เกาะกระแส
00 นาทีนี้ไม่ต้องอธิบายหรือมานั่งทำความเข้าใจที่มา และสถานการณ์กันอีกต่อไปแล้ว เชื่อว่าหลายคนที่ติดตามกันมาอย่างใกล้ชิดคงมีเป้าหมายและคำตอบอยู่ในใจกันแล้ว ขณะเดียวกันการหาทางออกให้กับบ้านเมืองก็ต้องขึ้นอยู่กับความกล้าหาญ เสียสละ ทำเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เท่านั้น ทุกอย่างถึงจะเดินไปข้างหน้าได้ และที่สำคัญมีเวลาจำกัดลงทุกที จึงต้องรีบดำเนินการโดยไม่ชักช้า
00 สถานการณ์ในเวลานี้ถือว่าเราไม่มีผู้นำ ไม่มีนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นแบบรักษาการ หรือว่านายกฯตัวจริง สถานะของ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล จึงเป็นแค่รักษาการรองนายกฯที่ทำหน้าที่เป็นรักษาการนายกฯในบางเรื่องเท่านั้น มีหน้าที่แค่อำนวยความสะดวกให้กับหน่วยงานราชการ เพื่อรอรัฐบาลใหม่เข้ามาทำหน้าที่เท่านั้น ไม่ใช่มีอำนาจนายกฯอย่างที่พยายามอุปโลกน์กันเองขึ้นมา ดังนั้นสภาพที่เป็นอยู่ถือว่าเป็นสภาพ "สูญญากาศ"เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ และที่สำคัญ นิวัฒน์ธำรง ไม่มีอำนาจในการทูลเกล้าฯใดๆทั้งสิ้น
00 เวลานี้จึงมีแต่เสียงยืนยันจากฝ่ายไม่มีอำนาจว่าตัวเองมีอำนาจ มีการระดมฝ่ายกม.หรือ พวก"ทะแนะ"ทั้งหลายว่า นิวัฒน์ธำรง มีอำนาจเต็ม ก็ว่ากันไป แต่คนอื่นเขาไม่ได้เห็นแบบนั้น โดยเฉพาะ กกต.ที่เวลานี้ออกอาการลังเล ไม่กล้าเดินหน้าเลือกตั้งตามกำหนดเดิมในวันที่ 20 ก.ค.แล้ว และเริ่มส่งสัญญาณออกมาให้เห็นแล้วว่า ไม่มั่นใจว่า มีอำนาจทูลเกล้าฯพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ที่เห็นชัดเจนก็คือสัญญาณจาก สมชัย ศรีสุทธิยากร ว่าอาจต้องเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปเป็นต้นเดือนสิงหาคม หรือไม่มีกำหนด
00 เมื่อสถานการณ์อยู่ในภาวะสูญญากาศ ไร้ผู้นำ ไร้นายกฯแบบนี้ ทำให้เหลือองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติเพียงองค์กรเดียวคือ วุฒิสภา มีรองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานวุฒิสภา และว่าที่ประธานวุฒิสภา หนึ่งเดียวคือ สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ที่ต้องเข้ามาหาทางออกให้กับบ้านเมือง โดยล่าสุดกำลังระดมความเห็นของสมาชิกวุฒิสภา รับฟังความเห็นจากภายนอกก่อนที่จะหาข้อสรุปเบื้องต้น คาดว่าจะมีข้อสรุปภายในวันศุกร์ที่ 16 พ.ค.จากนั้นบอกว่าจะไปหารือร่วมกับผู้นำองค์กรตามรัฐธรรมนูญ สถาบันการศึกษา อาจรวมถึงภาคเอกชน เพื่อได้ข้อสรุปร่วมกันต่อไป
00 แน่นอนว่า เวลานี้ความหวังอยู่ที่ สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่านอกจากใช้ความกล้าหาญแล้ว จะต้องมีความสุจริตทำเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ ซึ่งถ้ามีหลักคิดหลักฏิบัติแบบนี้ก็คงสามารถผ่าทางตันได้ไม่ยาก แม้ว่าจะได้รับการขัดขวางจากฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายอย่างไรก็ตามก็คงไม่มีปัญหา เพราะคนพวกนี้ต้องการยื้อรักษาอำนาจเอาไว้เท่านั้นเอง แต่เมื่อสถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว หากพวกเขาไม่ยอมเปลี่ยนตามมันก็ช่วยไม่ได้และที่สำคัญอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ไม่ต้องเกรงใจใครกันอีกต่อไปแล้ว
00 จะเรียกทำตัวเป็นข้ารับใช้กันจนนาทีสุดท้ายได้อย่างน่าชื่นชมจริงๆสำหรับ ธาริต เพ็งดิษฐ์ อาจเป็นเพราะว่าลงเรือลำเดียวกัน ที่ต้องจมลงไปพร้อมๆกันก็ได้ เพราะทำตัวเป็นเครื่องมือของเครือข่ายทรราชย์ได้เต็มรูปแบบ แต่ทำนายเอาไว้ล่วงหน้าเลยว่าเขาจะเป็นอีกหนึ่งที่อนาคตจะต้องจบลงแบบไม่สวยเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางมากที่สุด เวลานี้ก็แหย่เข้าไปเกือบครึ่งตัวแล้ว !!
00 ท่าทีของผู้นำกองทัพ โดยเฉพาะ ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บอกว่าให้ยึดกม.ทางหนึ่งก็เพลเซฟ รอเกษียณฯกันแบบสบายๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เห็นสัญญาณว่าโน้มเอียงมาทางว่าที่ประธานวุฒิสภา ที่กำลังสรุปหาทางออก เพราะหากเป็นมติของทุกภาคส่วนออกมาแล้วก็คงเชื่อว่าฝ่ายกองทัพก็คงจะ"ตามน้ำ"ถึงตอนนั้นหากใครยังขัดขืนก็คงต้อง "จัดการ" แต่ถ้าไม่ทำอะไรอีกก็ควรจะไสหัวไปได้แล้ว !!