จับตา! ศาล รธน.ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนหาข้อเท็จจริงเพิ่ม 4 ปาก ปม “ยิ่งลักษณ์” สั่งเด้ง “ถวิล” ไม่เป็นธรรม จัด ตร.ดูความปลอดภัยเข้ม ชี้ใครไม่มาถือว่าไม่ติดใจให้ข้อมูลเพิ่ม หากศาลฯ เห็นว่ามีข้อมูลเพียงพอ อาจมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาก่อนลงมติ
วันที่ 5 พ.ค. แหล่งข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญเปิดเผยว่า วาระการประชุมประจำสัปดาห์ของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 6 พฤษภาคม คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะเริ่มประชุมเวลา 09.30 น.เพื่อพิจารณาคดีตามปกติก่อน หลังจากนั้นเวลาประมาณ 10.00 น. คณะตุลาการจะออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานในคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งความเห็นของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กับคณะ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีว่าจะสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182 วรรคหนึ่ง (7) ประกอบมาตรา 268 หรือไม่ จำนวน 4 ปาก ประกอบด้วย นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ผู้ยื่นคำร้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้ถูกร้อง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช.
ทั้งนี้ เบื้องต้นได้รับการประสานว่าพยาน จำนวน 4 ปากจะเดินทางมาให้ถ้อยคำกับศาลรัฐธรรมนูญด้วยตัวเองทั้งหมด แต่หากพยานรายใดที่ไม่ได้เดินทางมาให้ถ้อยคำต่อศาล ก็จะถือว่าไม่ติดใจที่จะให้ถ้อยคำด้วยวาจา ศาลก็จะพิจารณาไปตามพยานหลักฐานที่มีอยู่เดิมประกอบกับบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงที่พยานทั้ง 4 ปากได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญไว้เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ หากศาลรัฐธรรมนูญได้ฟังการไต่สวนข้อเท็จจริงจากพยานทั้งหมดแล้วเห็นว่ามีข้อมูลและข้อเท็จจริงที่เพียงพอก็อาจจะมีคำสั่งนัดวันแถลงด้วยวาจาก่อนลงมติหรือคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา
แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยนั้น เบื้องต้นทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีนครบาลทุ่งสองห้อง มาช่วยดูแลความปลอดภัยโดยรอบสำนักงานฯ และอำนวยความสะดวกให้แก่พยาน คู่กรณีที่เดินทางมาฟังการไต่สวน รวมไปถึงคณะตุลาการฯ และข้าราชการประจำสำนักงานด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รู้สึกเบาใจขึ้นว่าในวันที่ 6 พฤษภาคมไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายใดๆ เพราะขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าจะมีมวลชนกลุ่มใดเคลื่อนไหวมากดดันการพิจารณาคดี แต่หากมีการเคลื่อนไหวทางสำนักงานฯ ก็ได้เตรียมมาตรการและแผนความปลอดภัยไว้แล้ว