เกาะกระแส
00 สภาพบ้านเมืองเวลานี้ถือว่าไร้รัฐบาล ไร้นายกรัฐมนตรี คนที่เป็นรองนายกฯปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ คือ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ก็ไม่มีทั้งอำนาจ และไม่สามารถบริหารอะไรได้ เกิดสภาพสูญญากาศทางการเมืองจนเกือบสมบูรณ์แบบ ที่สำคัญเขาไม่อาจเสนอ ทูลเกล้าฯได้เลยสักเรื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพระราชกฤษฎีกาวันเลือกตั้ง รวมไปถึงการทูลเกล้าฯ รายชื่อประธานวุฒิสภาคนใหม่ ทุกอย่างตีบตันไปหมด เวลานี้จึงมีแต่พวกที่ประกาศว่า ตัวเองมีอำนาจ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่กล้าสั่งการ ตัดสินใจอะไร ทำได้เพียงแค่ขู่ แอ็กอาร์ตไปวันๆ เท่านั้น
00 เมื่อเป็นแบบนี้การเลือกตั้งที่เคยกำหนดเอาไว้ว่าจะมีขึ้นในวันที่ 20 ก.ค. ก็ทำท่าเป็นหมัน เพราะ นิวัฒน์ธำรง ไม่มีอำนาจในการทูลเกล้าฯ แม้ว่าจะปากแข็ง ยืนยันถึงอำนาจดังกล่าว แต่เชื่อว่าฝ่ายกกต. ก็คงไม่เอาด้วย ล่าสุดทาง กกต.โดย สมชัย ศรีสุทธิยากร ก็เซฟตัวเองให้ นิวัฒน์ธำรง ยืนยันอำนาจดังกล่าวออกมาก่อน เพราะหากไม่ยืนยัน ก็จะไม่เสนอพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งไปให้ กลัวซวยไปด้วย แต่ถึงอย่างไร กำหนดการเลือกตั้งคงต้องยืดออกไปอีก เพราะสูญญากาศไร้นายกฯ นั่นเอง
00 การตอบรับของ ว่าที่ประธานวุฒิสภา สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย นัดหารือนอกรอบสมาชิกวุฒิสภา เพื่อหาทางออกให้กับบ้านเมือง เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ถือว่าน่าจับตาไม่น้อย แม้ไม่อาจคาดหวังได้เต็มร้อย แต่อย่างน้อยก็เป็นความริเริ่มที่ดี เป็นความกล้าหาญในระดับหนึ่ง คงต้องรอแนวโน้มอีกสักนิดหนึ่งว่าออกมาแบบไหน แต่เท่าที่ฟังดูแล้ว หลังจากมีการระดมความเห็นกันแล้ว ผลออกมากี่แนวทางจากนั้นก็จะนำเสนอกับที่ประชุมผู้นำองค์กรตามรัฐธรรมที่จะนัดหารือกันต่อไป ก็ต้องลุ้นกันต่อว่า บรรดาผู้นำเหล่านั้นจะมีความเข้าใจสถานการณ์ และมีความกล้าหาญมากน้อยแค่ไหนด้วย รวมทั้งผู้นำกองทัพ ว่าจะดูดายรอเกษียณฯ หรือจะแอ็กชั่นอย่างไร
00 แต่วันที่ 14 พ.ค. ถือว่าเป็นกำหนดการ "วันไล่เสนียดจัญไรแห่งชาติ" ที่มวลมหาประชาชน กปปส. นำโดยกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ นัดหมายกันอย่างพร้อมเพรียง เป้าหมายก็ชัดเจนในตัวอยู่แล้วว่า ไล่เสนียด ส่วนใครบ้างที่เป็นเสนียดก็คงจะรู้กันดีอยู่แล้ว เอาเป็นว่า รวมพลังออกมากันให้มากที่สุดก็แล้วกัน งานนี้ต้องเอาให้จบ ถ้าไม่จบ เราก็คงต้องจบ เพราะรำคาญเหลือทนแล้ว !!
00 ขอย้ำว่าการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ความโปร่งใส ให้การทุจริตเหลือน้อยที่สุด ความหวังอยู่ที่ประชาชนเท่านั้น ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อน ตรวจสอบนักการเมือง และข้าราชการ มาวันนี้ถือว่าชาวบ้านได้ตื่นรู้ขึ้นมาอย่างขนานใหญ่ แต่ที่ยังไม่บรรลุผลสำเร็จเต็มร้อยก็เพราะว่าพวกนักการเมืองขี้ฉ้อ ข้าราชการรับใช้นักการเมืองพวกนี้มันยังหน้าด้าน พยายามขัดขวางทุกวิถีทาง แต่เชื่อเถอะตราบใดที่พลังประชาชนยังยืนหยัดเหนียวแน่น คนพวกนี้ก็ต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุด เพียงแต่ว่าช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง แต่ก็ต้องไป
00 บางครั้งการอ้าง กม.ล้วนมาจากความกลัว ขาดความกล้าหาญจนไม่กล้าเปลี่ยนแปลง แต่ตราบใดที่ประชาชนคืออำนาจ มันก็สามารถก้าวข้ามไปได้ทุกอย่าง เพียงแต่ว่าผลที่ออกมาจะต้องเป็นของประโยชน์ส่วนใหญ่ ไม่ใช่ประโยชน์ของคณะบุคคลใด หรือครอบครัวใด ตามข่าวบอกว่า ผลการหารือเบื้องต้นของศาลเห็นว่า การใช้ นายกฯ ม.7 ไม่มี กม.รองรับ ก็ยังไม่แน่ชัดว่าจริงตามนั้นหรือเปล่า แต่ถามว่าจะใช้ ม.ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมันใช้ไม่ได้ เพราะมันไม่มีนายกฯ ไม่มีรัฐบาลที่ชอบธรรม ดังนั้นมีทางเดียวคือ ต้องช่วยกันหาทางออก แล้วเดินไปข้างหน้า อย่าเรื่องมากนัก !!