคำวินิจฉัยศาล ขู่ฝืนไปอาจมีสงครามกลางเมือง “ธาริต” รับลูก สรุปความผิดให้เสร็จสรรพ อ้างทำผิดจริงร่วมมือกับ กปปส.ต้องดำเนินคดี
วันนี้ (15 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นายสิงห์ทอง บัวชุม คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าแจ้งความกล่าวโทษต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อดำเนินคดีต่อนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานวุฒิสภา กับพวก และผู้เข้าร่วมประชุมกับนายสุรชัย ฐานความผิดเป็นตัวการและสนับสนุนได้กระทำความผิดตามตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา รัฐธรรมนูญมาตรา 68 และประมวลกฏหมายอาญามาตรา 113, 116
นายสิงห์ทองกล่าวว่า นายสุรชัยรู้อยู่แล้วว่ามีพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมวิสามัญเมื่อวันที่ 10 พ.ค.เป็นต้นมา และได้มีเจตนาพิเศษผิดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศ อีกทั้งในฐานะรองประธานวุฒิสภา นายสุรชัยทราบดีว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นเด็ดขาดมีผลผูกพันทุกองค์กร และศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ายังมีคณะรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่อยู่ การดำเนินแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7 ไม่อาจกระทำได้ แต่นายสุรชัยปฏิเสธไม่ยอมรับอำนาจศาล นอกจากนี้ พฤติกรรมที่นายสุรชัยเชื้อเชิญบุคลคลในองค์กรต่างๆมาร่วมประชุมในการแต่งตั้งนายกฯ คนกลาง เป็นการประชุมโดยไม่ชอบกฎหมายไปด้วย ตนจึงขอกล่าวโทษนาสุรชัยกับพวกและผู้ที่ร่วมประชุมกับนายสุรชัยในฐานความผิดเป็นตัวการและสนับสนุนด้วย
ทั้งนี้ หากนายสุรชัยกับพวกยังดันทุรังดำเนินการ ตนเชื่อว่ามวลชนฝ่ายต่อต้านจะยกระดับการชุมนุมไปสู่ความรุนแรงขั้นสูงสุดซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะประสบการจราจลและกลียุค และอาจถึงขนาดสงครามกลางเมือง
ด้านนายธาริตกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรากำลังดำเนินการอยู่ มีเหตุผล 3 ประการ คือ 1. นายสุรชัยกับพวกกระทำการฝ่าฝืนศาลรัฐธรรมนูญที่พิพากษาว่ารัฐมนตรีที่ยังเหลือยังต้องอยู่ในหน้าที่จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ารับหน้าที่ 2. พฤติการทั้งงหลายของนายสุรชัยมีลักษณ์สนับสนุนหรือสมคบคิดนายสุเทพ และแกนนำ กปปส.ถึงขนาดที่นายสุเทพไปพบกับนายสุรชัยที่สภาและออกมาประกาศบนเวทีว่านายสุรชัยเป็นพวกกับ กปปส.และรับปากว่าจะดำเนินการนายกฯ มาตรา 7 และ 3. มีผู้ร้องทุกข์กล่าวหานายสุรชัยกับพวกอย่างชัดเจนทั้งนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายสิงห์ทอง ดังนั้นตนยืนยันว่ามีความจำเป็นที่ต้องสืบสวนดำเนินคดีนี้กับนายสุรชัยและพวก และเห็นว่านายสุรชัยและพวกเข้าข่ายกระทำความผิดร่วมกับนายสุเทพจริง