ป.ป.ช.ประชุมพิจารณาคำร้อง “ยิ่งลักษณ์” ให้ทบทวนสืบพยานคดีละเลยปล่อยโกงจำนำข้าวเพิ่ม 7 ปาก ด้านทนาย เผยนายกฯ หวัง ป.ป.ช.ให้ความเป็นธรรมยอมให้เพิ่มพยานอย่างน้อย 4 ปากเพื่อความสมบูรณ์ของสำนวน ปัดยื้อเวลา
นายวิทยา อาคมพิทักษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.วันนี้ (24 เม.ย.) หากเจ้าหน้าที่สรุปความเห็นกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ขอให้ ป.ป.ช.ทบทวนการสืบพยานเพิ่มอีก 7 ปาก ในคดีละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการจำนำข้าวได้ทัน คาดว่าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะพิจารณาคำร้องดังกล่าวได้ ซึ่งก่อนนี้ที่ประชุม ป.ป.ช.ได้พิจารณาแล้วและมีมติให้ตัดพยานทั้ง 7 ปากดังกบ่าวออกไป เนื่องจากเห็นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในสำนวน หรืออาจมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ทาง ป.ป.ช.มีข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว จึงเห็นว่าแม้ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะยื่นให้ทบทวนพยานทั้ง 7 ปากใหม่ก็คาดว่า ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะพิจารณาไม่เพิ่มพยานเช่นเดิม
ด้านนายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ แสดงความคาดหวังว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.น่าจะให้เพิ่มเพียงบางปากตามที่ขอไป โดยหวังว่าจะได้เพิ่ม 4 ปาก คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา นายวราเทพ รัตนากร และนายพิชัย ชุณหวชิร ซึ่งจะมีประเด็นที่จะชี้แจงให้ ป.ป.ช.ทราบถึงความจริงว่าเป็นอย่างไร เนื่องจากการพิจารณาคดีของ ป.ป.ช.จำเป็นต้องได้ข้อเท็จจริงที่สมบูรณ์ หากได้ข้อเท็จจริงแล้วจะต้องให้ความเป็นธรรมแก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามที่ได้ถูกกล่าวหาด้วย
อย่างไรก็ตาม หาก ป.ป.ช.ไม่อนุญาตให้เพิ่มพยานทีมทนายจะขอพิจารณาอีกครั้ง นายกรัฐมนตรีเองก็เชื่อว่า ป.ป.ช.จะให้โอกาส และขอความเป็นธรรม เนื่องจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่จะพิจารณาในขั้นต่อไป ถือสำนวนของ ป.ป.ช.เป็นหลักในการพิจารณาคดี ดังนั้นหากพยานของนายกรัฐมนตรีไม่สมบูรณ์ นายกรัฐมนตรีก็จะเสียเปรียบทางคดี
ทั้งนี้ การขอเพิ่มพยานไม่ได้เป็นการประวิงเวลา และเชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะไม่ผิด แต่ขอความเป็นธรรมจาก ป.ป.ช.เพื่อให้สำนวนการไต่สวนสมบูรณ์
